
WATCHES & JEWELLERY
VOGUE WATCH | เจาะลึกนาฬิกาทอง 4 ประเภท ของ 4 แบรนด์ชั้นนำจาก Watches & Wonders 2025นาฬิกาเรือนทองอันทรงคุณค่าและเปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์มีความหลากหลายตั้งแต่วัสดุ สไตล์ งานศิลปะ เรื่อยไปจนถึงนวัตกรรมที่สาวกนาฬิกาไม่ควรพลาด |
ท่ามกลางความยิ่งใหญ่แห่งอุตสาหกรรมนาฬิการะดับโลก เป็นประจำทุกปีที่แบรนด์นาฬิกาน้อยใหญ่หรือแม้แต่นักสร้างสรรค์เรือนเวลาอิสระจะเผยโฉมผลงานอันเลอค่าที่มาจากทั้งไอเดียความสร้างสรรค์เชิงศิลป์และนวัตกรรมที่ดันขีดจำกัดของมนุษย์ สำหรับ Vogue Watch สกู๊ปอย่างเป็นทางของโว้กประเทศไทยที่พร้อมนำเสนอเรื่องราวของเรือนเวลาที่น่าสนใจพร้อมสอดแทรกความน่าสนใจด้วยมิติต่างๆ เริ่มจากไฮไลต์จากงาน Watches & Wonders ประจำปี 2025 ที่มีแบรนด์มากมายรังสรรค์เรือนเวลาข้อมือที่สามารถสะกดตาสาวกนาฬิกาได้อยู่หมัด
เริ่มตอนแรกกับคอนเซปต์ “Heart of Gold” กับการรวบรวมเรือนเวลาชั้นยอดจาก 4 แบรนด์ที่เลือกสรรวัสดุทองคุณภาพสูงและมีเอกลักษณ์มารังสรรค์นาฬิกามากถึง 4 รูปแบบแตกต่างกัน ตั้งแต่เยลโลว์โกลด์ พิงก์โกลด์ ไวต์โกลด์ และปิดท้ายด้วย ‘5N’ วัสดุสุดพิเศษที่เสิร์ฟพร้อมนวัตกรรมอันน่าประทับใจ ในบทความจะพาคอนาฬิกาทุกคนไปสัมผัสกับเรือนเวลาทองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และขับเสน่ห์ของแต่ละแบรนด์ออกมาได้อย่างเด่นชัดและแตกต่างไม่เหมือนใครที่สุด
- Rolex Perpetual 1908
สำหรับเรือนเวลาคอลเล็กชั่นใหม่จาก Rolex ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2023 และสร้างความตื่นเต้นให้กับคอนาฬิกาทั่วโลกกับการรื้อฟื้นนาฬิกาเดรสกลับมาอีกครั้ง โดยโมเดล 1908 เป็นดั่งตัวตายตัวแทนของ Cellini เรือนเวลาเดรสสุดคลาสสิกที่เดินทางผ่านกาลเวลามานานหลายทศวรรษ ปีนี้โรเล็กซืเพิ่มมิติความหรูหราและเสริมแต่งเอกลักษณ์ให้นาฬิกาเรือนนี้น่าสนใจขึ้นด้วยการผลิตเรือนเวลาและสายด้วยวัสดุเยลโลว์โกล์ครบถ้วนทุกองค์ประกอบ ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่สายแบบ ‘Settimo’ ร้อยเรียงอย่างสวยงาม เสริมความหรูหราขึ้นอีกระดับ ในขณะเดียวกันก็ยังรักษาเอกลักษณ์ของนาฬิกาไว้ได้เช่นเดียว ไม่ว่าจะเป็นเบเซลสไตล์ ‘fluted-bezel’ เอกลักษณ์ของแบรนด์ หรือจะเป็นการนำเสนอหน้าปัดขาวนวลพร้อมหน้าปัดย่อยบอกหลักวินาทีแบบ Small Seconds บริเวณ 6 นาฬิกาที่เรียบง่ายคลาสสิกแต่สอดรับกับทุกช่วงสัดส่วนของเรือนเวลาอย่างถึงที่สุด โดยขนาดหน้าปัด 39 มิลลิเมตร ตอบโจทย์การสวมใส่ทุกรูปแบบ แม้แต่สุภาพสตรีที่ชื่นชอบนาฬิกาขนาดใหญ่ก็อาจหลงรักกับความสง่างามจากวัสดุทองที่โดดเด่นเรืองรอง รวมถึงกลไก Self-Winding ที่สำรองพลังงานได้นานถึง 66 ชั่วโมง นับเป็นนาฬิกาเรือนทองที่ทั้งหรูหราและมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เรียบง่ายแต่ครบถ้วน
- Jaeger-LeCoultre Reverso Tribute Monoface Small Seconds
