เริ่มต้นแล้วอย่างดุเดือดกับโครงการสุดยอดเฟ้นหาดีไซเนอร์แถวหน้าของเมืองไทยใน Vogue Who’s On Next 2019 ที่ปีนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกปีแห่งความเข้มข้นของเหล่าดีไซเนอร์ทั้งหลายที่ต้องสู้ฝีมือวัดดวงกันแล้วว่าสุดท้ายใครจะเป็นสุดยอดดีไซเนอร์ของโครงการ และแน่นอนผ่านไปแล้วกับตอนที่ 1 ที่เฉลยถึงผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย (คลิกที่นี่เพื่อรับชมย้อนหลัง) วันนี้โว้กจึงนำลิสต์ดีไซเนอร์เหล่านั้นมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น ตามไปดูกันว่าจะมีใครบ้าง แล้วเขาคนนั้นจะเป็นคนที่คุณคอยเชียร์อยู่หรือไม่

Coralist

เราเริ่มด้วยแบรนด์ชุดว่ายน้ำสำหรับสุภาพสตรีกันก่อน Coralist กับเจ้าของแบรนด์อย่างสาวเอน่า-ธันยพร ต้องการที่จะนำเสนอไลฟ์สไตล์ของความเป็นแฟชั่นในเมืองที่มาบรรจบกับโลกแห่งท้องทะเลผ่านชุดว่ายน้ำหลากสีสันและหลากหลายสไตล์ เพื่อช่วยดึงเอาความมั่นใจของหญิงสาวในเรือนร่างของตัวเองให้ออกมาอย่างเฉิดฉายยามเดินเล่นริมชายหาด มาพร้อมเนื้อผ้าระดับคุณภาพและดีไซน์อันสวยชิค ทั้งหมดนี้จึงพูดได้คำเดียวเลยว่าเป็นผู้เข้าแข่งที่น่าจับตามองเลยทีเดียว

ติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์นี้ได้ที่ IG: coralist.swimwear

Tutti

อีกหนึ่งผู้เข้าแข่งขันสาวกับแบรนด์เสื้อผ้าสำหรับสาวหวานเฟมินินอย่าง Tutti ดีไซเนอร์สาวนันธนุช พาแบรนด์ต้องเองเข้าแข่งขันรายการด้วยดีไซน์การตัดเย็บอันประณีต โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์อย่างการใช้ผ้าลูกไม้ และผ้าไหมออร์แกนซ่าเป็นหลัก เพื่อสื่อถึงความโรแมนติกที่ติดกลิ่นอายความวินเทจนิดๆ ด้วยผ้าลูกไม้ หากดูเรียบหรูและคลาสสิคด้วยการเลือกใช้ผ้าไหมออร์แกนซ่า แน่นอนหากใครที่ชื่นชอบความเฟมินินเหล่านี้อาจเทใจให้กับแบรนด์นี้ได้ไม่ยากเลยทีเดียว

ติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์นี้ได้ที่ IG: tuttiandme

Ferratiti

สำหรับผู้เข้าแข่งพร้อมแบรนด์เสื้อผ้ายังคงไม่หมด เพราะดีไซเนอร์อย่างสาม-ชวัฎวิทย์ นำเอาชุดเจ้าสาวจากแบรนด์ตัวเอง Ferratiti เข้าสู่การแข่งขันพร้อมเอกลักษณ์ด้วยดีเทลตาแตกกับฝีเข็มถี่ยิบและการปักในการรังสรรค์ชุดเจ้าสาว ที่มาพร้อมกลิ่นอายความโมเดิร์นผสมผสานความวินเทจและความดราม่านิดๆ หากแน่นอนว่ายังคงใส่คาแรกเตอร์ของเจ้าสาวแต่ละคนลงบนชุดได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว ฝีมือระดับนี้เรียกว่าเป็นผู้เข้าแข่งขันที่ไม่เบาเลยอีกคน

ติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์นี้ได้ที่ IG: CHAWATWITBRIDAL

Jirawat

ไอเดียการนำเอาเสื้อผ้าวินเทจมาประยุกต์ใหม่ให้โมเดิร์นด้วยการลวดลายและการตกแต่งแบบสมัยใหม่เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของแบรนด์ Jirawat โดยมีหัวหอกนำทัพอย่างก็อต-จิรวัฒน์ ที่ชื่นชอบการนำเสื้อผ้าเหล่านั้นมาผสมผสานขึ้นใหม่ร่วมกับผ้าทอชนิดอื่นๆ และแน่นอนยังรวมถึงเสื้อผ้าที่ตัดเย็บขึ้นใหม่ด้วย โดดเด่นด้วยการปักและลวดลายที่เป็นกิมมิคเก๋ๆ อีกมากมาย ถือเป็นผู้เข้าแข่งขันที่เต็มไปด้วยไอเดียอันหลากหลายเลยทีเดียว

ติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์นี้ได้ที่ IG: jirawat_gewat

Youth Tonic

สองสาวแท็กทีมกันอย่างเพลิน-ทิพปภา และทราย-พัทธิชา พาแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองอย่าง Youth Tonic เข้าแข่งขันในรายการด้วยมอตโตที่ว่า “ทุกคนมีความเป็นเด็กเสมอไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่” พร้อมเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่างการใช้ดีเทล Deconstruction ที่เกิดจากการถอดประกอบผ้าชิ้นต่างๆ ให้เกิดเป็นซิลูเอตใหม่ พร้อมการใช้ผ้าเทเลอร์ และการใช้ดีเทลชุดกีฬาผสมผสานอยู่ในนั้น เป็นอีกหนึ่งผู้เข้าแข่งขันที่สดใหม่และมีเอกลักษณ์เลยทีเดียว

ติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์นี้ได้ที่ IG: youth.tonic

NICHP

อีกหนึ่งผู้เข้าแข่งขันที่มาพร้อมสไตล์มินิมอลกับแบรนด์สุดท้ายเสื้อผ้าอย่าง NICHP ดีไซเนอร์สาวเอิ้น-ณิชา นำเสนอเอกลักษณ์ของแบรนด์เสื้อผ้าหญิงสาวด้วยสไตล์มินิมอลลักซ์ชัวรี เน้นความเรียบง่ายที่แฝงเอกลักษณ์ความเป็นผู้หญิงด้วยเนื้อผ้าพลิ้วไหวกับซิลูเอตเบาสบาย และยังเน้นสีเรียบๆ ที่เหมาะกับสาวกสายมินิมอลได้เป็นอย่างดี มีให้เลือกหลายรูปแบบตั้งแต่ชุดเดย์แวร์ ค็อกเทล และมินิค็อกเทลที่แฝงความหรูหราหากดูดีไว้ในตัว 

ติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์นี้ได้ที่ IG: nichpbrand

Jiira

มาถึงแบรนด์เครื่องประดับกันบ้างเริ่มด้วย Jiira กับเจ้าของแบรนด์อย่างหญิง-จิรัชญา ที่เครื่องประดับเน้นไปที่ไข่มุกน้ำจืดกับเครื่องเงินชาวเขาเป็นหลัก พร้อมด้วยดีไซน์ในแบบวิชวลอาร์ต และงานคราฟต์จึงเสริมสร้างเสน่ห์อันแตกต่างจากแบรนด์ จึงทำให้เครื่องประดับแบรนด์นี้ดูโดดเด่นและสามารถดึงเอาตัวตนของผู้สวมใส่ออกมาได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว สาวคนไหนชอบเครื่องประดับน้อยแต่มากก็ลองติดตามผู้เข้าแข่งขันรายนี้ไว้ได้เลย

ติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์นี้ได้ที่ IG: jiira.jewelry

TORBOON

บุญ-บุญทวี เจ้าของแบรนด์ TORBOON เข้าแข่งขันด้วยแบรนด์กระเป๋ากับพลังแห่งความสนุกสนานและการสร้างสรรค์ ด้วยเอกลักษณ์อย่างผ้าลายทอมือที่พัฒนาใหม่ตลอดเวลา พร้อมด้วยแรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นผสานเข้ากับเทคนิคการทอผ้าแบบละเอียดยิบทำให้แบรนด์ TORBOON มีเสน่ห์ในแบบศิลปะและมีอัตลักษณ์อย่างไม่จำเจอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจในความสนุกสนานและความคิดสร้างสรรค์เลยทีเดียว

ติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์นี้ได้ที่ IG: TORBOONCHIANGMAI

T.TWINKLE

จับตามองผู้เข้าแข่งขันอีกหนึ่งแบรนด์เครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์ไม่แพ้กันคือ T.TWINKLE กับเจ้าของแบรนด์อย่างเติ้ล-วนิชยา ที่ดึงเอาเสน่ห์ของงานคราฟต์ในแบบไทยๆ มาดีไซน์ในแบบร่วมสมัยพร้อมแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมต่างๆ จากทั่วโลกสู่ไฟน์จิวเวลรีทองคำแท้ 18k ยังรวมถึงการเล่นดีไซน์กับเพชรและพลอยแท้มนรูปแบบอิตาเลี่ยนโมเดิร์นอาร์ตอีกด้วย และแน่นอนว่าเครื่องประดับแบรนด์นี้ยังเป็นในรูปแบบยูนิเซ็กส์อีกด้วย

ติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์นี้ได้ที่ IG: t.twinkle.official

Kear Store

ผู้เข้าแข่งขันคนสุดท้ายกับแบรนด์กระเป๋าอย่าง Kear Store ดีไซเนอร์และเจ้าของอย่างเฟิร์ส-ปาณิศา ใส่ใจในทุกดีไซน์ของกระเป๋าที่เน้นความสำคัญไปที่คุณภาพบวกกับการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและงานฝีมือของชาวบ้าน รวมถึงการใช้หนังแท้มารังสรรค์ขึ้นในแบบโมเดิร์นยุคใหม่ที่ยังคงกลิ่นอายและวัฒนธรรมในแบบดั่งเดิมได้อย่างสวยงาม สาวๆ คนไหนชื่นชอบงานคราฟต์สไตล์โมเดิร์นผสมความเป็นธรรมชาติก็อย่าลืมตามติดผู้เข้าแข่งขันคนนี้ไว้ให้ดีเชียว

ติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์นี้ได้ที่ IG: kearstore

 

และทั้งหมดนี้คือผู้เข้าแข่งขัน 10 แบรนด์สุดท้ายจากรายการ Vogue Who’s On Next 2019 ติดตามชมกันให้ดี เพราะการแข่งขันเริ่มขึ้นแล้วอย่างดุเดือด แบรนด์ไหนจะอยู่ แล้วแบรนด์ไหนจะไป ห้ามพลาด

 

ติดตามชม Vogue Who's On Next 2019 ได้ที่ LINE TV VOGUE Channel ทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.00 น ทางไลน์ ทีวี https://tv.line.me/voguewhosonnext2019 

#VogueWhosOnNext2019