“เทรนด์การแต่งบ้าน” อีกหนึ่งความสนใจที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งในแง่ของการจัดแต่งเองตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย ไปจนถึงการใช้บริการจาก Interior Designer หรือ นักออกแบบภายใน ผู้เข้ามาเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างสรรค์สไตล์จากความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้หลายๆ คนหันมาตระหนักถึงความสำคัญของบ้านและที่อยู่อาศัยกันมากยิ่งขึ้น จนทำให้เกิดกระแสนิยมในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ตลอดจนการเลือกวัสดุตกเเต่งบ้านให้เข้ากับเทรนด์และไลฟ์สไตล์ที่เพิ่มมากขึ้นตามความต้องการ

“เพราะบ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย”

 

     เมื่อวิถีชีวิตเปลี่ยนไป การให้ความสำคัญของคนเราก็มักแปรผันตามไปด้วย ดังนั้นเมื่อ “บ้าน” เข้ามามีบทบาทมากกว่าการเป็น “ที่อยู่อาศัย” ความสำคัญในการจัดบ้านให้ตอบโจทย์กับการใช้งานจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการจัดบ้านให้เสมือนเป็นโรงเรียนสำหรับลูกๆ ที่อยู่ในวัยเรียน หรือจะเป็นการสร้างบรรยากาศในบ้านให้สอดคล้องต่อการทำงานของกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้อง Work From Home กันมากขึ้น ด้วยความต้องการเหล่านี้ที่เปลี่ยนไปจึงเกิดเป็นเทรนด์การแต่งบ้านที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน

     เมื่อ "กระเบื้อง" กลายมาเป็นกุญแจสำคัญในการเเต่งบ้าน ไม่ว่าจะนำมาปูพื้น ผนัง เคาน์เตอร์ครัว ตลอดจนการนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่สร้างสรรค์สไตล์อันโดดเด่นให้กับบ้านของคุณ โว้กประเทศไทยจึงอยากชวนแฟนๆ มารู้จักกับแบรนด์ "GRANDHOME" แบรนด์ผู้นำในเรื่องกระเบื้องเเละเทรนด์การเเต่งบ้าน ทั้งยังร่วมพูดคุยกับนักออกแบบภายในผู้ประสบความสำเร็จในการเดินบนเส้นทางนี้อย่าง “แอ-เบญญาภา ศิริโสภณ” เจ้าของแบรนด์ “VAIR” แบรนด์ที่รับออกแบบและตกแต่งภายในซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งยังเป็นที่รู้จักในวงการนี้

“แอ-เบญญาภา ศิริโสภณ” นักออกแบบภายในเจ้าของแบรนด์ “VAIR”

     โดยโว้กได้เริ่มพูดคุยกับแอเกี่ยวกับการเลือกเดินบนเส้นทางการเป็น Interior Designer หรือนักออกแบบภายใน โดยเธอได้เล่าให้กับโว้กฟังว่าสิ่งที่เธอทำอยู่นั้น เธอได้คลุกคลีและชื่นชอบมันตั้งแต่ยังเป็นเด็ก โดย ณ ขณะนั้นเธอเองก็ไม่ทราบว่าสิ่งนี้คืออะไร จนเมื่อเริ่มเติบโตเธอจึงได้ซึมซับและเข้าใจพร้อมเปิดประตูการเรียนรู้จนได้มาเป็นนักออกแบบภายในในปัจจุบันนี้ โดยความสนใจทั้งหมดของเธอยังผสมผสานเข้ากับการสั่งสมประสบการณ์ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ทำให้สิ่งเหล่านี้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เกิดแบรนด์ “VAIR” ขึ้นมา แอได้เล่าเกี่ยวกับความประทับใจในแบรนด์ของตนต่อไปอีกว่า “จริงๆ แล้วผลงานทุกชิ้นที่เป็นการออกแบบภายใน ต้องใช้ทั้งระยะเวลา ประสบการณ์และการทุ่มเท ถึงแม้ว่าในช่วงแรกเริ่มเราอาจจะได้เพียงโปรเจกต์เล็กๆ แต่เราก็ใส่ใจและมุ่งมั่นทำออกมาให้ดีที่สุด จนเริ่มมีผลงานต่างๆ ออกมา และเริ่มมีคนรู้จักสไตล์การออกแบบของเรา เเละในท้ายที่สุดก็กลายมาเป็น VAIR ที่ทุกคนรู้จักในแบบทุกวันนี้”

