เมื่อเหล่าดีไซเนอร์จากโครงการ VOGUE Who’s on Next The Vogue Fashion Fund 2017 ได้เดินทางไปศึกษาผ้าไทยและเลือกสรรผ้าลายโบราณลาวซี-ลาวครั่งจากจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อนำมาเป็นวัสดุหลักในการทำผลงาน เหล่าดีไซเนอร์ก็กลับมาสร้างสรรค์ผลงานในแบบฉบับของตัวเอง และนี่คือผลงานของทั้ง 11 ดีไซเนอร์ที่อวดโฉมบนรันเวย์ของ Vogue Who’s on Next The Vogue Fashion Fund 2017 : The final show of the 11 finalists

a Pale Petal

ใช้ผ้าลายโบราณมาทำการอัดพลีต และประดับลงบนกระเป๋าถือสำหรับสุภาพสตรีในดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์

Everyday Apparels

นำผ้าไทยตกแต่งลงบนชายแขนเสื้อและกางเกงทรงร่วมสมัย ทำให้ง่ายที่จะสวมใส่ผ้าไทยในทุกๆ วัน

Forrest

ใช้ผ้าไทยในการทำสายนาฬิกา ถือเข้าคู่กับกระเป๋าคลัตช์ตกแต่งผ้าไทยและหินธรรมชาติ ได้ลุคมินิมัลที่เข้ากับทั้งผู้ชายและผู้หญิง

Jinumo

ประยุกต์ผ้าไทยมาใช้กับดีไซน์อาว็องการ์ดในคอนเซปต์ของมวยไทยได้อย่างน่าสนใจ

Kannapot Aunsorn

เล่าเรื่องราวของลวดลายผ้าไทยลงบนชุดเดรสในกลิ่นอายแบบชนเผ่า

La Jewelry

ใช้แนวความคิดอู่ข้าวอู่น้ำของจังหวัดสุพรรณบุรีมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เครื่องประดับสไตล์เฟมินิน

Narong

เพิ่มมูลค่าของผืนผ้าไทยด้วยงานฝีมืออันพิถีพิถัน ปักคริสตัลระยิบระยับลงบนผืนผ้าที่ตกแต่งเข้ากับจั๊มป์สูท

La  Orr

นำลวดลายของผ้าไทยมาเล่นสนุกกับเครื่องประดับโลหะสะท้อนเป็นเงาสีสวยรับเข้ากับดีไซน์

Pitchana

ยังคงความมีเสน่ห์ของแบรนด์ไว้ด้วยชุดเดรสเกาะอกลายผ้าไทยเต็มผืนไม่ตัดต่อ

Takara Wong

ผสมผสานจุดเด่นของผ้าไทยเข้ากับเสื้อผ้าสตรีตได้อย่างดี ใช้ผ้าลายโบราณเป็นแถบข้างของเสื้อบอมเบอร์และกางเกงวอร์ม ได้ลุคสตรีตกลมกลืนกับสีสันของผ้าไทย

Leisure Projects

มาในคอนเซปต์ทำผ้าไทยให้ใส่ได้ 365 วัน ทั้งฤดูฝน ฤดูร้อน และฤดูหนาว ออกแบบเป็นคอลเล็กชั่นเรดี้ทูแวร์ให้เสื้อผ้าและเครื่องประดับสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย