LIFESTYLE

เปิด 5 ภาพยนตร์คลาสสิกแห่งยุคที่ดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ

เข้าใกล้ช่วงเทศกาลส่งท้ายปี จะมีภาพยนตร์เรื่องใดไว้รับชมช่วงวันหยุดบ้าง ตามมาดูได้ที่นี่

     กว่าจะได้มาซึ่งภาพยนตร์สักเรื่องที่ครองใจคนดูจนขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์สุดคลาสสิก ที่ไม่ว่าจะเปิดดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อนั้นจำเป็นต้องอาศัยหลายๆ ปัจจัย ทั้งในเรื่องของเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ ประเด็นของเนื้อเรื่อง จุดไคลแม็กซ์ ตลอดจนทักษะการแสดงที่ถึงพริกถึงขิงของเหล่านักแสดง ครั้งนี้โว้กจึงขออาสาพาแฟนๆ ไปส่อง 5 ภาพยนตร์สุดคลาสสิกแห่งยุค ที่ไม่ว่าจะรับชมกี่ครั้งก็ยังประทับใจเสมอ

 

 

1. Titanic (1997)

     ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เราต้องพูดถึงคือ “Titanic” เรื่องราวความรักที่เป็นตำนานของแจ็คกับโรส คู่รักต่างชนชั้นที่เกิดขึ้นบนเรือโดยสารขนาดใหญ่ ความรักของทั้งคู่เปรียบเสมือนสิ่งต้องห้าม เนื่องด้วยฐานันดรที่ไม่เท่าเทียมกัน ถึงแม้เรื่องราวความรักของแจ็คและโรสจะเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ทั้งคู่ต่างก็พยายามที่จะก้าวข้ามเส้นแบ่งนั้นไปด้วยกัน แต่แล้วเรื่องราวอันน่าเศร้าได้เกิดขึ้นเมื่อเรือไททานิกเกิดชนกับภูเขาน้ำแข็งจนเสียหาย ซึ่งกลายมาเป็นเรื่องราวโศกนาฏกรรมในท้ายที่สุด ในห้วงเวลาสุดท้ายของทั้งคู่แจ็คได้ช่วยเหลือให้โรสได้มีชีวิตรอดต่อไปก่อนที่เขาจะจากไปตลอดกาล

 

 

2. P.S. I Love You (2007)

     ต่อกันที่ภาพยนตร์คลาสสิกเรื่องที่ 2 กับ “P.S. I Love You” เรื่องราวของ “ฮอลลี่ เคเนดี้” หญิงสาวมากความสามารถผู้ได้แต่งงานกับ “เจอร์รี่” หนุ่มไอริชผู้อ่อนหวาน นุ่มนวล ความรักของทั้งดูเหมือนกำลังจะไปได้ดี ทว่าการจากลาก็มาถึงเมื่อโรคมะเร็งได้พรากสามีอันเป็นที่รักของเธอไป จนทำให้ฮอลลี่ต้องตกอยู่ในภวังแห่งความเศร้า แต่ก่อนที่สามีของเธอจะจากไป เขาก็ได้เขียนจดหมายทิ้งไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นจดหมายที่ไม่เพียงจะช่วยให้เธอผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายนี้ไปได้ แต่ยังเป็นจดหมายที่เป็นเหมือนกุญแจสู่เส้นทางที่ทำให้เธอได้ค้นพบตัวเอง

 



WATCH




 

3. The Boy in the Striped Pajamas (2008)

     เรื่องราวของสงครามและเด็กยังเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ชวนให้รู้สึกอึดอัดใจเสมอ กับภาพยนตร์เรื่อง “The Boy in the Striped Pajamas” เรื่องราวของเด็กชายวัย 12 ขวบอย่าง “บรูโน่” ที่จำเป็นต้องลาจากเพื่อนสนิท โรงเรียนและบ้านหลังเก่า เพื่อติดตามพ่อของเขาซึ่งเป็นทหารในช่วงสงครามไปอยู่อีกที่ ชีวิตของบรูโน่เริ่มต้นขึ้นใหม่อย่างเงียบเหงา ทว่าวันหนึ่งเขาก็ค้นพบว่านอกรั้วหนามของบ้านตัวเองนั้นยังมีผู้คนมากมาย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ถูกควบคุมโดยทหารอยู่ และในท้ายที่สุดเขาก็ได้พบกับเพื่อนใหม่ ซึ่งเป็นเด็กชายในชุดนอนลายทาง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังคงเติบโตมากขึ้นแม้จะมีรั้วหนามมากั้นไว้ จนวันหนึ่งบรูโน่ก็ได้บอกกับเพื่อนของเขาว่าต้องย้ายกลับไป ในขณะที่เพื่อนของเขาอย่างชมูเอลก็กำลังโศกเศร้าจากการที่พ่อได้หายตัวไป บรูโน่จึงได้ตัดสินใจที่จะก้าวข้ามลวดหนามเพื่อไปช่วยชมูเอลตามหาพ่อ แต่แล้วหนังก็จบลงด้วยภาพความโหดร้ายของสงครามในห้องมืดที่แทบจะไม่มีอากาศหายใจ และเรื่องราวของเด็กทั้งคู่ก็จบลงตรงนั้น

 

 

4. Forrest Gump (1994)

     ถัดมากับภาพยนตร์เรื่อง “Forrest Gump” เรื่องราวของ “ฟอร์เรสต์ กัมพ์” ชายผู้มีความบกพร่องทางสติปัญญา แต่เขากลับเป็นคนที่เปี่ยมไปด้วยจิตใจอันดีงามและมักมองโลกในแง่บวกเสมอ เขาเติบโตมาเรื่อยๆ จนเมื่อวันหนึ่งสงครามเวียดนามได้ปะทุความรุนแรงขึ้น ทำให้เขาต้องเข้าไปร่วมรบในครั้งนี้ เคียงคู่กับเหล่าคนสำคัญทางประวัติศาสตร์อเมริกัน ด้วยจิตใจอันดีของเขา เขายังคอยช่วยเหลือเพื่อนร่วมรบเสมอทำให้หลังสงครามกัมพ์ได้กลายมาเป็นวีรบุรุษแห่งสนามรบ และเป็นผู้ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ผ่านการเรียนรู้ของตัวเองอีกด้วย

 

 

5. Call Me By Your Name (2017)

     ปิดท้ายด้วยภาพยนตร์เรื่อง “Call Me By Your Name” เรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่าง “เอลิโอ” เด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตอย่างเรื่อยเปื่อยไปวันๆ และ “โอลิเวียร์” ผู้ช่วยทำการวิจัยของพ่อเอลิโอ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่เกิดขึ้นมาท่ามกลางความรู้สึกที่หลากหลายและสับสน ตลอดจนการก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่างเพศไปศึกษาพื้นที่แห่งห้วงอารมณ์ที่ไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อน ถึงแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์ที่มีความโรแมนติก แต่ก็ยังเต็มไปด้วยฉากและอารมณ์ที่ชวนให้เราต้องหลั่งน้ำตาไปตามๆ กัน

 

ภาพ : IMDb
เรื่อง : Worramate Khamngeon
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim

WATCH

คีย์เวิร์ด: #ClassicMovie