LIFESTYLE

Aesthetic Sport กีฬาแห่งความสวยงามที่ต้องแลกมาด้วยความทรหดของนักกีฬาอย่างถึงที่สุด

นักกีฬาทั่วโลกต่างยอมแลกช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตให้กับฝึกซ้อมมากที่สุด เพื่อเป้าหมายในการพิชิตเวทีโอลิมปิก

     ความพลิ้วไหวสวยงามเป็นส่วนหนึ่งของการเสพศิลปะและมีเกณฑ์ตัดสินกันมาตั้งแต่อดีต การเต้น การขยับเขยื้อนร่างกายเพื่อแสดงทวงท่านั้นถือเป็นต้นแบบของทั้งด้านกีฬาและความบันเทิง และแน่นอนว่าโอลิมปิกคือเวทีอันยิ่งใหญ่ที่ผลักดันเหล่านักกีฬาผู้นำเสนอความงดงามเหล่านี้ได้แสดงทักษะอันยอดเยี่ยมเพื่อพิชิตจุดสูงสุด นั่นก็คือเหรียญทองโอลิมปิก แต่ความอ่อนช้อยงดงามดังกล่าวนั้นเก็บซ่อนความทรหดไว้เบื้องหลังไว้ไม่น้อย โว้กจะพาไปเจาะลึกว่าความสวยงามนี้เต็มไปด้วยความอดทนมากเพียงใด

รอยยิ้มของ Li Shijia นักกีฬายิมนาสติกตัวน้อยชาวจีนที่นำเสนอต่อหน้ากรรมการเพื่อเรียกคะแนน / ภาพ: CFP

     ในช่วงเวลาที่คนกำลังชื่นชมความแข็งแรงและอ่อนตัวในเวลาเดียวกันของนักยิมนาสติกจากทั่วมุมโลก กรรมการกำลังพินิจพิจารณาถึงความยากง่ายของท่วงท่าเพื่อให้คะแนน นักกีฬาเหมือนกำลังทุ่มสุดตัวเพื่อนำเสนอความงดงามดังกล่าว แน่นอนว่ายิมนาสติกหรือกายกรรมมีพื้นฐานเดียวกับการแสดง เพราะฉะนั้นภายใต้ความน่าสนใจเหล่านั้นมันกลับซ่อนความมานะอุตสาหะขั้นสุดของตัวนักกีฬาไว้โดยที่จบการแข่งขันไป ผู้คนก็อาจไม่นึกถึงจุดนั้นเลย และนี่คือความเจ็บปวดเบื้องต้นของนักกีฬาที่ยอมพลีกายเพื่อนำเสนอทักษะอันเหนือธรรมชาติเพื่อแลกคะแนนและเหรียญรางวัล

Simon Biles นักกีฬายิมนาสติกทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่กำลังฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว / ภาพ: Los Angeles Times

     นักกีฬายิมนาสติกต้องสละชีวิตวัยเด็กแทบทั้งหมดไปกับการฝึกซ้อม อายุเฉลี่ยของผู้เข้าแข่งขันกีฬายิมนาสติกในเวทีโอลิมปิกโดยเฉพาะจากประเทศยักษ์ใหญ่อย่าง สหรัฐอเมริกา จีน และรัสเซีย ถือว่าน้อยมากๆ แต่ละคนพ้นวัย 15 ปีมาไม่มากนัก หรือบางคนอายุน้อยกว่านั้นเสียอีก และถ้ายิ่งย้อนกลับไปในสมัยก่อน ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเห็นว่ามีนักกีฬาอายุ 10-12 ขวบอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์โอลิมปิกด้วย ซึ่งส่วนมากจะแข่งขันกีฬาที่เกี่ยวข้องกับความอ่อนช้อยของร่างกายและนำเสนอท่าทางที่พลิ้วไหวราวกับมนุษย์ไร้กระดูก และส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง เพราะยิมนาสติกที่เน้นความสวยงามของท่วงท่านั้นพุ่งเป้าไปเรื่องความลื่นไหลมากกว่าความแข็งแกร่งของฝั่งผู้ชาย ดังนั้นเด็กผู้หญิงเหล่านี้จึงต้องซ้อมกันเหมือนเครื่องจักรเพื่อเตรียมร่างกายสู้ศึกยิ่งใหญ่ระดับโลก



WATCH




นาทีชีวิตของ Ellie Downie นักกีฬายิมนาสติกจากสหราชอาณาจักรที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขันริโอเกมเมื่อปี 2016 / ภาพ: Damir Sagolj

     เด็กอายุน้อยคู่ควรกับความกดดันระดับนี้แล้วจริงหรือ...คำถามนี้ถูกตั้งมานานแสนนานเกี่ยวกับความเหมาะสมในการผลักดันเด็กอายุน้อยเข้าสู่เวทีการแข่งขันระดับโอลิมปิก พวกเธอต้องแบกรับความกดดันทั้งประเทศไว้บนบ่า ความสวยงามในท่วงท่าทั้งหมดเบื้องหลังคือความทรหดอดทน ความทรมานที่ร่างกายต้องประสบขณะฝึกซ้อม วัยเด็กที่ขาดหายไป ทุกองค์ประกอบต้องถูกเก็บซ่อนไว้ภายใต้การแสดงหลากหลายเครื่องเล่นและรอยยิ้มพิมพ์เสน่ห์ที่เด็กคนหนึ่งต้องแสดงสีหน้าให้กรรมการเห็นตลอดทั้งการแข่งขัน

อีกมุมหนึ่งของความสวยงามที่เต็มไปด้วยเบื้องหลังการฝึกซ้อมของ Wu Minxia / ภาพ: Rediff

