LIFESTYLE

VOGUE SCOOP | รวม 12 เรื่องน่าจับตามองในเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2025

โว้กพาทุกคนไปทำความรู้จักกับภาพยนตร์ 12 เรื่องที่น่าจำตามอง ก่อนภาพยนตร์เหล่านี้จะเริ่มฉายและโด่งดั่งไกล

     ไม่ใช่เพียงพรมแดงที่เปล่งประกายด้วยแฟชั่นชั้นสูงแต่เทศกาลหนังเมืองคานส์ 2025 ยังเป็นเวทีที่คัดสรรภาพยนตร์ซึ่งนิยามใหม่ให้กับศิลปะการเล่าเรื่องทุกปี ตั้งแต่การเปิดตัวผู้กำกับหน้าใหม่ที่พลิกบทบาทจากนักแสดงขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับครั้งแรก ไปจนถึงเทคนิคกำกับภาพอันคลาสสิกที่ถูกนำมาผสมผสานกับความโมเดิร์น เทศกาลในปี 2025 นี้พิสูจน์ให้เห็นว่าโลกภาพยนตร์ยังคงไม่หยุดพัฒนา โว้กคัดเลือก 12 เรื่องที่น่าจับตามากที่สุดในปีนี้ ทั้งจากสายแข่งขันและรอบพรีเมียร์พิเศษ พร้อมวิเคราะห์ว่าเหตุใดภาพยนตร์เหล่านี้จึงควรค่าแก่การติดตามรับชม

 

 

1. A Useful Ghost

หนึ่งในเซอร์ไพรส์จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปีนี้คือภาพยนตร์จากประเทศไทยเรื่อง A Useful Ghost ที่ได้นักแสดงสาวดาวิกา โฮร์เน่ มารับบทนำในหนังแฟนตาซี-คอมเมดี้ที่ผสานความเชื่อเรื่องผีเข้ากับดราม่าครอบครัวร่วมสมัย นี่ไม่ใช่เพียงหนังตลกเกี่ยวกับผี แต่เป็นการเล่าเรื่องชีวิตหลังความตายที่เฉียบคมและสะท้อนวัฒนธรรมไทยอย่างมีชั้นเชิง งานกำกับของ รัฐภูมิ บุญบรรจงโชค ยังเล่นกับโทนสีฉูดฉาด การออกแบบฉากที่ทั้งมีเสน่ห์และแปลกตา ทำให้เรื่องนี้โดดเด่นขึ้นมาในสาย Un Certain Regard อย่างชัดเจน

 

 

2. Honey Don’t

ผลงานภาพยนตร์ตลกร้าย แนวสืบสวนที่เขียนบทโดย Ethan Coen และ Tricia Cooke เรื่องราวติดตามนักสืบเอกชนหญิงในเมืองเล็กที่เข้าไปพัวพันกับเงื่อนงำการตายอันน่าสงสัยซึ่งโยงใยถึงโบสถ์ท้องถิ่น ความน่าตื่นเต้นของเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงบทที่ชวนลุ้นและเสียดสีสังคมอย่างแสบสันต์ แต่ยังอยู่ที่เคมีระหว่าง Aubrey Plaza และ Margaret Qualley ที่ทำให้ทุกฉากร่วมกันทรงพลังและเปี่ยมเสน่ห์ยิ่งขึ้น และเมื่อ Chris Evans ปรากฏตัวในบทบาทที่สดใหม่ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงกลายเป็นส่วนผสมที่ทั้งฉลาดเฉียบและเซอร์ไพรส์ในทุกทาง เป็นหนึ่งในเรื่องที่คอหนังไม่ควรมองข้ามบนพรมแดงคานส์ปีนี้อย่างแท้จริง

 

 



WATCH




3. Mission Imposible

ในขณะที่ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ในเทศกาลคานส์เน้นศิลปะภาพยนตร์และปรัชญาอันลึกซึ้ง แต่บางครั้งแอ็กชั่นชื่อดังที่ทำออกมาอย่างประณีตก็ควรค่าแก่การฉายรอบพรีเมียร์พิเศษ Mission: Impossible – The Final Reckoning (Part Two) คือบทสรุปของแฟรนไชส์ที่นำโดย Tom Cruise และกลายเป็นตัวแทนของภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่ยังรักษาคุณภาพได้อย่างมั่นคง ครั้งนี้ฉากแอ็กชั่นหลักอยู่ที่กลางกรุงโรมที่ใช้ Practical Effects ล้วน และบทสรุปของตัวละคร Ethan Hunt ที่ถูกถ่ายทอดอย่างเข้มข้น

