หลังจากที่ทุกคนรอคอยมานานกับภาพยนตร์เวอร์ชั่นไลฟ์แอ็กชั่นอย่าง The Little Mermaid ที่เป็นกระแสมานานแรมปีก็ได้เข้าฉายในวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็มีทั้งในด้านดีและเสียปะปนกันไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าทั้งหน้าไทม์ไลน์ในโซเชียลตอนนี้มีแต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเฉพาะการพูดถึง Halle Bailey ผู้รับบทเป็น Ariel ตัวแสดงหลักของเรื่องที่ก่อนหน้านี้ก็โดนคำครหาว่าไม่เหมาะสมกับบทเพราะเธอคือชาวผิวสีไม่ตรงตามคอนเซปต์ของนางเงือกผิวขาวที่เรื่องเงือกน้อยได้ทำไว้ในเวอร์ชั่นการ์ตูน (ตามไปอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ The Little Mermaid เพิ่มเติมได้ที่ ผิดตรงไหน...ถ้านางเงือกจะตัวดำ และไม่ได้เป็นเหมือนภาพฝันวัยเด็กของใครๆ และ ดราม่าไม่จบ…สรุปดิสนีย์อยากสร้างความเท่าเทียม หรือต้องการตอกย้ำความเป็น ‘เงือกผิวดำ’ กันแน่ ) แน่นอนว่าประเด็นดังกล่าวกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะปล่อยลงจอให้เหล่าสาวกดิสนีย์ได้รับชมกันแล้วก็ตาม เพราะผู้คนกล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ในด้านดี แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากเช่นกันที่ขุดคุ้ยข้อเสียหรือแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับบทแอเรียล และตัวของฮัลลีเองไม่จบไม่สิ้น

 

    ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง The Little Mermaid / ภาพ: Disney Parks

     เป็นเวลาร่วมสัปดาห์ที่ภาพยนตร์ The Little Mermaid ยังคงฉายให้ผู้คนได้รับชม จนสามารถทำรายได้นอกสหรัฐอเมริกาได้ทั้งหมด 68.3 ล้านเหรียญ เมื่อรวมกับรายได้ในสหรัฐอเมริกาจะมีรายได้อยู่ที่ 185 ล้านเหรียญหรือราว 6.43 พันล้านบาท ซึ่งหากนับรวมภาพยนตร์ที่เปิดตัวในปีนี้ นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับที่ 8 หากถามว่าเป็นจำนวนที่สูงหรือเปล่า คงตอบได้ไม่เต็มปากเสียทีเดียวเพราะมีสำนักข่าวคอหนังหลายสำนักคาดการณ์ไว้ว่ารายได้น่าจะสูงกว่านี้ แต่หลายคนอาจสงสัยว่าเมื่อรายได้ไม่ได้ดีเท่าที่คิด แต่ทำไมตามแฟนเพจหรือเว็บไซต์ต่างๆ ยังคงเอ่ยปากชมภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าดีหนักหนา เพราะเมื่อไปตามอ่านคอมเมนต์แล้วความเห็นด้านลบมีมากกว่าด้านบวกเป็นเท่าหนึ่ง หรือเพราะการวิจารณ์หนังจากแหล่งอ้างอิงอื่นๆ นั้นมองตามความเป็นจริงไร้อคติ หรือเพียงแค่จะอวยช่วยโปรโมตหนังเกินจริงกันแน่

 

 ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง The Little Mermaid / ภาพ: Teen Vogue

     หากลองมองในมุมของผู้เขียนก็คงจะบอกได้ว่าถ้าคุณผู้ชมเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์ด้วยความคาดหวังและมีภาพจำติดอยู่ว่านางเงือกแอเรียลคือคนผิวขาวและผมสีแดงแจ๊ดตามแบบฉบับการ์ตูน อย่างไรแล้วคุณก็ผิดหวังและไม่มีทางอินกับบทบาทใหม่ของฮัลลีในครั้งนี้แน่นอน เพราะมันก็เป็นสิ่งที่ยากจะทำใจยอมรับและแกล้งลืมไปได้ ทั้งยังมีบางฉากที่ยิ่งตอกย้ำความไม่สมจริงอย่างเช่นฉากโขดหินที่สายตาของฮัลลีดูไม่เพ้อฝันเหมือนเจ้าหญิงแอเรียลในการ์ตูน แต่กลับกลายเป็นความดุดันเสียมากกว่าจนทำให้ใครหลายคนต่างไม่อินกับสิ่งนี้และหลุดหัวเราะกันไปโดยปริยาย แต่หากกล่าวถึงโปรดักชั่นหรือเรื่องฉากและภาพที่ดิสนีย์ต้องการนำเสนอก็ถือว่าทำได้ดีและสมจริง เพราะต้องยอมรับว่าดิสนีย์ไม่เคยทำให้เสียความรู้สึกกับภาพซีจีหรือการใช้เอฟเฟกต์ใดใดเพื่อให้ผู้ชมได้เข้าถึงเสมือนเข้าไปอยู่ในเรื่องด้วยเช่นกัน และการกล่าวถึงนักแสดงที่รับบทบาทต่างๆ ก็เห็นว่าทุกคนถ่ายทอดออกมาได้ดี ราวกับเป็นการสร้างตัวตนใหม่ให้กับคาแร็กเตอร์ต่างๆ ขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้น ทว่าสุดท้ายแล้วถ้าพูดถึงคำถามดังกล่าวข้างต้นที่ตั้งไว้ คงเป็นการหาข้อดีมานำเสนอเพื่อถัวเฉลี่ยข้อเสียซะมากกว่า เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สร้างความประทับใจไว้ไม่น้อยทั้งเรื่องของเพลง เสียงร้องของเหล่านักแสดง รวมถึงตัวประกอบต่างๆ ก็สามารถพาภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องไปอย่างไม่ติดขัด แต่อย่างไรแล้วก็ยังไม่สามารถล้างบรรทัดฐานเดิมของเวอร์ชั่นต้นฉบับได้ นี่คงถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของดิสนีย์ว่าการ 'ได้อย่างเสียอย่าง' คงเกิดขึ้นแล้ว เพราะการที่จะยอมแลกมาด้วยการนำเสนอความหลากหลายและความแปลกใหม่ ทว่าก็ไม่สามารถซื้อใจของผู้ชมได้ทั้งหมดอยู่ดี...