ค่าย Warner Bros เผยว่าถึงแม้ภาพยนตร์เรื่อง ‘Black Adam’ ยังไม่เริ่มฉายแต่ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ทุ่มทุนสร้างมานานกว่า 8 ปี จะพร้อมกวาดรายได้ไปกว่า 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 3 วันนับจากวันแรกที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์พร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 20 ตุลาคมที่กำลังจะถึงนี้ และดูเหมือนว่าความสำเร็จครั้งนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับนักแสดงชายสายแอ็กชั่น Dwayne ‘The Rock’ Johnson เพราะความตั้งใจแรกของ DC Comics คือการให้ตัวละครแบล็ก อดัมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง Shazam! แต่เดอะ ร็อกเผยว่าเขาต้องเจรจากับทีมผู้สร้างเพื่อสู้ให้แบล็ก อดัมมีภาพยนตร์ภาคเดี่ยวแยกออกมาเป็นของตัวเอง

เดอะ ร็อกกล่าวความรู้สึกหลังจากอ่านบทภาพยนตร์เรื่อง Shazam! เวอร์ชั่นแรกที่มีแบล็ก อดัมมาแสดงร่วมเป็นตัวละครหลักเมื่อปี 2014 ว่า “ขณะกำลังอ่านบท มันมีความรู้สึกมวนๆ ในท้องว่าเราไม่ควรจะสร้างภาพยนตร์ในรูปแบบนี้ เพราะเรื่องราวของแบล็ก อดัมจะถูกทำให้เสียของไปอย่างน่าเสียดาย” ด้วยสาเหตุนี้ค่ายดีซีจึงต้องให้สาวกของ Black Adam ต้องคอยนาน ซึ่งนอกจากจะเป็นการให้สปอตไลต์กับตัวละครแต่ละตัวอย่างเต็มที่แล้ว มันยังเป็นการเล่าประวัติตัวละครให้ละเอียดยิ่งขึ้นเพื่อที่จะต่อยอดในการสร้างเส้นทางในรูปแบบคอแลบอเรชั่นที่น่าสนใจมากกว่า

1 / 2

2 / 2

นอกจากนี้นักวิจารณ์ภาพยนตร์ยังกล่าวอีกว่าปรากฏการณ์การสร้างรายได้สูงภายในเวลาอันรวดเร็วของ Black Adam เป็นสถิติที่น่าประทับใจของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่อาจจะไม่ได้รับความนิยมเท่าตัวละครอื่นในรูปแบบการ์ตูน และยังวิเคราะห์ว่าความนิยมของเดอะ ร็อกนั้นมีอิทธิพลต่อรายได้ของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างมาก

Dwayne 'The Rock' Johnson ในบทบาทตัวละคร Black Adam