     ระหว่างการพูดคุยกันแอได้เล่าให้โว้กฟังว่าความยากในการเป็นนักออกแบบภายในนั้น คงต้องพูดถึงการสร้างสรรค์ผลงานที่ตอบโจทย์ลูกค้าและยังคงไว้ซึ่งซิกเนเจอร์ของเราเอง โดยเฉพาะแบรนด์ VAIR ที่มักออกแบบผลงานที่มีความลักชัวรี ผสมผสานไปกับความเป็นธรรมชาติและความทันสมัย ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเหล่านี้เมื่อถูกนำไปผสมผสานเข้ากับความต้องการหรือตัวตนของลูกค้า ก็ทำให้ได้ผลงานที่มีความยูนีกและเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น “จริงๆ เทรนด์การแต่งบ้านมีมานานมากแล้ว และการออกแบบภายในยังเป็นเรื่องที่มีเสน่ห์มากๆ แม้ว่าจะผ่านมาหลายร้อยปี เช่นในอดีตเรามักจะแต่งบ้านเพื่อให้คนอื่นเข้ามาเยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนในครอบครัว หรือแม้แต่ตัวเราเอง แต่ในปัจจุบันเทรนด์การแต่งบ้านนั้นเน้นไปที่การเผยตัวตนของเจ้าของบ้าน ตลอดจนการถ่ายทอดคาแร็กเตอร์ที่มีความโดดเด่นให้กับคนภายนอกได้เห็นแทน”

      นอกจากเทรนด์การแต่งบ้านที่เปลี่ยนไปในปัจจุบันทำให้เกิดความต้องการใหม่ๆ ขึ้นมา เช่นเดียวกับ “กระเบื้อง” ที่ก่อนหน้านี้มักถูกนิยมไปปูลงบนพื้นบ้านเพื่อเพิ่มลวดลายอันน่าสนใจตลอดจนการสร้างเท็กซ์เจอร์ใหม่ๆ ให้กับตัวบ้าน แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปกระเบื้องก็ได้กลายมาเป็นของแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น ซึ่งอินทีเรียดีไซเนอร์สาวท่านนี้ ยังได้แบ่งปันถึงมุมมองของเธอต่อการเลือกกระเบื้องมาเป็นของแต่งบ้านว่า “จริงๆ กระเบื้องมีความสำคัญมากๆ เพราะเป็นอุปกรณ์แต่งบ้านที่มีหลากหลายตัวเลือก ไม่ว่าจะเป็นสี ผิวสัมผัส ลวดลาย และรูปแบบต่างๆ ทำให้กระเบื้องยังคงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์กับหลายๆ ความต้องการอยู่เสมอ ซึ่งไม่เพียงแต่ได้ความสวยงามให้กับตัวบ้านเท่านั้น แต่กระเบื้องยังมีความแข็งแรงคงทนต่อหลายๆ สภาวะด้วย”

กระเบื้องยี่ห้อ Marazzi โทนสีเขียวหยก สีไฮไลต์ที่กำลังได้รับความนิยม

     ระหว่างการเดินชมกระเบื้องภายในงานอีเวนต์ “GRANDHOME Open House” ที่แกรนด์โฮมจัดขึ้นมา แอได้เล่าให้โว้กฟังว่าหลังจากได้เดินชมจนทั่วแล้วเธอรู้สึกถูกใจกระเบื้องจากแบรนด์ “Vidrepur” กระเบื้องลวดลายโมเซกที่นำเข้ามาจากประเทศสเปน โดยเสน่ห์ของกระเบื้องรุ่นนี้คงต้องพูดถึงสีสันและลวดลายที่ทางแบรนด์สามารถทำออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ ทั้งยังสามารถนำไปต่อยอดผลงานการออกแบบได้อย่างดีอีกด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่กระเบื้องแบรนด์นี้จะเป็นไฮไลต์เท่านั้น แต่กระเบื้องแบรนด์อื่นๆ อย่าง “Marazzi” ก็ยังเป็นกระเบื้องที่หลายๆ คนให้ความสนใจโดยเฉพาะรุ่น "Grande Slab" ที่มาในโทนสีหยกเขียวซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้คนที่แวะเวียนเข้ามาอยู่เสมอ โดยเธอยังได้เล่าต่อไปอีกว่า “จริงๆ แล้วในฐานะของการเป็นอินทีเรียดีไซเนอร์เอง ก็มีความคล้ายคลึงกับการเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์อยู่ไม่น้อย เพียงแต่การเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์มุ่งเน้นไปที่เครื่องแต่งกายที่ช่วยถ่ายทอดเสน่ห์ของแต่ละบุคคล ในขณะที่การเป็นนักออกแบบภายในนั้นก็ถ่ายทอดเรื่องราวและตัวตนของผู้อยู่อาศัยผ่านบ้านและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ”

     ไม่เพียงแต่การได้ร่วมพูดคุยกับ “แอ-เบญญาภา ศิริโสภณ” จะทำให้เราได้รู้จักกับเทรนด์การแต่งบ้านมากยิ่งขึ้น แต่การร่วมเดินทางเยี่ยมชมกระเบื้องรุ่นต่างๆ ที่แกรนด์โฮมก็ช่วยเปิดมุมมองความสร้างสรรค์ และความรู้ใหม่ๆ ในการแต่งบ้านให้กับโว้กเช่นเดียวกัน และสำหรับใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์แต่งบ้านที่มีความหลากหลายและตอบโจทย์กับการใช้งาน ทั้งยังตอบโจทย์กับตัวตนของตนเองก็สามารถแวะเวียนไปได้ที่ “GRANDHOME” ที่ที่ครบครันไปด้วยดีไซน์ทันสมัย ตลอดจนการบริการครบวงจรได้ในที่เดียว!