Vogue Thailand

LIFESTYLE

CARTIER × CRYBABY โปรเจกต์ใหม่จาก Cartier ร่วมกับศิลปินไทย 'มด-นิสา' ผู้สร้าง 'Crybaby'

เปิดบทสัมภาษณ์ศิลปิน 'มด-นิสา' หรือ 'มอลลี่' ในโปรเจกต์รังสรรค์สติกเกอร์ LINE สุดเอ็กซ์คลูซีฟร่วมกับ Cartier

โดย Amanda Ampornmaha
25 สิงหาคม 2568

เรื่องและเรียบเรียง: ฐาดิณี รัชชระเสวี, อมันดา อัมพรมหา 

     Cartier เตรียมเปิดตัวสติกเกอร์ LINE สุดเอ็กซ์คลูซีฟ CARTIER × CryBaby เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองการเปิดบูติกแฟล็กชิปสโตร์แห่งใหม่ ณ สยามพารากอน ถ่ายทอดเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของเมซงผ่านมุมมองสร้างสรรค์ของศิลปินชาวไทยชื่อดัง 'มด-นิสา ศรีคำดี' หรือที่รู้จักกันในนาม 'มอลลี่' ศิลปินผู้สร้างสรรค์จักรวาล 'CryBaby' ที่ครองใจแฟนๆ ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกผ่านตัวละครที่ถ่ายทอดอารมณ์เปี่ยมความหมายในสไตล์อันแสนสนุก ครั้งนี้เธอนำเอาแรงบันดาลใจจากเอกลักษณ์แห่งดีไซน์เหนือกาลเวลาของ Cartier มาถ่ายทอดเป็นคาแร็กเตอร์คู่หูแสนสดใส 'BelieverBoy' และ 'HopefulBaby' ซึ่งสื่อถึงความสุข ความหวัง และพลังจากภายใน สะท้อนจิตวิญญาณของ Cartier ที่ผสานอารมณ์และบุคลิกในทุกชิ้นงานอย่างลงตัว

 

 

     สติกเกอร์ LINE ทั้ง 8 แบบ มาพร้อมดีไซน์สนุกสนานและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ เพื่อสร้างรอยยิ้มและความอบอุ่นให้กับทุกบทสนทนา โดยมีรายละเอียดพิเศษ อย่าง 'BelieverBoy' ที่สวมใส่ชุด Cartier Groom มายืนต้อนรับทุกท่านหน้าบูติกสยามพารากอน และ 'HopefulBaby' ที่สวมกำไลข้อมือ LOVE อันเป็นเครื่องประดับไอคอนิกของแบรนด์ การร่วมงานครั้งนี้เชื้อเชิญให้ผู้ติดตาม LINE Official ได้สัมผัสโลกแห่งจินตนาการของ Cartier ได้ในทุกๆ วัน อีกทั้งโว้กประเทศไทยยังได้มีโอกาสสัมภาษณ์ศิลปินเจ้าของผลงานนี้ ถึงที่มาและแรงบันดาลใจเบื้องหลังของความน่ารักของผลงานของเธอ ที่ยังคงเสน่ห์ของความหรูหราในแบบฉบับของ Cartier เอาไว้อย่างสร้างสรรค์

 

 

Article

Vogue: ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อจาก Cartier ว่าอยากให้มอลลี่มาร่วมรังสรรค์โปรเจกต์นี้ มอลลี่รู้สึกอย่างไรบ้าง และอะไรคือสิ่งที่ทําให้ตัดสินใจร่วมงานในครั้งนี้?

Molly: รู้สึกตื่นเต้นและดีใจ กับการที่ 'Crybaby' ได้รับการยอมรับในระดับสากล

 

V: แรงบันดาลใจเบื้องหลังผลงานสติกเกอร์ชุดนี้คืออะไร? และมอลลี่ตีความจากโจทย์ที่ Cartier มอบให้ ออกมาให้รูปแบบของตัวเองได้อย่างไร?

M: Tears of Joy น้ำตาแห่งความสุข การร้องไห้ ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องเศร้าเสมอไป แต่น้ำตายังเป็นตัวแทนของความรู้สึกปิติ ยินดี ที่ท่วมท้นจากข้างในได้เช่นกัน

 

V: สําหรับการร่วมงานกับแบรนด์เครื่องประดับระดับโลก แตกต่างจากการทํางานทั่วไปของมอลลี่หรือไม่

M: การทุ่มเทและความตั้งใจที่มีต่อการทำงานนั้นไม่แตกต่าง แต่การได้ทำงานกับแบรนด์ดังอย่าง Cartier ช่วยส่งต่อข้อความและความหมายอันลึกซึ้งที่ 'Crybaby' ต้องการสื่อไปได้ไกลยิ่งขึ้น

 

V: ในฐานะที่มอลลี่เป็นศิลปินไทยที่ได้ร่วมโปรเจกต์ระดับโลก อยากฝากอะไรถึงศิลปินรุ่นใหม่ที่กําลังเดินทางตามความฝันหรือมีอะไรแนะนําน้องๆ?

M: สิ่งสำคัญคือเราเริ่มต้นจากความรักในสิ่งที่เราทำ เชื่อในความฝันของเราเอง แม้ว่ามันจะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยขนาดไหน แต่มันอาจพาคุณไปสู่จุดที่ยิ่งใหญ่ได้ในสักวันหนึ่ง

 

V: หากลองมองย้อนกลับไปในเส้นทางของมอลลี่ในตอนแรกๆ เลยที่ล้มบ้าง คลานบ้าง จนมาถึงวันนี้ที่แบรนด์ 'Crybaby' แข็งแรงและโด่งดังไปทั่วโลก จากวันนั้นถึงวันนี้มีบทเรียนไหนที่ผ่านมันไปได้อย่างยากลําบากและอยากจะแชร์ประสบการณ์

M: สำหรับเราแล้วไม่มีบทเรียนไหนที่ผ่านไปได้โดยง่าย ทุกอุปสรรคที่ผ่านเข้ามามีความหนักหนาในแบบที่ต่างกัน สิ่งสำคัญที่เราได้เรียนรู้คือความรักและเชื่อมั่นในความฝัน จะเป็นแรงขับเคลื่อนเราให้เดินหน้าต่อไป

 

V: ถ้าให้เลือก ‘คําหนึ่งคํา’ แทนความรู้สึกของมอลลี่ต่อการร่วมงานกับ Cartier คุณมอลลี่จะเลือกคําว่าอะไร? และเพราะอะไร?

M: คำว่า 'Cry' เพราะน้ำตา พาเรามาเจอกัน

 

V: ฝากผลงานและข้อความถึงน้องๆ ที่เห็นเราเป็นไอดอล

M: ขอฝากสติกเกอร์ไลน์ คอลเล็กชั่นพิเศษ CARTIER × CryBaby หวังว่าจะชื่นชอบและโหลดมาใช้กันเยอะๆ ให้โปรเจกต์นี้ส่งต่อความสุขให้คนรอบข้าง

 

(สามารถอ่านเรื่อง VOGUE CULTURE | เปิดบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ Kasing Lung ศิลปินผู้สร้าง 'Labubu' อาร์ตทอยชื่อดัง ได้ที่นี่)

รูปภาพ และ ข้อมูล : Courtesy of Cartier