ช่างภาพ: เอกรัชต์ อุบลศรี

สไตล์ไดเร็กเตอร์: จิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล

นางแบบ: ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง

ช่างแต่งหน้า: ชนะจิต เดชาสถิตย์วงศ์

ช่างผม: ศราวุฒิ ลาปะ

ผู้ช่วยสไตลิสต์: ฐิตาภรณ์ พุกพัก

บทความและสัมภาษณ์: พีรณัฐ จันทร์สกุลณี

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

     “ออกแบบไม่อยากใช้คำว่า ‘ประสบความสำเร็จ’ มากรอบการพัฒนาตัวเองในวงการนี้”...

     นั่นคือประโยคคำตอบที่ตรงและชัดเจนที่สุดอย่างที่เคยเป็นมาทุกครั้ง เมื่อโว้กประเทศไทยได้มีโอกาสนั่งคุยกับผู้หญิงมากความสามารถอย่าง “ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง” ขณะที่เธอกำลังนั่งแต่งหน้า และใช้สายตามุ่งมั่นของเธอมองผ่านกระจกมายังผู้สัมภาษณ์ เพื่อเริ่มบทสนทนา

     ออกแบบอธิบายต่อไปเพื่อตอบคำถามโว้กประเทศไทยเกี่ยวกับนิยามความสำเร็จของเธอว่า “สำหรับออกแบบ คำว่า ‘ประสบความสำเร็จ’ มันไม่มีคำนิยามที่ตายตัว เราไม่อาจรู้ได้เลยว่ามันจะไปสุดที่ตรงไหน มันขึ้นอยู่กับความพอใจของเรามากกว่าว่า เราพอใจกับโมเมนต์นี้ที่มีอยู่หรือเปล่า”

     ออกแบบคือหญิงสาวอีกหนึ่งคนในอุตสาหกรรมบันเทิงและแฟชั่น ที่โว้กเห็นหน้าค่าตากันมาแต่ไหนแต่ไร จากวันที่ก้าวเท้าอยู่บนรันเวย์ในฐานะนางแบบชื่อดัง สู่การผันตัวเป็นนักแสดงภาพยนตร์เจ้าบทบาท ที่เป็นมาแล้วเกือบทุกอย่างที่ผู้ชมคนหนึ่งที่ติดตามเธอมาตลอดกว่าครึ่งทศวรรษจะนึกได้ นั่นเองที่ส่งให้เธอกลายเป็นนักแสดงหญิงแถวหน้าของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในตอนนี้ ซึ่งเธอสารภาพกับโว้กประเทศไทยว่า ความชัดเจนอย่างหนึ่งของผู้หญิงชื่อออกแบบในวัย 27 ปีคือ เธออยากให้ทุกคนเรียกเธอว่าเป็นนักแสดงจริงๆ อาจจะไม่ต้องลืมภาพนางแบบของเธอก็ได้ แต่อยากให้จำภาพว่าตอนนี้เธอคือนักแสดงหญิงแบบเต็มตัวแล้ว

    “ตั้งแต่ออกแบบอยู่ในวงการนี้มา เริ่มตั้งแต่เป็นนางแบบ จนก้าวข้ามมาเป็นนักแสดง เราเห็นอะไรต่างๆ มากมายที่มันเกิดขึ้นทั้งดีและไม่ดี ที่เราได้เรียนรู้จากความล้มเหลวระหว่างทาง มันเลยทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่สามารถกรอบมันได้เลยสำหรับความสำเร็จ แต่เรายังไตร่ตรองอยู่เสมอว่าเรากำลังอยู่ในสเตจไหนของชีวิตแล้ว และเรากำลังจะไปไหนต่อ เราเลยไม่สามารถตอบใครได้ว่าเราประสบความสำเร็จหรือยัง แต่เรายังอยากก้าวต่อไปเรื่อยๆ ในวงการนี้ ในการเป็นนักแสดง นั่นคือความชัดเจนที่เกิดขึ้นในตอนนี้”

