vogue scoop kulture
LIFESTYLE

‘K’ulture Phenomenon! เมื่อคนดังจากเกาหลีใต้พร้อมทวีคูณวัฒนธรรมป๊อปเอเชียสู่ระดับโลก

#VogueScoop ช่วง 2-3 ปีให้หลังมานี้ศิลปินจากประเทศเกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้พลังของวัฒนธรรมป๊อปเอเชียนั้นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จนสามารถสร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ และถือเป็นการบ่งบอกชัดเจนแล้วว่า พวกเขาเหล่านี้พร้อมที่จะก้าวเข้ามาเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจที่ใครๆ ต่างล้วนแล้วแต่ให้ความสำคัญไม่ผิดแผกไปจากฝั่งตะวันตก

     การข้ามผ่านยุคสมัยล้วนพบเจอกับสิ่งรายล้อมข้างทางที่เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคมในแต่ละอุตสาหกรรม ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่าตั้งแต่ช่วงยุค 50s-90s ศิลปินฝั่งตะวันตกยังคงเป็นกลุ่มบุคคลทรงอิทธิพลที่ครอบคลุมพื้นที่อุตสาหกรรมบันเทิงและแฟชั่นเสมอมา ซึ่งกล่าวได้ว่าหากศิลปินคนใดเป็นจุดเด่นของยุคนั้นๆ จะต้องถูกเชิดชูให้เป็นบุคคลไอคอนิกของแต่ละแขนง อาทิ Elvis Presly เจ้าของฉายาราชาเพลงร็อก, Michael Jackson ถูกขนานนามว่าเป็นราชาเพลงป๊อป หรือแม้แต่ช่วงยุค 90s เป็นต้นมา Beyoncé ที่ได้รับฉายาว่า ‘ควีนบี’ อันบ่งบอกถึงความสามารถในการร้องเพลงที่กวาดรางวัลมาแล้วเกือบทุกเวที ทำให้พวกเขาเหล่านั้นถูกเล่าขานผ่านยุคสมัย และจารึกไว้ว่าเป็น ‘ตำนาน’ แห่งฟากฝั่งตะวันตกอย่างแท้จริง

     จวบจนกาลเวลาล่วงมาสู่ยุค 2000s เมื่อวัฒนธรรมฝั่งเอเชียได้เริ่มเฉิดฉายโดยมีศิลปินจากพื้นที่นี้เป็นผู้กรุยทางและสร้างสรรค์ผลงานให้เป็นที่ประจักษ์แก่แวดวงบันเทิงระดับโลก ยิ่งช่วง 2-3 ปีให้หลังมานี้ศิลปินจากประเทศเกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้พลังของวัฒนธรรมป๊อปเอเชียนั้นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จนสามารถสร้างปรากฏการณ์ต่างๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ อาทิ การสร้างสถิติบนชาร์ตเพลงของเหล่าศิลปินเคป๊อปอย่าง BLACKPINK, BTS, NewJeans และ FIFTY FIFTY เป็นต้น เคยมีผลงานเพลงทะยานสู่ชาร์ต Billboard Hot 100 ซึ่งเป็นชาร์ตเพลงที่ยิ่งใหญ่ในสหรัฐอเมริกามาแล้ว ทั้งยังนำเสนอความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวตนและวัฒนธรรมจนสามารถเป็นภาพลักษณ์ที่มั่นคงให้แก่อุตสาหกรรมอื่นๆ นอกเหนือไปจากเรื่องราวความบันเทิงอีกด้วย ซึ่งถือเป็นการบ่งบอกชัดเจนแล้วว่า พวกเขาเหล่านี้พร้อมที่จะก้าวเข้ามาเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจที่ใครๆ ต่างล้วนแล้วแต่ให้ความสำคัญไม่ผิดแผกไปจากฝั่งตะวันตก เช่นเดียวกับ 10 โมเมนต์ของเหล่าศิลปินและนักแสดงจากแดนกิมจิที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี 2023 ที่โว้กได้หยิบยกมาส่งท้ายปีให้ผู้อ่านทุกคนได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพวกเขาเหล่านี้ที่ทวีคูณอย่างต่อเนื่อง