 

 

4. The Phoenician Scheme

Wes Anderson กลับมาสะกดทุกสายตาด้วยภาพยนตร์แนวผจญภัยที่อบอวลด้วยกลิ่นอายโบราณคดีในตะวันออกกลาง เรื่องราวของนักต้มตุ๋นที่ต้องปลอมตัวเป็นนักโบราณคดีเพื่อแย่งชิงสมบัติโบราณกลายเป็นหนังที่ทั้งเสียดสีอุตสาหกรรมศิลปะและวัฒนธรรมโลกตะวันตก พร้อมทั้งเป็นโอกาสให้นักออกแบบงานสร้างได้แสดงฝีมือเต็มที่ซึ่งอาจส่งผลต่อเทรนด์แฟชั่น การเกรดสีภาพในสไตล์ภาพยนตร์ของ Wes Anderson ที่จะกลับมาอีกครั้ง

 

 

5. Renoir

ภาพยนตร์ดราม่าที่จะพาย้อนกลับไปในปี 1987 ในโตเกียวประเทศญี่ปุ่น โดยผู้กำกับ Chie Hayakawa เล่าเรื่องราวของเด็กหญิงวัย 11 ปี ที่ต้องเผชิญกับความเจ็บป่วยของพ่อและความเครียดของแม่ เธอใช้จินตนาการเป็นเครื่องมือในการหลีกหนีความเป็นจริง ภาพยนตร์สะท้อนถึงการเติบโตและการเผชิญหน้ากับความจริงของชีวิต

 

 

6. Die My, Love

ภาพยนตร์ดัดแปลงจากนิยายร่วมสมัยของ Ariana Harwicz เรื่องราวเล่าผ่านหญิงสาวในเมืองชนบททางตอนใต้ของฝรั่งเศสที่ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าหลังคลอด และค่อยๆ จมลึกลงสู่ความบ้าคลั่งระหว่างชีวิตแต่งงานและแรงปรารถนาในตนเอง ครั้งนี้ Jennifer Lawrence กลับมารับบทนำในภาพยนตร์อินดี้อีกครั้ง ประกบกับ Robert Pattinson ที่พลิกบทบาทจากภาพลักษณ์เดิมมารับบทสามีผู้เปราะบางที่เต็มไปด้วยความกดดัน แสดงพลังการแสดงของทั้งคู่อย่างดุดัน

 

 

7. Nouvelle Vague

Richard Linklater เลือกสานต่อการสร้างสรรค์แบบภาพยนตร์ฝรั่งเศสยุค Jean-Luc Godard และ François Truffaut ผ่านเรื่องราวของหนุ่มนักเรียนภาพยนตร์ที่คลั่งไคล้การเคลื่อนไหวทางศิลปะ หนังเต็มไปด้วยการอ้างอิงภาพยนตร์คลาสสิก บทพูดที่สอดแทรกปรัชญา และการถ่ายทำแบบ Handheld Camera อย่างจงใจ เป็นหนังสำหรับคนรักหนัง ที่คาดการณ์ว่าจะเป็นที่สนใจของนักวิจารณ์หนังอย่างล้นหลาม

 

 

8. Exit 8

ผลงานภาพยนตร์จากญี่ปุ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมอินดี้ นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์สยองขวัญเชิงจิตวิทยาที่ใช้ฉากเพียงไม่กี่มุมในทางเดินรถไฟใต้ดิน แต่กลับสร้างบรรยากาศกดดันได้อย่างน่าทึ่ง เรื่องราวติดตามชายคนหนึ่งที่หลงเข้าไปในทางเดินที่ไม่มีจุดสิ้นสุด ซึ่งมีเพียงกฎข้อเดียวเท่านั้นที่ต้องปฏิบัติตามคือ 'อย่าหันกลับไปมอง' ภาพยนตร์ใช้ความเงียบและจังหวะในการเล่นกับประสาทของผู้ชมอย่างแยบยล ที่คาดว่าจะเป็นเรื่องหนึ่งที่สร้างกระแสได้แรงที่สุดในสาย Directors’ Fortnight ปีนี้

