‘My Love Mine All Mine’ เพลงไพเราะเสนาะหูที่โด่งดังอย่างมากบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย มันถูกนำไปประกอบวิดีโอสั้นและยาวหลากหลายรูปแบบที่สื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกเรื่อยไปจนถึงการนำเสนอความสวยงามจรรโลงใจ งานศิลปะดนตรีชิ้นนี้เป็นของ Mitski ศิลปินหญิงลูกครึ่งอเมริกัน-ญี่ปุ่นที่เริ่มต้นชีวิตด้วยการระหกระเหินเดินทางไปหลายมุมโลก เนื่องด้วยสาเหตุที่พ่อชาวอเมริกันทำงานในกระทรวงต่างประเทศ ชีวิตวัยเด็กของเธอจึงย้ายถิ่นที่อยู่ไปตั้งแต่ประเทศตุรกี จีน มาเลเซีย สาธารณรัฐเช็ก และคองโก ก่อนจะลงหลักปักฐานสุดท้าย ณ สหรัฐอเมริกา เส้นทางชีวิตของเธอจึงเต็มไปด้วยการผจญภัย

หน้าปกอัลบั้ม Lush ผลงานอย่างเป็นทางการชิ้นแรกของ Mitski / ภาพ: Amazon

     เชื่อว่าหลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อมิตสกีมาก่อนที่เพลง ‘My Love Mine All Mine’ จะโด่งดังเป็นพลุแตกในปี 2023 ปัจจุบัน Mitsuki Laycock (ชื่อจริง) ก็ไม่ใช่ศิลปินดาวรุ่งหน้าใหม่อีกต่อไป เพราะเธออายุ 33 ปี และมีผลงานออกมาแล้วนานกว่าทศวรรษ เธอเริ่มต้นเส้นทางดนตรีจากการร้องประสานเสียงและการฝึกซ้อมเปียโน และบันทึกเพลงครั้งแรกเมื่ออายุ 18 ปี ณ เมืองอังคารา ประเทศตุรกี จน 4 ปีต่อมาเธอก็ปล่อยผลงานที่สรรสร้างด้วยตัวเองกับอัลบั้ม ‘Lush’ ในปี 2012 และนำเสนอผลงานต่อเนื่องกับ ‘Retired from Sad, New Career in Business’ ซึ่งเป็นโปรเจกต์สมัยเป็นนักศึกษาในปี 2013 ต้องบอกว่าจุดเริ่มต้นของเธอเกิดจากความพยายามและมุ่งเน้นเป็นศิลปะอิสระเต็มตัว

เบื้องหลังการถ่ายทำปกอัลบั้ม Retired From Sad, New Career in Business ของ Mitski / ภาพ: mitski's archive (Twitter)

     มิตสกีมีความโดดเด่นเรื่องการสื่อสามอารมณ์เคล้าดนตรีชวนรู้สึกจรรโลง สอดแทรกด้วยเนื้อหากินใจและสะเทือนอารมณ์อยู่เสมอ สไตล์ดนตรีถูกนิยามว่าเป็น “บทเพลงที่ถูกบรรเลงในโรงละครโอเปร่าซึ่งนำเสนอเรื่องราวนาฏกรรมสะเทือนอารมณ์” และถูกวิเคราะห์ว่ามิตสกีเปิดพื้นที่ให้คนฟังที่อึดอัดสามารถระบายความรู้สึกผ่านบทเพลงของเธอได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่เธออธิบายว่าบทเพลงของเธอเป็นดั่งพื้นที่ที่คนสามารถดึงความรู้สึกทั้งหมดภายในจิตใจหรือแม้กระทั่งความอัปลักษณ์บางอย่างซึ่งไม่มีพื้นที่สำหรับสิ่งเหล่านี้ในชีวิตจริง ถึงแม้ความลึกซึ้งที่เปี่ยมด้วยอารมณ์จะน่าสนใจหากย้อนกลับไป แต่ชีวิตบนเส้นทางดนตรีก็ไม่ได้โด่งดังเปรี้ยงปร้าง เธอยังคงเป็นศิลปะอิสระที่มีกลุ่มคนฟังกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น

ส่วนหนึ่งจากมิวสิกวิดีโอ Nobody เพลงที่ได้รับรางวัลมิวสิกวิดีโอยอดเยี่ยมจากเวที Libera Awards ประจำปี 2019 / ภาพ: Apple Music

     ก้าวกระโดดสู่ปี 2019 ณ ตอนนั้นมิตสกีมีผลงานมากถึง 5 อัลบั้ม แต่ก็ยังครอบคลุมกลุ่มผู้ฟังศิลปินอิสระจำนวนไม่มากนัก แต่สิ่งที่การันตีคุณภาพดนตรีและชี้ให้เห็นถึงเส้นทางที่เธอพร้อมจะก้าวต่อคือการเข้าชิงรางวัล Libera Awards ประจำปี 2019 มากถึง 5 สาขา ซึ่งเวทีดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมและมอบรางวัลให้แก่นักดนตรีอิสระ โดยเธอสามารถคว้ารางวัลมิวสิกวิดีโอแห่งปีกับเพลง ‘Nobody’ ได้สำเร็จ นับเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ครั้งแรก และเธอก็เริ่มได้รับการจับตามองมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กลุ่มผู้ฟังเพลงมิตสกีเริ่มขยายใหญ่ขึ้น อย่างน้อยก็ในแวดวงผู้ชื่นชอบดนตรีจากศิลปินอิสระ

