หากจะมีนักแสดงคนใดอยู่คู่กับผู้กำกับสักคนในแวดวงฮอลลีวู้ดคงไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าไม่นับภาพยนตร์ภาคต่อน้อยครั้งที่เหล่าผู้กำกับฝีมือดีจะคัดเลือกนักแสดงหน้าเดิมเข้ามาในทีมถ่ายทอดเนื้อหาต่อหน้าผู้ชมจอเงิน เพราะรูปแบบการนำเสนอเนื้อหาของภาพยนตร์แต่ละเรื่องต้องอาศัยองค์ประกอบหลักของนักแสดงที่แตกต่างกันอย่างมาก ทั้งคอนเซปต์ คาแร็กเตอร์ เนื้อเรื่อง และอื่นๆ อีกมากมาย ทว่าสำหรับ Christopher Nolan อาจจะไม่ใช่เสมอไป เพราะนักแสดงอย่าง Cillian Murphy ได้รับบทสมทบในภาพยนตร์ของเขามากถึง 5 เรื่อง จนกระทั่งเรื่องที่ 6 ที่มารับบทนำในภาพยนตร์แห่งปีที่คนรอคอยมากที่สุด

Cillian Murphy กับบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง Batman Begins / ภาพ: Boing Boing

     จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของผู้กำกับและนักแสดงคู่นี้คือคิลเลียนมาคัดเลือกบทนำในเรื่อง Batman Begins ดูเหมือนว่าคริสโตเฟอร์คิดว่าเขาไม่เหมาะกับตัวละครหลักเท่าไหร่นัก ทว่าเขากลับตราตรึงกับคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจน เขาต้องการให้นักแสดงชาวไอริชมาร่วมงานด้วย แม้จะไม่ใช่บทอัศวินรัตติกาลโดยตรงก็ตาม ครั้งแรกคิลเลียนรับบทสมทบเป็น Dr.Jonathan Crane หรือ Scarecrow ในภาพยนตร์เรื่องแรกกับคริสโตเฟอร์ ก่อนที่หลังจากนั้นจะรับบทสมทบอีกถึง 4 เรื่อง ได้แก่ Batman ภาคต่ออีก 2 ภาค รวมถึง Inception และ Dunkirk สุดยอดภาพยนตร์ระดับขึ้นหิ้งด้วย

ภาพแรกของ Cillian Murphy ในภาพยนตร์เรื่อง Oppenheimer / ภาพ: The Hollywood Reporter

     ความรู้สึกประทับใจในตัวคิลเลียนยังคงหนักแน่นเหมือนดั่งครั้งแรก ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ร่วมงานกันมาผู้กำกับเล็งเห็นคาแร็กเตอร์ที่ลึกซึ้ง ประกอบกับลักษณะท่าทางของเขาที่น่าประทับใจเสมอ จนถึง Oppenheimer ภาพยนตร์เนื้อหาหนักหน่วงเกี่ยวกับ J.Robert Oppenheimer ผู้สรรสร้างอาวุธพิฆาตมวลมนุษย์จากยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้คริสโตเฟอร์จะไม่ได้นึกถึงคิลเลียนเลยในขณะเขียนบท แต่เมื่อเขียนบทเสร็จสิ้นเขาก็ทราบทันทีว่าคิลเลียนคือนักแสดงผู้พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่เหมาะสมที่สุด

การรับบท J.Robert Oppenheimer ของ Cillian Murphy / ภาพ: Digital Spy

     ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นตรงนี้ถึงเวลาสุกงอมเสียที เนื้อหาอันเหมาะเจาะเท่ากับเวลาแห่งความสำเร็จขั้นสูงสุดของคิลเลียน คริสโตเฟอร์ผลักดันนักแสดงที่เขาชื่นชอบจนถึงขีดสุด ทำลายกำแพงข้อจำกัดทั้งหมดจนสามารถผลักดันให้นักแสดงมาดเท่คนนี้พัฒนาตัวเองเพิ่มขึ้นอีกระดับ ไม่ใช่ว่าเขาชื่นชอบแล้วจะปล่อยผ่านรายละเอียดไป คริสโตเฟอร์ยังคงใส่ใจกับทุกสิ่งทุกอย่างของภาพยนตร์ และแน่นอนว่าหมายถึงการแสดงและพัฒนาตัวละครในเรื่องของคิลเลียนด้วย จังหวะเวลาที่เหมาะสมกำลังจะสร้างบทสรุปความสัมพันธ์ที่พัฒนาและเฝ้ารอเวลามานานเกือบ 2 ทศวรรษสำหรับทั้งคู่