 

 

9. The Chronology of Water

ผลงานการกำกับเรื่องแรกของ Kristen Stewart ดัดแปลงจากบันทึกความทรงจำของ Lidia Yuknavitch เล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ต้องเผชิญกับความรุนแรงในครอบครัว การเสพติด และการค้นหาตัวตนผ่านการเขียน ภาพยนตร์เต็มไปด้วยอารมณ์และการเล่าเรื่องที่ลึกซึ้งที่เชื่อได้เลยว่าระดับ Kristen Stewart จะทำได้ออกมาอย่างน่าสนใจ

 

 

10. Eleanor The Great

เป็นที่น่าตื่นเต้น เมื่อภาพยนตร์นี้เรื่องแรกที่นักแสดงสาว Scarlett Johansson ก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำกับ ภาพยนตร์ว่าด้วยเรื่องของหญิงวัย 70 ที่ตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังการสูญเสีย หนังเรื่องนี้โดดเด่นตรงที่มันทั้งอ่อนโยนและกบฏในเวลาเดียวกัน มันคือบทกวีของการเติบโตในวัยที่ไม่มีใครคาดคิด การออกแบบฉากและคอสตูมในหนังเรื่องนี้ยังบอกเล่าตัวตนของ Eleanor อย่างชัดเจน เสื้อผ้าคือคำประกาศความกล้าหาญของหญิงวัยเกษียณที่เปี่ยมความฝัน และความมีชีวิตชีวา

 

 

11. Inherit

ภาพยนตร์ไทยเข้าสู่งานเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลก โดย โต้ง–บรรจง ปิสัญธนะกูล ฝีมือของผู้กำกับคนเดิมอีกครั้งจากที่เคยฝากภาพยนตร์สยองขวัญระดับโลกอย่าง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ และ ร่างทรง ครั้งนี้เขากลับมาพร้อมกับการตีความบทประพันธ์คลาสสิกอันโด่งดังของไทย 'ทายาทอสูร' ในมุมมองใหม่ที่ลึกซึ้งและร่วมสมัยยิ่งขึ้น พร้อมได้ ใหม่–ดาวิกา โฮร์เน่ มานำแสดงรับบทเป็นคุณยายวรนาฏ หญิงผู้สืบทอดสายเลือดแห่งคำสาปที่เชื่อมโยงกับพลังลึกลับในอดีต ภาพยนตร์ผสมผสานความเชื่อพื้นบ้านไทยกับการเล่าเรื่องแบบจิตวิทยา ถ่ายทอดบรรยากาศหลอนปนดราม่าที่สะท้อนความสัมพันธ์ในครอบครัวและบทบาทของผู้หญิง

 

 

12. Gohan

อีกหนึ่งโปรเจกต์ภาพยนตร์ที่น่าจับตามองจาก GDH กับการร่วมมือกันของโปรดิวเซอร์มือทอง บาส–นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับฉลาดเกมส์โกง และ วัน–วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ จากภาพยนตร์หลานม่า มาเล่าเรื่องราวของสุนัขจรจัดที่ผ่านการเดินทางและได้พบกับเจ้าของถึงสามคนในช่วงชีวิต สะท้อนถึงความรัก ความผูกพัน และความหวังจากมุมมองของสัตว์เลี้ยงที่มักถูกมองข้าม ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวในตลาดภาพยนตร์ Marché du Film ที่คานส์ และมีกำหนดเข้าฉายจริงในปี 2026

 

 

ตามไปอ่านซีรี่ส์ของ VOGUE SCOOP เพิ่มเติมได้ที่นี่

 

(สามารถอ่านเรื่อง VOGUE SCOOP | รวบปรากฏการณ์ ASIAN POWER เมื่อเหล่าคนดังจากเอเชียขนทัพเฉิดฉายในงาน ได้ที่นี่)

WATCH