นับถอยหลังในอีกไม่ช้าที่ The Little Mermaid จะเข้าฉายในเดือนพฤษภาคมที่กำลังจะถึงนี้ ก็เป็นกระแสให้พูดถึงไม่หยุดหย่อนเมื่อค่าย Disney ได้ทยอยปล่อยภาพจากภาพยนตร์และเบื้องหลังมาให้เหล่าแฟนๆ ได้รับชมกันถ้วนหน้า แน่นอนว่าภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชั่นเรื่องนี้มีประเด็นให้พูดถึงอยู่เรื่อยมาโดยเฉพาะตัวละคร ‘แอเรียล’ ที่ได้ Halle Bailey มารับบทนำ ซึ่งประเด็นดังกล่าวเปรียบเหมือนชนวนที่พร้อมจุดไฟให้ปะทุอยู่เรื่อยๆ ว่าเธอคนนี้ไม่เหมาะสมกับการมารับบทเป็นเจ้าหญิงเงือกเพียงเพราะเธอคือผู้หญิงผิวสี ไม่ตรงตามฉบับการ์ตูนที่ดิสนีย์เคยสร้างจินตนาการเอาไว้ (ตามไปอ่านประเด็นนี้เพิ่มเติมได้ที่บทความ "ผิดตรงไหน...ถ้านางเงือกจะตัวดำ และไม่ได้เป็นเหมือนภาพฝันวัยเด็กของใครๆ")

 

    ภาพจากภาพยนตร์เรื่อง 'The Little Mermaid' เวอร์ชั่นไลฟ์แอ็กชั่น 2023 / ภาพ: Variety

     มันไม่ใช่เรื่องผิดที่ฮัลลีเกิดมาเป็นผู้หญิงผิวสี แต่หลายคนต่างพุ่งโจมตีไปที่ต้นสังกัดเสียมากกว่าว่าดิสนีย์พยายามยัดเยียด ‘ความเท่าเทียม’ เข้ามาในบทมากเกินไป จนทำให้ทำลายภาพจำตัวการ์ตูนที่เราเคยเห็นในวัยเด็กไปหมดสิ้น เรื่องควรจะเงียบลงเพราะคิดว่าผู้ชมคงทำใจยอมรับได้ในสักวัน แต่กลับเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ เพราะนอกจากฮัลลีจะโดนบูลลี่และถูกเหยียดชาติพันธุ์ ยังมีคนส่วนใหญ่ต่างเคาะเป็นเสียงเดียวกันว่าค่ายยังเลือกนักแสดงให้มารับบทดังกล่าวอย่างไม่เหมาะสมอยู่ดี มิหนำซ้ำตัวละคร Vanessa ตัวร้ายของเรื่องนี้ที่เป็นร่างแปลงของ Ursula รับบทโดย Jessica Alexander ยังได้รับคำชมอย่างล้นหลาม แต่มิวายกลับมาแซะบทแอเรียลอีกเช่นเคยในทำนองที่ว่า “ถ้าเราเป็นเจ้าชาย เราก็เลือกตัวร้าย” บ้างล่ะ “ตัวโกงสวยกว่านางเอก” บ้างล่ะ หรือจะเป็น “เหมือนลากนางเอกมาฆ่าชัดๆ” สิ่งเหล่านี้จึงทำให้หลายคนต่างสงสัยว่าทำไมตัวร้ายในไลฟ์แอ็กชั่นยังสามารถหานักแสดงมาแคสต์ได้ตรงปก เหตุใดจึงหาคนผิวขาวมารับบทแอเรียลบ้างไม่ได้ เพราะเหตุนี้เองสังคมจึงตั้งคำถามใหม่ขึ้นมาว่า “หรือจริงๆ แล้วต้นสังกัดไม่ได้ตั้งใจจะยัดเยียด ‘ความเท่าเทียม’ แต่ตั้งใจโจมตีว่า ‘นักแสดงผิวสีไม่มีวันมารับบทคนผิวขาวได้’ กันแน่”

 

 Jessica Alexander ผู้รับบทเป็น Vanessa ตัวร้ายในภาพยนตร์เรื่อง 'The Little Mermaid' เวอร์ชั่นไลฟ์แอ็กชั่น 2023 / ภาพ: The DisInsider

     จากประโยคดังกล่าวผู้เขียนมองว่าเป็นการตบหน้าค่ายเข้าอย่างจัง เพราะมันดูใจร้ายไปเสียหน่อยที่เสียงส่วนใหญ่ดูเหมือนยากที่จะทำใจยอมรับกับการตัดสินใจของดิสนีย์ที่ให้ฮัลลีมารับบทเป็นเงือกน้อยเช่นนี้ จึงพยายามหาเหตุผลต่างๆ นานามาเป็นตัวสนับสนุนความคิดหรือพยายามแหกหน้าค่ายก็ไม่ปาน  ทว่าเหยื่อที่ถูกกระทำทางตรงเห็นจะหนีไม่พ้นฮันลีที่ต้องน้อมรับคำวิจารณ์ และพยายามทำใจกับเสียงข้างลบที่โจมตีเธอผ่านตัวหนังสือ หรือนำรูปเธอไปตัดต่อล้อเลียนเป็นมีมต่างๆ ซึ่งไม่ใช่ความผิดของเธอเลยแม้แต่น้อย จริงอยู่ที่การวิจารณ์มันไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่าให้ใครมาเป็นเหยื่อของคำพูดอันแสนสนุกปากจากนักเลงหลังจออีกเลย อย่างไรแล้วจุดประสงค์หลักของต้นสังกัดเราไม่สามารถหยั่งรู้ได้ว่าสาเหตุที่แท้จริงของการคัดเลือกนักแสดงคืออะไร เรื่องบางเรื่องจึงไม่จำเป็นต้องไปหาคำตอบเพื่อทำร้ายคนอีกคน (หรือทำร้ายทั้งชาติพันธุ์) ก็ได้ เพียงแต่รอจับตาดูความเคลื่อนไหวต่อไปว่าเมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ลงจอฉายแล้วกระแสจะเป็นไปในทิศทางไหนและสนใจถึงความบันเทิงที่ค่ายตั้งใจจะสื่อถึงเหล่าผู้ชมก็พอ แต่ก็ไม่แน่ว่าคำตอบที่ทุกคนตามหาอาจจะแฝงอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้...