กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลกโซเชียลมีเดีย เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา สำหรับการปรากฏตัวของ 4 สาววง BLACKPINK ณ พระราชวังบักกิ้งแฮม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อร่วมงานเลี้ยงรับรองประธานาธิบดีของประเทศเกาหลีใต้ Yoon Suk Yeol และสตรีหมายเลขหนึ่งอย่าง Kim Keon Hee ที่เดินทางมาเข้าร่วมงาน The Korean State Banquet ในโอกาสครบรอบ 140 ปีของการสถาปนาความสำคัญทางการทูตระหว่างประเทศเกาหลีใต้ และประเทศอังกฤษ 

     หนึ่งในไฮไลต์สำคัญในงานดังกล่าวคงหนีไม่พ้น พระราชดำรัสของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักรที่ทรงมีพระราชดำรัสชื่นชมสมาชิกวง BLACKPINK ว่า "ข้าพเจ้าต้องขอชื่นชม เจนนี่ จีซู ลิซ่า และโรเซ่ สมาชิกวง BLACKPINK สำหรับบทบาทของพวกเธอ ในการเป็นกระบอกเสียงในประเด็นเรื่องความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อทำให้คนทั่วโลกได้รับรู้ถึงปัญหานี้ในฐานะทูตของ COP26 และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ" อีกทั้งพระเจ้าชาร์ลส์ยังได้ทรงชื่นชมทั้ง 4 สาวอีกว่า พระองค์รู้สึกยินดีที่ทั้ง 4 สาวลุกขึ้นมาเป็นกระบอกเสียงในเรื่องดังกล่าว ในตอนที่ทั้ง 4 สาวยังเป็นป็อปสตาร์ระดับโลก ซึ่งนั่นหมายถึงความดังของเสียงขับเคลื่อนและกระแสนิยมของพวกเธอที่จะช่วยกระจายข่าวและประเด็นนี้ได้อย่างกว้างขวาง

     ย้อนกลับไปในปี 1997 หรือเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน เกิร์ลกรุ๊ปสัญชาติอังกฤษอย่าง Spice Girls ซึ่งประกอบไปด้วย Melanie Chisholm, Geri Halliwell, Emma Bunton, Melanie Brown และ Victoria Adams ได้เคยเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบ 21 ปีขององค์กรการกุศล The Prince's Trust ที่โรงละครโอเปร่าเฮาส์ แห่งแมนเชสเตอร์ และถ่ายรูปร่วมกับเจ้าชายชาร์ลส์ (ในเวลานั้น) หลังการแสดงของพวกเธอ จนกลายเป็นไวรัล ซึ่งนั่นคือครั้งแรกที่เราได้เห็นเกิร์ลกรุ๊ประดับโลกได้รับการต้อนรับจากสมาชิกราชวงศ์อย่างเป็นกันเองอย่างชัดเจน และยังสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์เกี่ยวโยงระหว่าง Royal Family และ Pop-Culture เป็นครั้งแรกๆ บนหน้าประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษ

     หากมองในระนาบของผลประโยชน์เกี่ยวกับกระแสความนิยมทั้งบนโซเชียลมีเดียและชีวิตจริง การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์อังกฤษและเกิร์ลกรุ๊ประดับโลก ทั้ง Spice Girls ในยุคก่อน และ BLACKPINK ในยุคนี้ คือหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการ 'เอาตัวรอด' ของราชวงศ์อังกฤษยุคใหม่ ไม่ต่างจากการที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้ล่วงลับ ยอมลดตัวลงมาเป็นตัวละครในหนังสั้น OO7 เมื่อครั้งพิธีเปิดโอลิมปิกปี 2012 ซึ่งอังกฤษเป็นเจ้าภาพ กล่าวคือ ราชวงศ์อังกฤษต้องการพูดภาษาเดียวกับผู้คนทั่วโลก ต้องการอยู่ในวงสนทนาเดียวกันกับโลกใบนี้อย่างไม่ปิดกั้น และพร้อมโอบรับเรื่องราวในชีวิตประจำวันของผู้คนนอกรั้ววังทั่วโลกเสมอ