england
LIFESTYLE

เปิด 5 มู้ดแอนด์โทนในการแต่งบ้านให้หรูหรามีระดับสไตล์อังกฤษ

เลือกแต่งบ้านสไตล์อังกฤษแบบที่คุณชอบและตอบโจทย์การใช้ชีวิต

     หลายคนหลงรักการตกแต่งบ้านสไตล์อังกฤษเพราะดูแล้วรู้สึกอบอุ่นและมีชีวิตชีวา ให้ความรู้สึกถึงความหรูหราแต่ไม่เลี่ยนหรือลายตา ให้ความรู้สึกเบาสบาย เป็นบรรยากาศที่เหมาะกับครอบครัวเล็กๆ ที่มีความสุข วันนี้โว้กจะขอแนะนำ 5  สไตล์ของการแต่งบ้านแบบอังกฤษที่คนธรรมดาก็อยู่ได้ ไม่ใช่สงวนไว้แต่ผู้ดีอังกฤษเท่านั้น

 

 

classic british

ภาพ: Bestdesignideas, Pooky

1. Classical British

     จากชื่อก็บอกแล้วว่าคลาสสิกโดยเป็นรูปแบบการแต่งบ้านแบบย้อนยุค ย้อนเวลาไปสู่ความเป็นอังกฤษแบบออริจินัล เน้นความสวยงาม หรูหรา มีบริเวณที่กว้างขวาง มีดีเทลการตกแต่งด้วยงานศิลปะหรือประติมากรรม ที่ช่วยให้สัดส่วนภายในห้องที่มีความสมดุลกัน เฟอร์นิเจอร์จะเป็นสไตล์หลุยส์ทั้งหมด เลือกใช้โคมไฟระย้าอย่างโคมไฟแบบแชนเดอเลียร์และการตกแต่งที่มีทั้งพู่และระบาย สามารถตกแต่งได้กับผ้าม่าน ผ้าคลุมโต๊ะ โคมไฟตั้งโต๊ะที่มีดีไซน์หรูหราใช้กรอบหลุยส์กับทั้งรูปภาพและกรอบกระจก ตบท้ายด้วยชุดแจกันดอกไม้สดเพิ่มสีสันและความสดชื่นให้กับห้อง ส่วนอีกหนึ่งไอเท็มที่เลือกใช้เป็นของตกแต่งเพิ่มระดับความหรูหรานั่นคือคริสตัลหรือชุดแก้วเจียระไน อาจเพิ่มเติมกลิ่นอายความเป็นผู้ดีอังกฤษด้วยชุดน้ำชา หรือชุดจานกระเบื้องเซรามิกแบบเรียบหรูในการตกแต่ง

 

cottage decor

ภาพ: Realhomes.com

2. Cottage

     Cottage ที่ไม่ได้หมายถึงกระท่อมน้อย แต่เป็นการตกแต่งที่คล้ายๆ กับแนววินเทจที่เน้นให้ความรู้สึกแบบย้อนยุค หากเปรียบเป็นสถานที่คลาสสิกคือวัง บ้านชนชั้นสูงในเมืองหลวง แต่ Cottage คือบ้านพักตากอากาศของชนชั้นสูงในชานเมือง ใจความสำคัญในการตกแต่งแนว Cottage คือการมอบกลิ่นอายและความดิบของพื้นผิวอันหลากหลาย เช่น โลหะ หิน ปูน หรือไม้ ได้อย่างชัดเจน การตกแต่งแนว Cottage ต้องอาศัยการคุมโทน ส่วนมากคุมโทนสีออกน้ำตาล น้ำตาลเข้ม และโทนสีที่ออกสนิมเล็กน้อย แต่ให้ความเก๋ด้วยการตกแต่งในสไตล์คลาสสิกคือการใช้ไม้ โครงเหล็ก และวัสดุจากธรรมชาติในการตกแต่งที่ให้กลิ่นอายของความเป็นชนบท

 