 

1. การเติบโตของเหล่า K-Pop ในอุตสาหกรรมแฟชั่น

     หลังจากเกิร์ลกรุ๊ปสายเลือดเอเชียจากประเทศเกาหลีใต้ ‘BLACKPINK’ คือศิลปินผู้บุกเบิกการก้าวขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของแบรนด์ต่างๆ อย่างลิซ่า ที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก Celine และ Bulgari, โรเซ่ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Saint Laurent และ Tiffany and Co., จีซู แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Dior และ Cartier และเจนนี่ รับตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Chanel เหล่าแบรนด์ชั้นนำก็ล้วนแล้วแต่แต่งตั้งศิลปินเคป๊อปขึ้นมารับตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์เพื่อนำเสนอดีเอ็นเออันบอกเล่าถึงแบรนด์ได้มั่นคงและทรงพลัง ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาเมื่อเริ่มเข้าเดือนมกราคม ศิลปินบอยแบนด์ ‘BTS’ ได้รับการแต่งตั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของแต่ละแบรนด์ชั้นนำทุกคนยกเว้นเพียง Jin ที่ทำหน้าที่เข้ารับเกณฑ์ทหารตามกฎหมายไปตั้งแต่ปลายปี 2022 โดย Jimin ถูกแต่งตั้งให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Dior และ Tiffany and Co., Suga เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Valentino, หัวหน้าวงอย่าง RM ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Bottega Veneta, J-Hope เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Louis Vuitton, V รับตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Celine และ Cartier และน้องเล็กของวง Jung Kook ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Calvin Klein

     นอกจากนี้ยังมีศิลปินบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปผู้มากความสามารถต่อแถวขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ตลอดทั้งปี อาทิ TXT ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Dior, Stray Kids ที่มี Felix รับตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Louis Vuitton ก่อนช่วงปลายปี Hyunjin จะได้ขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Versace ตามมาติดๆ, ศิลปินหนุ่มจากวง NCT อย่าง Doyoung เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Dolce & Gabbana ตามมาด้วย Jeno ที่ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Ferragamo และ Taeyong เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Loewe, ศิลปินหนุ่มลุคแวมไพร์อย่าง Jackson Wang ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Louis Vuitton รวมถึงบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปสายเลือดใหม่อย่าง Enhypen ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Prada และ NewJeans ที่มี Danielle รับตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Burberry ปิดท้ายด้วย Minji เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Chanel โดยที่ก่อนหน้านี้สมาชิกที่เหลืออย่าง Haerin, Hyein และ Hanni ก็ได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของเหล่าแบรนด์ชั้นนำไปเมื่อปีที่แล้วเช่นกัน

 



WATCH




 ภาพ: อินสตาแกรม @lalalalisa_m

2. ลิซ่า BLACKPINK ขึ้นโชว์คาบาเรต์ Crazy Horse Paris!

     ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสนใจจากผู้คนทั่วทุกมุมโลกพุ่งเป้าเข้ามาที่ ลิซ่า แห่งวง BLACKPINK ทันทีเมื่อเธอประกาศว่าจะเข้าร่วมโชว์คาบาเรต์สุดยิ่งใหญ่แห่งกรุงปารีส ณ Crazy Horse ซึ่งได้กระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างล้นหลาม หากในด้านดีแฟนๆ ต่างชื่นชมว่าลิซ่ากล้าที่จะทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ และถือเป็นศิลปินหญิงในวงการเคป๊อปคนแรกที่ขึ้นแสดงโชว์คาบาเรต์แห่งนี้ซึ่งสร้างภาพจำใหม่ให้แก่วงการเคป๊อป ทว่าอีกกระแสด้านลบโดยเฉพาะจากแดนมังกรกลับพากันแบนเธอเพียงเพราะมองว่าเป็นโชว์ที่เย้ายวนทางเพศ และแต่งกายโป๊เปลือยจนเกินไป แต่ถึงอย่างไรแล้วลิซ่าก็ประสบความสำเร็จกับโชว์นี้เป็นอย่างมาก ที่ขายบัตรรอบการแสดงหมดเกลี้ยงทั้งหมด 5 รอบ รวมถึงได้ของขวัญชิ้นพิเศษอย่างรองเท้าผ้าใบ Christian Louboutin จากดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์อีกด้วย