ตัวอย่างลีลาการแสดงสดของ Mitski ที่ทำให้เธอคว้ารางวัล Best Live Performer จากเวที AIM Independent Music Awards ประจำปี 2022 ไปครอง / ภาพ: Redbrick

     ต้องบอกว่าเธอใช้เวลาในการพัฒนาดนตรีอย่างสม่ำเสมอ แม้จะไม่ใช่ศิลปินระดับซูเปอร์สตาร์หลังจากทำมาร่วมทศวรรษก็ตาม ปี 2022 ดูเหมือนเธอจะเริ่มก้าวสู่แสงสปอตไลต์เต็มตัว อัลบั้ม ‘Laurel Hell’ ได้รับการพูดถึงอย่างหนาหู ผลงานดังกล่าวทำให้เธอก้าวทะยานสู่เวที AIM Independent Music Awards ประจำปี 2022 ด้วยสถานะผู้เข้าชิง 3 รางวัล และคว้ารางวัล Best Live Performer ไปครอง ซึ่งรางวัลดังกล่าวจุดประกายให้คนสนใจว่าศิลปินอิสระผู้แสดงสดยอดเยี่ยมที่สุดนี้โดดเด่นและน่าสนใจเพียงใด และแน่นอนว่าการเข้าชิงรางวัล International Breakthrough ควบคู่กันไปยิ่งทำให้เธอได้รับการจับตามองมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

David Byrne อีกหนึ่งส่วนความสำเร็จร่วมกับ Mitski และ Son Lux กับบทเพลง This Is a Life ที่คว้ารางวัล Best Original Song บนเวทีออสการ์ประจำปี 2023 / ภาพ: NPR

     จุดพีกสุดในชีวิตของมิตสกีไม่ได้เกิดขึ้นบนเวทีมอบรางวัลทางดนตรีโดยเฉพาะ แต่เกิดขึ้นบนเวทีสุดยิ่งใหญ่คือเวทีออสการ์ประจำปี 2023 เธอมีส่วนร่วมกับบทเพลง ‘This Is a Life’ (ร่วมกับ David Byrne และ Son Lux) ซึ่งคว้ารางวัล Best Original Song ผลงานเพลงจากภาพยนตร์เรื่อง Everything Everywhere All at Once ซึ่งเป็นภาพยนตร์ชั้นยอดที่สามารถคว้ารางวัลจากหลายเวทีชั้นนำ และแน่นอนว่าเพลงประกอบที่ขึ้นชื่อว่าเป็นของภาพยนตร์ระดับพระกาฬแบบนี้ต้องได้รับความสนใจอย่างยิ่งยวด ส่งผลให้ชื่อของมิตสกีได้รับความสนใจอย่างมาก จนเป็นที่มาของความนิยมกับผลงานอัลบั้มล่าสุดปี 2023 ชื่อ ‘The Land Is Inhospitable and So Are We’

ส่วนหนึ่งจากมิวสิกวิดีโอเพลง My Love Mine All Mine ที่โด่งดังในปี 2023 / ภาพ: Promonews

     ผลงานอัลบั้มล่าสุดของมิตสกีมีเพลงชูโรงอย่าง ‘My Love Mine All Mine’ โด่งดังสุดขีดในหลากหลายแง่มุม เธอสามารถทำให้เพลงนี้กลายเป็นที่นิยมทั้งบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เพลงแทร็กที่ 7 ในอัลบั้ม ‘The Land Is Inhospitable and So Are We’ คือปรากฏการณ์ทางดนตรีย่อมๆ ที่ทุกคนต้องเคยสัมผัส ด้วยเนื้อหาที่เจาะลึกถึงความรักและความรู้สึกอันสลับซับซ้อน ประกอบกับดนตรีชวนสะกดหู และทุกองค์ประกอบทำให้เพลงนี้โด่งดัง ช่วงปลายปี 2023 เพลงนี้ถูกนำมาประกอบวิดีโอบนโซเชียลมีเดียนับแสนครั้ง มียอดเข้าชมจำนวนหลายล้านอีกด้วย นับเป็นความสำเร็จที่ต่อยอดมาด้วยความพยายามและจุดมุ่งหมายในการเป็นศิลปินที่ชัดเจนนานกว่าทศวรรษ จับตาดูมิตสกีกันต่อได้เลยเพราะเธอคือเพชรเม็ดงามแห่งวงการดนตรีที่ตอนนี้คนทั่วโลกรู้จักมักคุ้นกันดีขึ้นแล้วจริงๆ