เป็นเรื่องน่าสะเทือนใจอย่างยิ่งเมื่อทุกคนทราบข่าวการลอบสังหารนายกรัฐมนตรีประจำประเทศญี่ปุ่นอย่าง “ชินโสะ อาเบะ” อย่างอุกอาจ นับเป็นคดีสะเทือนขวัญที่กระตุกความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยในการอารักขาบุคคลสำคัญ หรือแม้แต่ความปลอดภัยในการใช้ชีวิตในที่สาธารณะด้วย โว้กจึงขอร่วมไว้อาลัยแด่การจากไปของนาย ชินโสะ อาเบะ มา ณ ที่นี้ ทว่าเรื่องราวอันน่าประทับใจของนายกฯ คนนี้ก็น่าพูดถึงไม่แพ้กัน เราจะย้อนความทรงจำแสนน่ารักที่ครั้งหนึ่งเขาเคยสวมบทบาทเป็นมาริโอ้ในพิธีรับไม้ต่อการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิกจนเรียกความประทับใจได้จากผู้คนทั่วโลก

     ย้อนกลับไปในวันที่ 21 สิงหาคม 2016 ณ สนามมาราคาน่า เมืองริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล วันนั้นเป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่ง เพราะมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ณ กรุงริโอ กำลังจะปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ และแน่นอนว่าจะต้องมีพิธีรับไม้ต่อการเป็นเจ้าภาพ ทันใดนั้นวิดีโอที่โชว์ภาพชินโสะ อาเบะกำลังมองนาฬิกาและตระหนักได้ว่าอาจจะไปปรากฏตัวที่สนามไม่ทันแล้ว ภายในรถเต็มไปด้วยเครื่องแต่งกายและพรอพจากเรื่องซูเปอร์มาริโอ้ มีการฉายแอนิเมชั่นตัวละครช่างประปาสุดโด่งดังวิ่งวุ่นท่ามกลางย่านชิบูย่า ก่อนจะเตรียมเซอร์ไพรส์ไว้ให้แฟนกีฬาทั่วโลก ณ สนามสุดยิ่งใหญ่กลางกรุงริโอ

ภาพ: TIME

     เมื่อตัวละครมาริโอ้เวอร์ชั่นแอนิเมชั่นพบกับโดเรม่อน ตัวละครหุ่นยนต์แมวสีฟ้าก็ควักท่อประปาสีเขียวมาให้ พร้อมเจาะทะลวงโลกจากกรุงโตเกียวสู่กรุงริโอ มาริโอ้เดินทางข้ามโลกผ่านท่อประปามิติ จนสุดท้ายก็มาปรากฏตัวกลางสนามมาราคาน่า และมาริโอ้ในสนามวันนั้นก็คือ ชินโสะ อาเบะ ผู้นำของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นไอเดียสุดล้ำในการเปิดตัวเพื่อรับไม้ต่อการเป็นเจ้าภาพ เหตุการณ์นี้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามเนื่องจากใช้วัฒนธรรมอันโดดเด่นของประเทศมาผูกโยงเรื่องราวแสนเรียบง่ายแต่น่าสนใจ อีกทั้งผู้นำยังเข้าใจบริบทและมีส่วนร่วมกับความน่ารักน่าประทับใจนี้อย่างเป็นธรรมชาติ

ภาพ: British GQ

     เรื่องราวความน่าประทับใจนี้เป็นหนึ่งในโมเมนต์แห่งประวัติศาสตร์ในพิธีปิดโอลิมปิกเลยก็ว่าได้ ผู้คนล้วนชื่นชมการผนวกเทคโนโลยีเข้ากับวัฒนธรรมอันมีชื่อเสียงของประเทศ อีกทั้งยังมีหลายคนชื่นชมวิธีการนำเสนอรูปแบบทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ แม้เขาจะตั้งคำถามว่า “มันเหมาะสมเหรอที่นายกฯ จะตั้งตัวเป็นมาริโอ้” แต่เมื่อปรากฏตัวขึ้นจริงกลับได้รับเสียงปรบมือกึกก้องและสร้างรอยยิ้มให้คนทั้งโลก ตอนแรกเขาไม่ได้ชอบไอเดียนี้เท่าไหร่นัก แต่เมื่อเปิดใจและทำมันอย่างเต็มที่ก็ได้ผลลัพธ์อันน่าประทับใจ นี่คือโมเมนต์สำคัญไม่ใช่แค่ในโอลิมปิก แต่หมายถึงของโลกที่สะท้อนให้เห็นว่าผู้นำไม่จำเป็นต้องขึงขังจริงจังเสมอไป การสร้างคาแร็กเตอร์เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ทางการเมืองที่เป็นมิตรและผูกโยงเข้ากับประสบการณ์คนทั่วไปได้นั้นกลายเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้โลกนี้เข้าใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นมีปัจจัยสำคัญคือวัฒนธรรมอันลื่นไหลและการแสดงออกถึงความเชื่อมโยงระหว่างเจ้าของวัฒนธรรมและมรดกต่างๆ ที่พร้อมส่งต่อถึงทุกคน