 

3. สะกดสายตาผู้ชมบนเวที VMAs 2023 ด้วยการแสดงของ TXT และการคว้ารางวัลแรกของ Stray Kids

     ปี 2023 ถือเป็นปีแห่งความครึกครื้นของเวทีงานประกาศรางวัล เช่นเดียวกับงาน MTV Video Music Awards ประจำปีนี้ที่มีศิลปินมากหน้าหลายตาเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง เพื่อร่วมขึ้นแสดงบนเวทีและเฉลิมฉลองการชนะรางวัลในสาขาต่างๆ ของเหล่าศิลปิน ซึ่งในปีนี้ศิลปินจากแดนกิมจิอย่าง TOMORROW X TOGETHER หรือ TXT เจ้าของรางวัล Push Performance of the Year ได้สร้างโมเมนต์สำคัญในการขึ้นแสดงบนเวทีด้วยเพลงภาษาอังกฤษและภาษาสเปนร่วมกับศิลปินสาวชาวบราซิลสุดฮอตเจ้าของรางวัล Best Latin จากเวทีประกาศรางวัลเดียวกันอย่าง Anitta โดยทั้งคู่ปล่อยเพลง 'Back For More' ให้เหล่าแฟนๆ ได้ฟังกันครั้งแรกบนเวทีแห่งนี้ซึ่งได้รับการจับตามองจากทั่วโลก

     ไม่เพียงเท่านั้น Stray Kids ยังสร้างความภาคภูมิใจให้กับเหล่าแฟนๆ ด้วยการคว้ารางวัลใหญ่ของเวทีนี้ในสาขา 'Best K-Pop' ตามรอยศิลปินสาวอย่าง ลิซ่า แห่งวง BLACKPINK ที่เคยคว้ารางวัลนี้ในปี 2022 จากผลงานเพลง LALISA และบอยแบนด์ BTS ชนะรางวัลนี้ด้วยเพลง Butter ในปี 2021 ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จที่แวดวงเคป๊อปสามารถสร้างศิลปินมากคุณภาพจนสามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรติบนเวที MTV Video Music Awards ได้อย่างต่อเนื่องแบบไม่ซ้ำหน้า

 

4. การฉีกสัญญากับต้นสังกัดตอบโจทย์ความเป็นอิสระของ Jessi และ G-Dragon

     กระแสเรื่องการย้ายสังกัดของเหล่าศิลปินจากแดนกิมจิก็เป็นเรื่องที่ใครหลายคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะศิลปินสาวผู้มีสไตล์เป็นขบถวัฒนธรรมเกาหลีใต้อย่าง ‘Jessi’ ที่อำลาค่าย P-Nation ไปเมื่อปีที่แล้ว และประกาศอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นปีว่า เธอเข้าร่วมเป็นศิลปินค่ายของ Jay Park อย่าง More Vision พร้อมเปลี่ยนลุคและสไตล์เพื่อให้เข้ากับผลงานที่เธอทยอยปล่อยให้ได้ชมกันอยู่ตอนนี้ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีอย่างท่วมท้น ส่วนด้านศิลปินหนุ่มผู้ฝ่าฟันกระแสต่างๆ มาทุกยุคอย่าง 'G-Dragon' ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่โบกมือลาค่ายวายจีและอาจไปซบอกกับ Warner Music Records หลังจากที่เขาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันมาถึง 17 ปีตั้งแต่ในนามศิลปินของวง ‘BIGBANG’ ซึ่งถือว่าเขาเป็นสมาชิกในวงที่อยู่กับวายจีมานานที่สุดอีกด้วย การเดินทางครั้งใหม่ของทั้งคู่มองเผินๆ จะดูเป็นเรื่องปกติ ทว่าอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมเพลงให้เกิดผลงานใหม่ๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนก็เป็นได้

 

5. BLACKPINK และ Jung Kook แห่งวง BTS เขย่าเวทีเพลงระดับโลก

     การขึ้นแสดงเวทีเทศกาลเพลงยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง Coachella ไม่ใช่ศิลปินทุกคนที่จะได้ขึ้นแสดงกันอย่างง่ายดาย ทว่าศิลปินสาว BLACKPINK ได้นำแสงสปอตไลต์จากเวทีแห่งนี้มาสู่พวกเธอถึงสองครั้ง โดยล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาการขึ้นแสดงบนเวทีโคเชลล่าประจำปี 2023 ของแบล็กพิงก์ได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างท่วมท้น และพวกเธอยังนำเสนอผลงานเพลงอัลบั้มล่าสุด ‘Born Pink’ ด้วยแสงสีเสียงสุดตระการตา จนแฟนๆ กล่าวว่าเป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่น่าจดจำไว้ในประวัติการณ์

     กรอม้วนเทปข้ามเวลามาสู่ท้ายปีกับการออกผลงานเดี่ยวของ Jung Kook แห่งวง BTS ที่มีอัลบั้ม Golden เป็นผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซส่งท้ายก่อนเข้ากรมฯ ซึ่งจองกุกมีโอกาสได้ขึ้นแสดงเพลงจากอัลบั้มนี้บนเวที TSX Times Square โดยมีแฟนเพลงมารอชมพร้อมส่งเสียงเชียร์ดังกึกก้อง และถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ว่าเขาคือศิลปินคนที่สองที่ได้ขึ้นแสดงบนเวทีแห่งนี้หลังจากที่ Post Malone เคยขึ้นแสดงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

 

6. แฟชั่นโมเมนต์ของเจนนี่ BLACKPINK หยุดเวลาทั่วพรมแดง Met Gala และเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ประจำปี 2023

     พรมแดงสุดยิ่งใหญ่แห่งอุตสาหกรรมแฟชั่นและบันเทิงคงจะหนีไม่พ้นงาน Met Gala และเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ซึ่งเจนนี่ แห่งวง BLACKPINK เป็นหนึ่งในแขกคนสำคัญของทั้งสองงานนี้ โดยงานเมต กาล่าเจนนี่ได้รับเชิญและปรากฏตัวในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกของ Chanel พร้อมปรากฏตัวด้วยลุคชุดกระโปรงสั้นประดับดอกคามิลเลียกลางอกจากคอลเล็กชั่นประจำปี 1990 โดยฝีมือการออกแบบของดีไซเนอร์ผู้ล่วงลับ Karl Lagerfeld และปรากฏตัวบนพรมแดงเมืองคานส์ในฐานะนักแสดงจากซีรี่ส์ที่อยู่ท่ามกลางคำวิพากษ์วิจารณ์มหาศาลอย่าง ‘The Idol’ ด้วยลุคชุดกระโปรงผ้าลูกไม้จากชาเนลเช่นกัน ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของแฟนๆ และอุตสาหกรรมเคป๊อป ที่มีตัวแทนศิลปินจากแดนกิมจิได้เข้าร่วมงานใหญ่ระดับโลกถึงสองงานในเวลาใกล้เคียงกันเป็นครั้งแรก

 

7. เจนนี่ BLACKPINK และ Park Seo Joon ฝากฝีไม้ลายมือการแสดงผ่านผลงานในโลกตะวันตก

     ศิลปินและนักแสดงจากประเทศเกาหลีใต้มีบทบาททั้งในฝั่งผลงานเพลงและแฟชั่นระดับโลกกันเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดที่ว่าวงการภาพยนตร์และวงการซีรี่ส์จากฝั่งตะวันตกก็หันมาเชิญชวนพวกเขาให้มาสร้างสีสันและร่วมสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดความแปลกใหม่อย่างลงตัว โดยเจนนี่ BLACKPINK ที่อยู่ในฐานะศิลปินมาเสมอ กลับเปลี่ยนแปลงบทบาทสู่การเป็นนักแสดงครั้งแรกในซีรี่ส์จากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งออนไลน์ HBO อย่างเรื่อง ‘The Idol’ ซึ่งต้องยอมรับว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางด้านลบโหมกระหน่ำถึงขั้นเป็นซีรี่ส์ที่มีคะแนนต่ำสุดของแพลตฟอร์มอีกด้วย ทว่าคำชื่นชมก็ตกไปหาเจนนี่อยู่ดีแม้ว่าเธอจะมีการแต่งกายโป๊เปลือยและเต้นท่ายั่วยวนกว่าที่เคยเป็นมา แต่เธอก็สามารถข้ามผ่านขีดจำกัดของนิยามคำว่า ‘สาวเกาหลีต้องอ่อนหวาน’ ได้อย่างแท้จริง

     ด้านกระแสของพระเอกชื่อดัง ‘Park Seo Joon’ ก็มีเรื่องให้พูดถึงไม่แพ้กันกับช่วงปลายปีที่ผ่านมา เมื่อเขาได้มีโอกาสร่วมงานกับค่ายหนังซูเปอร์ฮีโร่ Marvel Studios กับภาพยนตร์เรื่อง ‘The Marvels’ ที่ถึงแม้กระแสตอบรับจะไม่เป็นไปตามที่หวังเพราะเป็นภาพยนตร์ที่เปิดตัวรายได้ต่ำสุดของค่ายมาร์เวลในรอบ 15 ปีของภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่ และมีการปรากฏตัวพัคซอจุนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทั้งคู่เป็นจุดสนใจในการร่วมงานครั้งนี้และผู้ชมทั่วโลกได้รู้จักบุคคลทางอุตสาหกรรมเกาหลีกันมากขึ้น

 

 ภาพ: อินสตาแกรม @babymonster_ygofficial

8. YG Entertainment ส่งเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ BABYMONSTER เข้าสู่อุตสาหกรรมเพลง

     เมื่อมีรุ่นพี่เป็นผู้กรุยทางให้คนทั่วโลกหันมาจับจ้องวงการเคป๊อปกันมากขึ้น ศิลปินสายเลือดใหม่จึงได้รับความสนใจจากเหล่าแฟนๆ ที่พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ เฉกเช่นการเปิดตัววง 'BABYMONSTER' จากค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ YG Entertainment ที่เคยกล่าวไปก่อนหน้าว่าจะเปิดตัวสมาชิกที่ร่วมเดบิวต์ทั้งหมด 7 คนในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วย Ruka, Pharita, Asa, Ahyeon, Haram, Rora และ Chiquita แต่ก็เกิดเรื่องช็อกทั่ววงการหลังจากที่วายจีประกาศว่าอาฮยอนจะไม่ร่วมเดบิวต์กับเบบี้มอนสเตอร์ในปีนี้เนื่องจากปัญหาสุขภาพ แต่ถึงอย่างไรแล้วการเดบิวต์ของศิลปินทั้ง 6 คนในวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมาก็สร้างสถิติอันน่าจดจำให้แก่วงการเพลง เมื่อมิวสิกวิดีโอ ‘BATTER UP’ มียอดวิวบนยูทูบทะยานสู่...ล้านวิวแล้วเรียบร้อย (ข้อมูล ณ วันที่...) และถือเป็นศิลปินเคป๊อปที่มียอดวิวเปิดตัวมิวสิกวิดีโอเดบิวต์ภายใน 24 ชั่วโมงแรกได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย สิ่งนี้จึงถือเป็นสัญญาณที่ดีแล้วว่าเบบี้มอนสเตอร์มีแนวโน้มที่จะเติบโตในแวดวงบันเทิงและในวงการอื่นๆ อีกแน่นอน

 

9. ส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ไทยด้วยผลงานจากวงการเกาหลีอย่างซีรี่ส์ King The Land และ ลิซ่า BLACKPINK

