กระแสความปังของลิซ่า ศิลปินสาวไทยในแวดวงเคป๊อปไม่เคยหยุดนิ่งตลอด 2-3 ปีมานี้ เรียกว่าเธอคือซูเปอร์สตาร์ที่สร้างกระแสนิยมได้อย่างล้นหลามทั้งในวงการบันเทิง ดนตรี และแฟชั่น โปรเจกต์ใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าก็ล้วนเป็นปรากฏการณ์ที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลก เพลงเดี่ยวของเธอก็ทำสถิติมากมาย มาในปี 2023 ดูเหมือนว่าลิซ่าจะก้าวขึ้นไปอีกขั้น เมื่อมีกระแสจับมือกับแทยัง ศิลปินหนุ่มเกาหลีสุดฮอตแห่งวง BIGBANG ที่ขึ้นแท่นเป็นตำนานแห่งวงบอยแบนด์ของอุตสาหกรรมเคป๊อปไปแล้ว แฟนคลับจึงคอยติดตามว่าลิซ่าและแทยังจะรังสรรค์ผลงานอะไรให้เราได้เสพกันในเร็ววัน

     เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2023 มีการปล่อยวิดีโอทีเซอร์เพลง SHOONG! ออกมายั่วยวนแฟนๆ ให้ติดตามชมผลงานใหม่ล่าสุดของลิซ่ากับแทยัง วิดีโอดังกล่าวขึ้นลิสต์กระแสมาแรงของยูทูบอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังต่อยอดให้คนพูดถึงติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน ก่อนเพลงและมิวสิกวิดีโอเต็มจะถูกปล่อยออกมาในช่วงเย็นของวันที่ 25 เมษายน 2023 ทุกสื่อและแฟนคลับต่างพูดถึงผลงานชิ้นใหม่ของทั้งคู่กันอย่างต่อเนื่อง เทรนด์ทวิตเตอร์ก็ไม่พลาดจะมีชื่อแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องติดอย่างไม่ต้องสงสัย สไตล์เพลงฮิปฮอปสอดประสานกับท่าเต้นอันแข็งแรง สะท้อนความสามารถของลิซ่าและแทยังเต็มเปี่ยม หลายคนคงสงสัยว่านอกจากความสุดยอดเบื้องหน้าแล้ว ใครที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังทำให้เพลงดังกล่าวทรงพลังขนาดนี้

Bailey Sok นักออกแบบท่าเต้นวัย 19 ปีผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และอยู่เบื้องหลังท่าเต้นเพลงฮิตมากมาย / ภาพ: @baileysok

     ชื่อ Bailey Sok ถูกพูดถึงทันทีหลังจากเพลงนี้ถูกปล่อยออกมาเพียงไม่กี่นาที เนื่องจากท่าเต้นแบบ Duel และ Solo ของทั้งคู่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ตอบสนองกับจังหวะบีทแน่นๆ ของเพลงนี้ได้เป็นอย่างดี วิธีการนำเสนอตัวตนผ่านท่าทางการใช้ภาษากายได้อย่างโดดเด่น ท่าเต้นฝั่งแทยังเต็มไปด้วยความแข็งแรงและใช้การเคลื่อนไหวที่จดจำได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ในขณะที่ลิซ่าก็มีเซ็ตทวงท่าการเต้นที่ครบรส ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแรงกระแทกตรงจังหวะบีท รวมถึงความพลิ้วไหวสไตล์เฟมินีนที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ดังนั้นท่าเต้นอันลงตัวแบบนี้จะต้องมีผู้อยู่เบื้องหลังที่เปี่ยมไปด้วยฝีมือและพรสวรรค์อย่างแน่นอน

     เบลีย์ได้รับเสียงชื่นชมมาตลอดปีที่ผ่านมา เพราะเธอสามารถรังสรรค์ท่าเต้นอันหยิบยกแรงบันดาลใจจากดนตรีฮิปฮอปมาออกแบบเซ็ตที่น่าจดจำได้มากมาย ในเพลงใหม่ล่าสุดของลิซ่าและแทยังเธอก็ไม่พลาดออกแบบความยอดเยี่ยมที่สอดประสานเข้ากับบีทอย่างลงตัวที่สุด ต้องบอกว่านี่คือบุคคลผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ เบลีย์เริ่มเส้นทางการเต้นตั้งแต่อายุเลขหลักเดียว ก่อนจะเริ่มผันตัวมาสอนตั้งแต่วัยเพียง 14 ปีเท่านั้น ตั้งแต่นั้นเธอก็มีมุมมองในการออกแบบท่าเต้นโดยยึดความโดดเด่นของศิลปินและเพลง รวมถึงองค์ประกอบสำคัญเช่นมิวสิกวิดีโอหรือการแสดงสดมาคิดคำนวณทั้งหมด ดังนั้นไม่น่าแปลกใจที่ทวงท่าของลิซ่าและแทยังในเพลง SHOONG! จะเป็นสิ่งที่ทั้งน่าตื่นเต้นและคุ้นเคยไปได้ในเวลาเดียวกัน เพราะความสดใหม่ของท่าเต้นคลุกเคล้ากับตัวตนหรือภาพจำของศิลปิน ประกอบกับจังหวะดนตรีสดใหม่ ล้วนทำให้ทั้งคู่โดดเด่นและคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ในเพลงนี้

     การคิดค้นท่ายากท้าทายขีดจำกัดของเบลีย์คือบทพิสูจน์ของลิซ่าและแทยังด้วยเช่นกัน เพราะท่าเต้นในเพลงดังกล่าวถูกพูดถึงว่ายากและซับซ้อน แทยังกล่าวถึงท่าเต้นเพลงนี้อย่างตรงไปตรงมา และพูดถึงความยากถึงขนาดว่านักเต้นมือดีของเกาหลีจากรายการดังยังยอมรับว่ายากจริงๆ เคมีการในผสมผสานทั้งเซ็ตของลิซ่าและแทยังเข้าด้วยกันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นนี่คือโจทย์สำคัญที่ศิลปินระดับแถวหน้าของวงการต้องทำให้ได้ดีที่สุด แน่นอนว่าแฟนคลับก็คาดหวังผลงานการร่วมมือกันครั้งนี้อย่างเต็มที่ ทั้งคู่ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังกับความท้าทายจากเบลีย์ และเมื่อผ่านขีดจำกัดความท้าทายตรงนี้ไปได้ หมายถึงความยิ่งใหญ่และการพิสูจน์ความสามารถของศิลปิน นักออกแบบท่าเต้นไม่เพียงคิดค้นสิ่งที่น่าดึงดูดผู้ชมที่สุดเท่านั้น ในมุมหนึ่งยังหมายถึงการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับศิลปินเพื่อก้าวไปข้างหน้า นี่คือสิ่งที่สะท้อนได้จากการแสดงลีลาอันสมบูรณ์แบบในเพลง SHOONG! ของลิซ่าและแทยัง โดยมีเบลีย์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในส่วนที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของเพลงนี้