LIFESTYLE

‘Doctor Slump’ ซีรี่ส์น่าดูที่สะท้อนภาพให้เราเห็นว่าการมีแผลทางใจไม่จำเป็นต้องทำร้ายผู้อื่น

ซีรี่ส์เรื่องนี้ไม่เพียงเป็นซีรี่ส์หมอที่ชวนให้เราได้ตื่นเต้นกับการผ่าตัดเท่านั้น แต่ยังเป็นซีรี่ส์อีกหนึ่งเรื่องที่ตีแผ่ถึงสภาวะความกดดันในอุตสาหกรรมนี้

     ซีรี่ส์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของแพทย์ในโรงพยาบาลเป็นอีกหนึ่งหมวดหมู่ที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยความแปลกใหม่ของบทละครที่ทำให้คนดูรู้สึกลุ้นและตื่นเต้นไปตามๆ กัน หรือจะเป็นการเล่าเรื่องผ่านฉากที่เต็มไปด้วยความกดดันในห้องผ่าตัด ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุผลที่ทำให้ซีรี่ส์สไตล์นี้ได้รับความนิยมสูงมากขึ้น เช่นเดียวกับในครั้งนี้ที่เราจะพาแฟนๆ และคอซีรี่ส์ไปทำความรู้จักกับซีรี่ส์เรื่อง “Doctor Slump” ซีรี่ส์หมอน้ำดีที่ไม่ได้มีเพียงฉากตื่นเต้นในห้องผ่าตัดหรือเรื่องอินเลิฟสุดโรแมนติกเท่านั้น ทว่าซีรี่ส์เรื่องนี้ยังพาเราไปสัมผัสกับความกดดันของวงการแพทย์ และชวนให้เราได้เรียนรู้ เข้าใจตัวละครที่มีไดนามิกที่หลากหลาย เรื่องในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ตามอ่านไปพร้อมกัน

 

 

     Doctor Slump เป็นซีรี่ส์ที่ออกอากาศผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Netflix มีจำนวนตอนทั้งสิ้น 16 ตอน เนื้อเรื่องในซีรี่ส์เป็นเรื่องราวของสองตัวเองผู้เติบโตและพุ่งทะยานจากนักเรียนแถวหน้าของโรงเรียนสู่การเป็นแพทย์ดาวรุ่ง โดยได้ 2 นักแสดงอย่าง “พัก-ฮยองชิก (Park-Hyung Sik)” มารับบท “ยอจองอู” แพทย์ศัลยกรรมแถวหน้าของวงการ เป็นแพทย์ที่มีความเก่งกาจและหาตัวจับได้ยาก และ “พัก ชิน-ฮเย (Park-Shin Hye)” มารับบทเป็น “นัมฮานึล” แพทย์หญิงผู้ที่แบกความคาดหวังของครอบครัว พร้อมความฝันของการเป็นอาจารย์แพทย์ผู้ประสบความสำเร็จ โดยเนื้อเรื่องทั้งหมดได้เริ่มเล่าตั้งแต่ทั้ง 2 นักแสดงเป็นนักเรียนวัยเยาว์ที่ต่างเดินบนเส้นทางแห่งการแข่งขันเพื่อเป็นอันดับหนึ่ง จนทั้งคู่ได้เริ่มหันมาเป็นคู่กัดที่ต่างฝ่ายต่างพยายามอย่างไม่ย่อท้อ แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ลำบากแต่ซีรี่ส์เรื่องนี้ก็ยังทำให้เราได้เห็นถึงความสวยงามของมิตรภาพระหว่างนักเรียนทั้งสองคนบนเส้นทางแห่งการขบเขี้ยวตลอด 3 ปี ของชีวิตมัธยมปลาย

 

 

     หลังจากการแยกย้ายและเติบโตในฐานะนักศึกษาแพทย์ ทั้งยอจองอูและนัมฮานึลก็ได้เติบโตในสายงานที่ตนได้วาดฝันไว้ โดยยอจองอู เขาได้กลายมาเป็นแพทย์ศัลยกรรมเจ้าของคลินิกหลายสาขา รวมถึงยังเป็นไอดอลในวงการแพทย์ที่มีแฟนๆ ติดตามบนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างล้นหลาม และในส่วนของนัมฮานึล เธอก็ได้กลายมาเป็นวิสัญญีแพทย์ที่มีความฝันคือการก้าวขึ้นอาจารย์แพทย์ และถึงแม้ว่าเรื่องราวจะดำเนินมาอย่างเรียบง่าย แต่แล้วจุดพลิกผันของทั้งสองตัวละครก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว…