     การส่งออกวัฒนธรรมไทยให้สู่สายตาของคนทั่วโลกในช่วงปีนี้ ผลงานจากวงการเกาหลีใต้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ชมล้วนรู้จักความเป็นไทยมากยิ่งขึ้น เช่นซีรี่ส์ King The Land ที่นำแสดงโดย Lee Jun Ho และ Im Yoon Ah ได้ถ่ายทำตามสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทย อาทิ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร, ไอคอนสยาม หรือแม้แต่คลองโอ่งอ่างที่มีอาหารไทยให้เดินชิมอย่างหลากหลาย ซึ่งซีรี่ส์เรื่องนี้นำเสนอความสวยงามของสถานที่และอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ทำให้ผู้คนรู้จักและล้วนอยากตามรอยซีรี่ส์ King The Land กันถ้วนหน้าจนเกิดเป็นไวรัลไปทั่วโซเชียล

     โมเมนต์สำคัญที่เกิดขึ้นไปไม่นานกับลิซ่า แห่งวง BLACKPINK ได้เข้าร่วมรายการ Billions Club ของ Spotify ด้วยเพลง Money ที่มีสถิติผู้ฟังสตรีมมิ่งครบ 1 พันล้านครั้ง ซึ่งไฮไลต์ของรายการคือสปอติฟายมอบ 'จานเงิน' เพื่อเป็นรางวัลสำหรับผู้ที่ทำยอดสตรีมถึงตามที่กำหนด โดยให้นำจานนี้ใช้สำหรับใส่อาหารตามต้องการ ทว่าลิซ่าก็สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับเหล่าบลิงก์ เมื่อเธอเลือกทำอาหารเมนู 'ข้าวไข่เจียวกุ้งสับ' พร้อมทั้งราดพริกน้ำปลาเป็นท็อปปิ้ง จนกลายเป็นเมนูที่ผู้คนล้วนให้ความสนใจและอยากลองรับประทานข้าวไข่เจียวกุ้งสับราดด้วยพริกน้ำปลาเฉกเช่นที่ลิซ่าชอบกินเป็นประจำเมื่อมีโอกาส

 

blackpink

ภาพ: Vogue Magazine 

10. วินาทีประวัติศาสตร์! BLACKPINK ปรากฏตัวที่พระราชวังบักกิ้งแฮม พร้อมรับพระราชทานเครื่องราชฯ จากกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3

     ความสนใจเกี่ยวกับมหากาพย์การต่อสัญญาของ BLACKPINK ที่ใช้เวลาหารือกับต้นสังกัด YG Entertainment ร่วมสองเดือนก็ได้ข้อสรุปแล้วว่าทั้ง 4 คนจะต่อสัญญาในนามวง และอีกหนึ่งโมเมนต์สำคัญที่แบล็กพิงก์สร้างความภูมิใจให้แก่แฟนๆ ส่งท้ายปี คือวินาทีประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อลิซ่า เจนนี่ จีซู และโรเซ่ได้เข้าร่วมงานต้อนรับการเยี่ยมเยียนราชวงศ์แห่งกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ของประธานาธิบดีประเทศเกาหลีใต้อย่าง Yoon Suk Yeol และสตรีหมายเลขหนึ่งอย่าง Kim Keon Hee หรืองาน 'The Korean State Banquet' ณ พระราชวังบักกิ้งแฮม เนื่องในโอกาสครบรอบ 140 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างวัฒนธรรมประเทศเกาหลีใต้และประเทศอังกฤษ ซึ่งถือเป็นเกิร์ลกรุ๊ปจากประเทศเกาหลีใต้วงแรก และเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงที่ 2 หลังจากที่ Spice Girls เกิร์ลกรุ๊ปจากอังกฤษเคยพูดคุยกับเจ้าชายชาร์ลส์(ในเวลานั้น) ในปี 1997 อีกด้วย นอกจากนี้พวกเธอทั้ง 4 คนยังได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิบริติช (Most Excellent Order of the British Empire) จากสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งถือเป็นเกียรติประวัติแก่อุตสาหกรรมเคป๊อปที่จะจารึกไว้ตราบนานเท่านาน

 

กราฟิก : จินาภา ฟองกษีร

WATCH

คีย์เวิร์ด: #VogueScoop #VogueKulture #KulturePhenomenon