     ถือเป็นโอกาสดีที่โว้กประเทศไทยได้โคจรมาพบกับออกแบบอีกครั้ง ในการถ่ายทำแฟชั่นเซ็ต Vogue More ประจำเดือนกรกฎาคม 2023 และเป็นอีกครั้งที่ออกแบบได้ร่วมงานกับ CHANEL แบรนด์แฟชั่นที่คุ้นเคย กับเหล่าแฟชั่นไอเท็มจากคอลเล็กชั่น Métiers d'art 2022-2023 ที่สะท้อนให้เห็นถึงจิตวิญญาณแห่งยุค 70s ที่วนเวียนอยู่ในคอลเล็กชั่นดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลของเพลงป๊อป, เพลงโซล-ฟังก์ หรือแม้แต่กลิ่นอายของดิสโก้-พังก์ ที่ปลดปล่อยอิสระได้อย่างน่าหลงใหล ผ่านความนสนุกสนาที่เวอร์ฌินีย์ หัวเรือใหญ่คนปัจจุบันของชาเนลต้องการคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง เห็นได้จากรายละเอียดงานตัดเย็บสุดประณีตโดยฝีมือเมซงหัตศิลป์ ทั้งความละเอียดอ่อนของงานลูกไม้สุดเย้ายวนในรูปแบบของเสือโค้ทยาวขนาดพอดีตัว กางเกงทรงขาบานรัดรูป เสือคอปกจากยุค 70s รองเท้าส้นแพลตฟอร์ม เสือสเวตเชิ้ตโอเวอร์ไซส์มาพร้อมปักลายดอกไม้ ผ้าทวีดหลากสี และอีกมากมาย ซึ่งโดดเด่นด้วยลวดลายของพืชพรรณธรรมชาติเส้นสาย และรูปทรงเรขาคณิต มาพร้อมกับการเลือกใช้โทนสีอบอุ่น ที่ได้แรงบันดาลใจสำคัญมาจากฉากที่ดวงอาทิตย์ฉาบท้องฟ้า ณ ประเทศเซเนกัล จุดหมายแรกที่ชาเนลเลือกเดินทางไปถึงเพื่อแสดงโชว์คอลเล็กชั่นนี้ ในฐานะของแบรนด์แฟชั่นลักชัวรีแบรนด์แรกที่ไปจัดแฟชั่นโชว์ ณ ภูมิภาคแอฟริกาใต้ซาฮารา

     ทั้งนี้ เมื่อโว้กประเทศไทยถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอและแบรนด์ CHANEL ที่โว้กแอบเห็นพัฒนาการและการเติบโตของเธอ ผ่านการร่วมงานกับชาเนลประเทศไทยมาเป็นเวลานาน ออกแบบยิ้มกริ่มราวกับเป็นอันรู้กัน ก่อนแบ่งปันประสบการณ์ที่น่าสนใจให้โว้กฟังว่า “สิ่งที่เชื่อมโยงระหว่างชาเนลกับออกแบบ ออกแบบคิดว่ามันคือ ‘ความเชื่อ’ และ ‘การส่งต่อแรงบันดาลใจให้ผู้คน’ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับชาเนล ออกแบบบอกได้เลยว่า ออกแบบได้เรียนรู้มากขึ้นทุกๆ ปี อย่างล่าสุดที่เดินทางไปที่นครลอสแอนเจลิสกับชาเนล เราก็ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาเนลว่า ชาเนลคือแบรนด์แรกที่กรุยทางร่วมงานกับนักแสดงฮอลลีวู้ดมาแต่ไหนแต่ไร ชาเนลคือแบรนด์แฟชั่นที่แสดงตัวสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลกเสมอมา ซึ่งตรงนี้เองที่สะท้อนกลับมาถึงตัวตนของเราที่นิยามตัวเองว่าเป็น ‘นักแสดง’ ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เหมือนกัน และสักวันหนึ่งเราก็ใฝ่ฝันว่าอยากจะมีประสบการณ์ให้ชาเนลมาเดรสให้เราเหมือนกันในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง

     ออกแบบเล่าต่อไปอีกว่า “การทำงานของชาเนลกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลกนั้น ยังสะท้อนให้เราเห็นอีกว่า แบรนด์ไม่ได้ส่งต่อแรงบันดาลใจในฐานะของแบรนด์แฟชั่นที่อยู่บนรันเวย์เท่านั้น แต่แบรนด์ยังส่งต่อแรงบันดาลใจผ่านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลกอีกด้วย และเราเองที่ได้เห็นว่าเบื้องหลังของสิ่งที่แบรนด์สร้างสรรค์ตลอดมานั้นมันไม่ง่าย การที่เรามีโอกาสได้เห็นการทำงานของเขา เราก็เลือกมาปรับใช้กับชีวิตของเราค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ซึ่งทำให้เราอยากจะออกไปส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วไปเรื่อยๆ ผ่านการทำงานของเรา”

     สุดท้ายก่อนที่ออกแบบจะเดินออกไปจากห้องแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวเข้าเซ็ตถ่ายแบบ Vogue More เซ็ตที่ทุกคนเห็นกันอยู่ตอนนี้ เธอทิ้งท้ายข้อคิดที่เธอมองว่าเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับเธอ บนถนนอันทอดยาวในวงการแฟชั่นและภาพยนตร์ นั่นคือ “การเป็นตัวของตัวเอง” เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณเป็นตัวเอง และมั่นใจในตัวเองได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เราก็จะโดดเด่นออกมา

     บทสนทนาครั้งนี้ของโว้กประเทศไทยและออกแบบ นักแสดงหญิงแถวหน้าของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย จบลงแบบนั้น แบบที่เราต่างคาดหวังว่า สเตจต่อไปในชีวิตของ "ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง" จะท้าทายและสนุกกว่าที่เคยเป็น...