     เส้นทางที่กำลังพุ่งทะยานของแพทย์ศัลยกรรมกลับดิ่งลงเหวเมื่อเกิดข้อผิดพลาดในการผ่าตัดจนทำให้สิ่งที่เขาสร้างมือเริ่มสลายไปกับมือ ทั้งชื่อเสียง เงินทอง และฐานะทางสังคมกลับกลายมาเป็นผู้ต้องสงสัยที่รอวันตัดสินคดีจากศาลอย่างใจจดใจจ่อ และเช่นเดียวกัน วิสัญญีแพทย์อย่างนัมฮานึลก็เกิดสภาวะซึมเศร้าจากความกดดันและการโดนเอารัดเอาเปรียบจากผู้บังคับบัญชา รวมไปถึงการแอบอ้างงานวิจัยจนทำให้เธอต้องตัดสินใจลาออกเพื่อกลับไปรักษาสุขภาพจิตของตน

 



WATCH




 

     แน่นอนว่าเมื่อเป็นบทละครการจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งคงเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นตามแพตเทิร์นที่เราได้ดูกันบ่อยครั้ง แต่เรื่องระหว่างทางที่ดำเนินหลังจากจุดพลิกผันของทั้งคู่นั้น กลับสอดแทรกประเด็นด้านสุขภาพจิตไว้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะในพาร์ตของผู้ป่วยซึมเศร้า ซีรี่ส์เรื่องนี้ก็สามารถทำออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการพบจิตแพทย์เพื่อทำจิตบำบัด การแสดงออกของคนรอบข้างและคนในครอบครัว ตลอดจนวิธีการที่แต่ละคาแร็กเตอร์พยายามสื่อสารให้เราได้เห็นว่าผู้ป่วยซึมเศร้าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวยังมีหลายๆ คนที่พร้อมสู้เพื่อให้การรักษาออกมาดีที่สุด

     ในส่วนของยอจองอูก็มีมุมเดียวกันนี้ หากแต่เป็นอีกแง่มุมของการเกิดบาดแผลทางใจจนทำให้เขาเกิดภาวะ Post-Traumatic Stress Disorder (PTSD) ซึ่งมักเป็นสภาวะที่เกิดกับหลายๆ คน หลังจากผ่านเหตุการณ์อันเลวร้าย ซึ่งสิ่งที่ซีรี่ส์เรื่องนี้ได้นำเสนอให้เราได้เห็นคือการหยิบยกเอา 2 ตัวละครที่เป็นผู้ป่วยทางจิตมาร่วมรักษาบาดแผลทางใจไปด้วยกัน ผ่านการทำความเข้าใจอีกฝ่ายตลอดจนการให้กำลังใจและร่วมกันเดินก้าวข้ามความเจ็บปวดในอดีตไปพร้อมกัน ซึ่งประเด็นเหล่านี้ทำให้ผู้ชมได้เรียนรู้ว่าถึงแม้การที่เรามีบาดแผลทางใจเราอาจไม่จำเป็นต้องทำร้ายความรู้สึกคนรอบข้าง และในขณะเดียวกันการยอมรับความจริงเพื่อเรียนรู้ที่จะอยู่กับสภาวะดังกล่าวก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ก้าวข้ามบาดแผลทางความรู้สึกได้เช่นกัน นับได้ว่าซีรี่ส์เรื่องนี้ไม่เพียงเป็นซีรี่ส์หมอที่ชวนให้เราได้ตื่นเต้นกับการผ่าตัดเท่านั้น แต่ยังเป็นซีรี่ส์อีกหนึ่งเรื่องที่ตีแผ่ถึงสภาวะความกดดันในอุตสาหกรรมนี้ ตลอดจนการสร้างเข้าใจเกี่ยวกับผู้ป่วยทางจิตผ่านทั้ง 2 ตัวละครเอกอีกด้วย สามารถติดตามซีรี่ส์เรื่องนี้ได้แล้วที่ Netflix

 

ภาพ : IMDb
เรื่อง : Worramate Khamngeon
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim

WATCH

คีย์เวิร์ด: #DoctorSlump