WATCH




victoria

ภาพ: Theenglishhome, masterclass

3. Victorian

     Victorian คือความหรูที่มีดีกรีไม่มากเท่ากับ Classical British เพราะเน้นความเรียบง่ายและความละเอียดอ่อน ส่วนมากเป็นการจัดวางข้าวของ และเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ความแตกต่างของสไตล์ Classical British คือการตกแต่งที่มีเฟอร์นิเจอร์เป็นจำนวนมาก แต่สไตล์ Victorian จะเป็นการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ที่มีจำนวนน้อยกว่า แต่จะโดดเด่นด้วยการเล่นลวดลายกับสีสันและเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก เพิ่มบรรยากาศความอบอุ่นด้วยการตกแต่งด้วยเตาผิง หรือถ้าหากต้องการใช้วัสดุที่เป็นผ้าตกแต่ง ควรเลือกใช้ผ้าทอลายสก๊อต ลายเส้นตรง หรือลายดอกไม้ในการตกแต่งเป็นหลัก พร้อมลายปลอกหมอนที่มีลายเดียวกับโซฟาเพื่อให้ดูเข้าเซ็ตกัน ส่วนการตกแต่งในส่วนอื่นๆ จะมีการใช้กระจกเก่า โครงเหล็กดัด เก้าอี้ไม้ นาฬิกาแบบตั้งพื้น รวมไปถึงประตูหรือหน้าต่างที่จะมีลวดลายแบบดั้งเดิมของอังกฤษทั้งหมด แตกต่างด้วยความละเอียดอ่อนและความเรียบง่ายที่มากกว่า

 

english modern

ภาพ: Pinterest

4. English Modern

     ทำความเข้าใจง่ายๆ ของการดีไซน์ English Modern คือการผสมผสานระหว่างความเป็น Cottage, Vintage และ Modern เป็นการตกแต่งที่เน้นบรรยากาศที่เหมือนกับสไตล์อื่นๆ เป็นความโปร่งสบาย ที่ผสานความทันสมัยร่วมกันอย่างลงตัว จัดสมดุลของแต่ละสไตล์ผ่านการใช้โทนสีที่สบายตา เช่น โทนสีขาว สีงาช้าง หรือหากเป็นสีเข้ม โทนที่เหมาะคือโทนสีน้ำเงินกรมท่าหรือสีดำ ตัวอย่างการตกแต่งนั้นสามารถเลือกใช้เป็นโซฟาโมเดิร์นบุผ้าหรือหนัง พร้อมกับหมอนอิงดีไซน์ต่างๆ เพื่อทำให้เกิดความวาไรตี้มากขึ้น การตกแต่งสไตล์นี้เป็นที่ชื่นชอบอย่างมากของคนอังกฤษในยุคปัจจุบัน เพราะไม่ได้ดูอนุรักษ์นิยมมากจนเกินไป แต่ผสานความโมเดิร์นและความเท่ที่คนรุ่นใหม่เข้าถึงได้

 

country

ภาพ: Coolchicstylefashion, Katieconsiders

5. Country

     การตกแต่งสไตล์ Country มีลักษณะคล้ายกับ Cottage แต่จะเน้นเรื่องการตกแต่งแบบตามสไตล์เจ้าของบ้านที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ ความหรูหราแบบผู้ดีอังกฤษนั้นเป็นเรื่องรอง อีกไอเท็มเสริมที่ต้องมีคือการตกแต่งด้วยแจกันดอกไม้สด และสามารถเพิ่มการใช้กระถางต้นไม้ที่ปลูกไม้ประดับภายในบ้าน ในส่วนของการเลือกใช้โทนที่สดใสและสีกลางๆ เพื่อให้ได้ความรู้สึกที่อบอุ่นและผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านจะเน้นวัสดุที่เป็นไม้ ผสมกับโซฟาแบบบุผ้าที่มีลวดลายดอกไม้หรือโทนสีเรียบง่าย

 

ข้อมูล : 108reviews.com, Masterclass

WATCH

คีย์เวิร์ด: #EnglandHouse