Jaeger-LeCoultre ต่อยอดความสำเร็จ ณ Milan Design Week หลังจบ W&W 2025 ด้วยนาฬิกาในตำนาน

     หลังจบงาน Watches & Wonders แต่ละปี ส่วนมากแบรนด์ยักษ์ใหญ่จะค่อยๆ ชะลอการนำเสนอเรือนเวลาหรือห่างหายไปเรื่องการนำเสนอผลงานชิ้นใหม่ไปสักระยะ โดยไปเน้นทำการตลาดและสร้างสรรค์แคมเปญเพื่อต่อยอดจากงานนาฬิกาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบปีเสียมากกว่า แต่ไม่ใช่สำหรับ Jaeger-LeCoultre ในปี 2025 เพราะเพียงสัปดาห์เดียวต่อจากนั้น แบรนด์ได้ย้ายฐานที่มั่นจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สู่ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เพื่อนำเสนอเรือนเวลาที่ได้ชื่อว่าเป็น “เรือนเวลาระดับตำนาน”

     ในงาน Watches & Wonders ประจำปี 2025 แบรนด์พูดถึงเรื่องราวของกีฬาโปโลและย้อนถึงการรังสรรค์เรือนเวลา Reverso ในปี 1931 แต่ในงาน Milan Design Week นั้นกำลังพาทุกคนย้อนเวลากลับไปเก่ากว่านั้น โดยเล่าเรื่องราวของเรือนเวลา Atmos ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นตั้งแต่ปี 1928 และถูกออกแบบมาให้ส่งสัญญาณบอกเวลายาวนานถึง 1,000 ปี ซึ่งแบรนด์ได้เจาะลึกและคิดค้นเรือนเวลาตั้งโต๊ะดั้งเดิมนี้ในรูปแบบใหม่ และนำเสนอภายใต้ชื่อ Atmos Infinite ‘Halo’ เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวความยอดเยี่ยมที่ปรากฏขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์มานานเกือบเข้าหลักศตวรรษ

    ผลงานอันสะท้อนนวัตกรรมสุดเหลือเชื่อในแวดวงนาฬิกานี้ถูกจัดแสดงภายในนิทรรศการชื่อ “Living on Air” ที่ Villa Mozart โดยจะจัดแสดงถึงวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2025 นอกจากนาฬิกาเรือนนี้ยังมีนาฬิกา Atmos อื่นๆ มากถึง 19 เรือนที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาตลอดมากกว่า 9 ทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับวิธีการถ่ายทอดพลังงานความร้อนสู่การขับเคลื่อนกลไกนาฬิกาในนิทรรศการครั้งนี้ และจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์ของนาฬิกา Atmos ที่ถูกผลิตซ้ำมาหลายครั้งตลอดหลายทศวรรษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากยุค 1970s ที่แบรนด์เริ่มทำคอแลบอเรชั่นร่วมกับดีไซเนอร์และช่างฝีมือระดับแนวหน้าเพื่อสรรสร้างนาฬิกา Atmos ในรูปแบบต่างๆ

     Jérôme Lambert ประธานกรรมการบริหารของแบรนด์กล่าวว่า “เราปิดสวิตช์จบงานที่เจนีวา และเปิดสวิตช์เริ่มงานที่มิลาน เฌแชร์-เลอคูลทร์เดินทางมาอิตาลีเพื่อนำเสนออนาคตของการรังสรรค์นาฬิกาชั้นยอดผ่านอีกมุมมองหนึ่ง” พร้อมเสริมว่า “นาฬิกาเรือนนี้ (Atmos) ถูกคิดค้นมาตั้งแต่ปี 1928 และยังคงแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ เรามีนักสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมที่รื้อสร้างการคิดค้นมันอีกครั้ง” ต้องบอกว่านี่คืออีกหนึ่งมุมมองในการนำเสนอนาฬิการะดับตำนานของแบรนด์ไอคอนิกโดยแท้จริง และเชื่อเลยว่าเฌแชร์-เลอคูลทร์จะเดินหน้าพัฒนาและหยิบยกประวัติศาสตร์อันยาวนานมาเล่าขานด้วยความสดใหม่และพัฒนาไปยิ่งกว่าเดิมแน่นอน

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4