อีกหนึ่งเรือนเวลาที่ชูความโดดเด่นของดีไซน์หน้าปัดย่อย Small Seconds คือ Reverso Tribute Monoface Small Seconds จากแบรนด์ Jaeger-LeCoultre ย้อนกลับไปเมื่อปี 1931 แบรนด์คิดค้นวิธีการสลับหน้าปัดเพื่อรักษาความคงทนขณะเล่นกีฬาโปโล นาฬิกาเรือนนี้จึงเป็นตัวอย่างสะท้อนฟังก์ชั่นแบบดั้งเดิมด้วยลักษณะ ‘Monoface’ หรือกลไกการบอกเวลาด้านเดียวและพับเก็บด้านหลังเพื่อรักษานาฬิกา ครั้งนี้แบรนด์เน้นย้ำการใช้วัสดุพิงก์โกลด์ทั้งตัวเรือนและสาย โดยสายเป็นแบบ ‘Milanese’ เหมือนงานศิลปะที่ละเอียดประณีตทุกกระเบียดนิ้ว หน้าปัดก็โดดเด่นด้วยรายละเอียดแบบ ‘Grained’ ที่สร้างคอนทราสต์ที่แตกต่างแต่เข้ากัน นอกจากนี้ยังมีกลไกหน้าปัดย่อยแบบ Small Seconds คอยระบุหลักวินาทีแยกกับหลักชั่วโมงและนาทีอย่างชัดเจน โดยเรือนเวลาจากแบรนด์ระดับตำนานนี้มาในกลไกไขลาน (Caliber 822) สามารถสำรองพลังงานได้ 42 ชั่วโมง แต่ไฮไลต์สำคัญอีกอย่างคือความบางเพียง 7.56 มิลลิเมตร ถือว่าเป็นเรือนเวลาที่สามารถสอดรับเข้ากับข้อมือได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- Piaget Polo 79
สำหรับ Piaget เรือนเวลาอย่าง Polo 79 ได้สร้างปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่ไปแล้วเมื่อครั้งเฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปีของเมซงเมื่อปีก่อน โดดเด่นอย่างมากกับวัสดุเยลโลว์โกลด์ แต่ในปี 2025 ดูเหมือนว่า Polo 79 ยังเปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ที่คอนาฬิกาทั่วโลกเฝ้ารอ เพียเจต์ไม่พลาดที่จะต่อยอดความสำเร็จจากปีก่อนด้วยการเผยโฉมเรือนเวลา Polo 79 ในเวอร์ชั่นไวต์โกลด์ คงรูปแบบการดีไซน์ ขนาดหน้าปัด และรายละเอียดขององค์ประกอบต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟินิชชิ่งแบบโรเดียมที่มอบความรู้สึกไม่เหมือนใคร รวมถึงงานศิลปะกาดรูน (Gadroon) ที่ถูกใช้ในการรังสรรค์สายและตัวเรือนที่ผูกโยงติดกันเป็นชิ้นเดียว และถึงแม้จะมีน้ำหนักพอสมควรแต่ด้วยระบบกลไกออโต้ รวมถึงวัสดุทอง ‘solid’ ที่มาพร้อมความบางเพียง 7.45 มิลลิเมตร ก็นับว่า Piaget Polo 79 เรือนนี้คือสุดยอดงานศิลปะและสุดยอดผลงานนวัตกรรมจากเมซงเช่นเดียวกัน
- IWC Schaffhausen Ingenieur 35 (Automatic)
เมื่องานวิศวกรรมคือรากฐานการออกแบบของนาฬิกาสุดคลาสสิกอย่าง Ingenieur ที่ถูกกล่าวถึงอีกครั้งใน Watches & Wonders ปีนี้ และสดุดีแด่ Gérald Genta สุดยอดนักรังสรรค์นาฬิการะดับตำนานผู้สร้างให้เรือนเวลาเรือนนี้เป็นตำนานเคียงคู่ชื่อเสียงของเขาไม่แพ้นาฬิกาเรือนอื่นๆ โดยในปีนี้ IWC Schaffhausen เนรมิตนาฬิกากลไกอัตโนมัติอย่าง Ingenieur ขนาดหน้าปัด 35 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ไฮไลต์สำคัญคือการรังสรรค์ตัวเรือนและสายด้วยวัสดุ ‘5N Gold’ ทองชนิดพิเศษที่จดทะเบียนโดยแบรนด์เท่านั้น ซึ่งลวดลายหน้าปัดแบบช่องตารางหรือ ‘Grid’ ยังคงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ทีมวิศวกรยังคิดค้นวิธีการลดขนาดสู่ 35 มิลลิเมตรด้วยความมุ่งมั่นจะมอบความสบายในการสวมใส่และรักษามนต์เสน่ห์ของ Ingenieur ให้ชัดเจนเช่นเดิม นับเป็นนาฬิกาสายสปอร์ตเรือนและสายทองที่สาวกนาฬิกาทั่วโลกไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ติดตามชมสกู๊ป Vogue Watch กันได้ตลอดวันจันทร์สุดท้ายของทุกเดือน
(สามารถอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน Watches & Wonders 2025 ได้ที่บทความ VOGUE SCOOP | เจาะทุกเรื่องจาก Watches & Wonders 2025 งานนาฬิกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปีนี้)
WATCH