บ้านและที่อยู่อาศัยนับเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานของมนุษย์ แต่ในขณะเดียวกันการเลือกที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์กับความต้องการนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น ครั้งนี้โว้กประเทศไทยเลยอาสาพาแฟนๆ ไปเยี่ยมชมอีกหนึ่งหมู่บ้านจากแสนสิริที่นับได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก พร้อมตอกย้ำชัยชนะด้วยการปิดการขายมูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาทภายใน 1 เดือน!

    บ้านจากโครงการ “นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา” อีกหนึ่งโครงการระดับลักชัวรีจากซีรี่ส์ “Sansiri Luxury Collection” ที่รังสรรค์บ้านผ่านนิยามบทใหม่ของความหรูหรา ภายใต้กรอบแนวคิด “A Matter of Refinement งดงามในรายละเอียด” ตั้งอยู่ท่ามกลางสังคมคุณภาพย่านกรุงเทพกรีฑา สร้างสรรค์และออกแบบตัวบ้านอย่างละเมียดละไม ใส่ใจในทุกองค์ประกอบของตัวบ้าน เพื่อมอบความสุนทรียภาพในการอยู่อาศัยที่ดีที่สุดให้กับผู้อาศัย โดยในโครงการประกอบไปด้วยบ้านขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ จำนวนจำกัดเพียง 86 ครอบครัวเท่านั้น

บ้านขนาดเริ่มต้นจากโครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา โดยแสนสิริ

     โดยบรรณาธิการฝ่ายดิจิทัลจากโว้กประเทศไทยอย่าง “ปภัสรา นัฏสถาพร” ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมบ้านหลากหลายสไตล์ในโครงการสุดหรูนี้ เริ่มตั้งแต่บ้านขนาดเริ่มต้นที่ถูกดีไซน์มาอย่างอบอุ่น เหมาะสำหรับครอบครัวเริ่มต้นที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวและต้องการเน้นการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัวอย่างอบอุ่น โดยบ้านหลังนี้เป็นการออกแบบที่มุ่งเน้นให้ทั้งบ้านรู้สึกเชื่อมโยงถึงกันผ่านการออกแบบบ้านที่สามารถมองเห็นกันเเละกันได้จากทุกมุม ด้วยดีไซน์และการวางแปลนบ้านที่ถึงแม้จะเป็นบ้านขนาดเล็กแต่ยังคงครบครันไปด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบสนองต่อความต้องการของทุกคนในบ้านได้อย่างลงตัว

บ้านขนาดกลางจากโครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา โดยแสนสิริ

     ถัดมากันที่บ้านขนาดกลาง บ้านอีกหนึ่งไทป์ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่า ด้วยการจัดวางเลย์เอาต์ของบ้านให้ทุกพื้นที่สามารถใช้งานในแต่ละกิจกรรมได้อย่างตอบโจทย์ ไม่ว่าจะเป็นการสังสรรค์ระหว่างคนในครอบครัว และเพื่อนๆ ครบครันไปด้วยพื้นที่ห้องรับแขกที่มีขนาดใหญ่และสูงโปร่ง ประดับทั่วบ้านด้วยกระจกบานใหญ่ที่ช่วยทำให้ตัวบ้านดูกว้างมากยิ่งขึ้น โดยบ้านขนาดกลางนี้เป็นบ้านตัวอย่างรูปแบบเดียวที่มีการออกแบบสระว่ายน้ำมาในตัว เพื่อให้เห็นตัวอย่างบรรยากาศได้อย่างชัดเจน นับเป็นบ้านที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์สุดโมเดิร์นของคนเจนเนอเรชั่นใหม่อย่างแท้จริง

บ้านขนาดใหญ่จากโครงการนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา โดยแสนสิริ

     และบ้านขนาดสุดท้ายซึ่งนับเป็นไฮไลต์ในโครงการนี้กับบ้านขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ เหมาะกับกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตแบบครอบครัวใหญ่ มีพื้นที่ให้ใช้สอยกว่า 600 ตารางเมตร ภายในประดับไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ อย่างครบครัน โดยพื้นที่ชั้นล่างของตัวบ้านนั้นเป็นแบบเปิดโล่งทุกส่วนสามารถเชื่อมถึงกันได้แต่ยังคงมีความเป็นระเบียบและแบ่งสัดส่วนได้อย่างดีเยี่ยม มาพร้อมกับห้องสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นห้องหนังสือ ห้องออกกำลังกาย ตลอดจนห้องเก็บไวน์ที่ถูกดีไซน์มาอย่างมีมาตรฐาน โดยอีกหนึ่งห้องไฮไลต์ที่เชื่อว่าหลายๆ คนคงประทับใจไม่น้อย คงต้องยกให้ห้องนั่งเล่นชั้นสองที่เปิดโล่งด้วยกระจกรอบด้านและด้านบนที่สามารถรับแสงกลางวันได้อย่างเต็มที่ พร้อมมอบบรรยากาศสุดโรแมนติกในยามค่ำคืนด้วยแสงดาวและวิวทิวทัศน์จากสวนส่วนกลางของหมู่บ้าน โดยบ้านไทป์นี้เป็นเพียงไทป์เดียวถูกจัดวางอยู่ติดกับส่วนกลางของโครงการ ทำให้เราได้เห็นถึงภาพการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจ

     ไม่เพียงบ้านทั้งสามรูปแบบนี้จะตอบโจทย์ในด้านของงานดีไซน์ที่มีความสวยงามทั้งยังแฝงไปด้วยความโมเดิร์นที่แสนสิริจงใจรังสรรค์ไว้ แต่อีกหนึ่งเหตุผลหลักที่ทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการนี้อย่างไม่ลังเล จนทำให้บ้านทั้งหมดกว่า 86 ยูนิต ขายหมดไปในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น นั่นคือการออกแบบทางสถาปัตยกรรมและทิวทัศน์ในสไตล์ “Renaissance Revival” ของนาราสิริ กรุงเทพกรีฑา ตั้งแต่การวางโครงสร้างตามแบบผังเมืองของย่านแมนฮัตตันแห่งมหานครนิวยอร์ก ซึ่งมี Central Park เป็นศูนย์กลางเพื่อให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้ดื่มด่ำกับไลฟ์สไตล์อันเหนือระดับ ตลอดจนการสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายในแบบฉบับของอเมริกัน แต่ยังคงไว้ซืึ่งความงดงามแบบร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นบริเวณทางเข้าหลักหรือ “Main Gate” ที่ดีไซน์มาอย่างโดดเด่นด้วยความสูงที่ตั้งตระหง่านกว่า 12 เมตร ประกอบเข้ากับพื้นทางเข้าที่ปูด้วยอิฐในสไตล์ “Herringbone Brick Pattern” ภายในสวนยังมีประติมากรรมน้ำพุอันวิจิตรที่นำแรงบันดาลใจมาจาก “Bethesda Fountain” พร้อมตกแต่งด้วยรูปปั้น “Angel of the Waters” ทั้งยังสานฝันให้เด็กๆ ด้วย “Maze Playground” สนามเด็กเล่นเขาวงกตที่ได้แรงบันดาลใจสำคัญมาจากเรื่องเล่าในนิทานอย่าง “Alice in Wonderland”

     นอกจากพื้นที่ส่วนกลางที่ถูกสร้างสรรค์มาอย่างเหนือจินตนาการแล้ว พื้นที่ใช้สอยส่วนรวมอย่าง “Clubhouse และ Pavilion” ที่ตั้งตระหง่านและเปิดรอให้แขกทุกคนมาเยือน ท่ามกลางบรรยากาศแสนอบอุ่นในแบบฉบับของอเมริกัน โดยด้านในถูกออกแบบด้วยสไตล์ “Gilded Age Chic” เผยให้เห็นถึงห้องที่สูงโปร่ง ตัดด้วยฝ้าเพดานที่ออกแบบมาอย่างประณีตรับกับประตูทรงโค้งอันงดงาม ประกอบไปด้วยห้องต่างๆ ที่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ เช่น ห้อง “Drawing Room” พื้นที่ที่ให้ทุกคนในครอบครัวได้มาทำกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ร่วมกัน, ห้อง “Punch Room” ห้องสำหรับพักผ่อนและพบปะสังสรรค์อย่างเป็นกันเอง มาพร้อมกับ Social Bar และโต๊ะพูล สะท้อนกลิ่นอายแบบคลับในมหานครนิวยอร์ก ทั้งยังมีพื้นที่ออกกำลังกายที่ครบครันไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆ และภายนอกของอาคารคลับเฮาส์ยังถูกตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลในเฉดสี “Brownstone” เสริมเสน่ห์ด้วยรั้วเหล็กดัดที่ประดับอยู่บริเวณทางเชื่อมอาคารลอยฟ้า

     ด้วยการออกแบบที่เต็มไปด้วยตัวตนที่ชัดเจนพร้อมเผยให้เห็นถึงวิวทิวทัศน์อันเป็นธรรมชาติและหาได้ยากในพื้นที่กรุงเทพมหานครนี้ ถูกผนวกเข้ากับการจัดการพื้นที่ใช้สอยที่นับได้ว่า “คุ้มค่า” ในทุกตารางเมตรตั้งแต่ตัวบ้าน ตลอดจนพื้นที่ส่วนกลางและการตกแต่งที่รังสรรค์มาอย่างประณีต ทำให้กลายมาเป็นเหตุผลหลักของการเป็นโครงการบ้านลักชัวรีที่ขึ้นชื่อว่า “ขายดีที่สุด” ณ ปัจจุบันนี้ โดยแสนสิริยังคงตอกย้ำและมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ด้วยการเดินหน้าเปิดตัวโครงการ “นาราสิริ พหล-วัชรพล” เพื่อต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์นาราสิริในปี 2566 ต่อไป พร้อมทั้งยังรุดหน้าเปิดโครงการ “บูก้าน กรุงเทพกรีฑา” ที่ตั้งอยู่ในย่านกรุงเทพกรีฑา พื้นที่สังคมที่ได้รับการออกแบบมาอย่างสมบูรณ์ ดูรายละเอียดบ้านจากนาราสิริเพิ่มเติมคลิกเลย!