     อีกหนึ่งกีฬาที่วัดกันด้วยความสวยงามคือกระโดดน้ำ ทักษะและพละกำลังมากมายถูกหลอมรวมอยู่ในร่างกายของหนุ่มสาววัยรุ่นที่ต้องกระโดดจากความสูง 3-10 เมตรเพื่อนำเสนอท่วงท่าอันสวยงามและลงน้ำอย่างนุ่มนวล พวกเขาเหมือนนักแสดงที่ถูกตัดสินด้วยคะแนนอันมีมาตรฐาน แต่คำว่ามาตรฐานย่อมต้องกำหนดกฎเกณฑ์ไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นการจะผ่านขึ้นไปแต่ละขั้นต้องพัฒนาตัวเองเป็นสิบๆ เท่า เช่นถ้าอยากจะก้าวข้ามกลุ่มคะแนนหนึ่งไปก็ต้องฝึกฝนอย่างหนักเพื่อเพิ่มความสามารถในการเรียกท่าที่มีตัวคูณคะแนนสูงๆ และสามารถทำท่านั้นได้อย่างหมดจดเพื่อได้รับคะแนนจากกรรมการ กีฬานี้จึงเป็นอีกหนึ่งกีฬาสวยงามที่ซ่อนความทรหดของนักกีฬาไว้เบื้องหลัง

ความสวยงามของระบำใต้น้ำอาจทำให้เราดูเพลินจนพลาดสังเกตความหฤโหดในการฝึกซ้อมไว้เบื้องหลัง / ภาพ: Bleacher Report

     กีฬาทางน้ำอีกชนิดที่ผู้คนติดตามทุกมหกรรมกีฬาก็คือระบำใต้น้ำ กีฬาชนิดนี้เบื้องหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนช้อยและพลิ้วไหวราวกับนักกีฬาเป็นส่วนหนึ่งของผืนน้ำอย่างไรอย่างนั้น แต่เบื้องหลังคือการอดทนในการฝึกซ้อมอย่างถึงที่สุด พวกเธอต้องพาตัวเองทะลุขีดจำกัดของมนุษย์เรื่องการกลั้นหายใจ อีกทั้งยังต้องสร้างความพร้อมเพรียงกันเหมือนเป็นคนๆ เดียวกัน นึกภาพในขณะที่ต้องยิ้มพร้อมกับจัดระเบียบทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบนั้นลำบากเพียงใด สุดท้ายพวกเธอก็ยิ้มรับคะแนน คำตัดสิน และแบกรับความหวังไว้ โดยตลอดการแข่งขันนานนับนาทีนักกีฬาระบำใต้น้ำแทบไม่ได้หายใจแม้แต่นิดเดียว

Yuna Kim นักกีฬาสเกตน้ำแข็งเปี่ยมเสน่ห์จากเกาหลีใต้ผู้ที่คนทั่วโลกสงสัยว่าเธอได้รับคำตัดสินไม่เป็นธรรมในโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2014 ที่เมืองโซชิ ประเทศรัสเซีย / ภาพ: AFP

     กีฬาแห่งดราม่าอย่างสเกตช์น้ำแข็งก็ถือเป็นกีฬาแห่งความสวยงามที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน เด็กจากหนุ่มสาวทั่วโลกหลายคนใฝ่ฝันจะได้วาดลวดลายบนผืนน้ำแข็งแห่งโอลิมปิกฤดูหนาว ทว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถสร้างบรรยากาศความบันเทิงไปพร้อมกับใช้ศักยภาพทางร่างกายหนักหน่วงได้ขนาดนั้น รอยยิ้มและการแสดงสีหน้าพร้อมกับท่าทางเหนือชั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งหมดต้องประกอบกันอย่างลงตัว อีกทั้งวงการนี้ยังเต็มไปด้วยเรื่องดราม่ามากมายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การแบกรับความกดดัน ความไม่แน่นอน โดยเฉพาะผลคะแนนกลายเป็นความโหดหินในการฝ่าฝันของเหล่านักกีฬาที่มองเผินๆ ทุกคนจะมองเห็นแต่ความเลอค่าบนน้ำแข็งและชื่นชมฉากหน้าแต่เพียงเท่านั้น

ภาพใต้น้ำของเหล่านักกีฬาระบำใต้น้ำที่ต้องฝึกฝนอย่างหนักเพื่อแสดงความสวยงามให้กรรมการและผู้ชมทั่วโลกได้เห็น / ภาพ: Cosmopolitan

     แท้จริงแล้วบทความนี้ไม่ได้มีขึ้นเพื่อแสดงความโหดร้ายของกีฬาด้านความสวยงาม แต่อยากจะเปรียบเทียบให้เห็นว่ากีฬาแห่งความสวยงามไม่ได้ต่างอะไรกับโลกแฟชั่นที่ฉากหน้าเต็มไปด้วยผลลัพธ์อันน่าประทับใจ แต่เบื้องหลังเต็มไปด้วยความอุตสาหะในการรังสรรค์ผลงาน นักกีฬาก็เช่นกันพวกเขาทุ่มเทอย่างหนักกว่าจะมายืนถึงจุดนี้ กว่าจะมาแสดงให้ผู้ชมเห็นความสามารถในระดับโอลิมปิก เราอยากให้ทุกคนไม่แค่ชื่นชมถึงฉากหน้าที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นหรือความสามารถที่เป็นบทสรุปของพยายามเพียงเท่านั้น เราอยากให้ทุกคนย้อนให้คุณค่าไปถึงการก้าวเดินมาถึงจุดนี้ พวกเขาไม่ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแข็งแกร่งดุจภูขาเหมือนกีฬาใช้ร่างกายหลายประเภท ไม่ได้รวดเร็วลมกรดเหมือน Usain Bolt ไม่ได้เป็นฉลามหนุ่มเหมือน Michael Phelps หรือมีทักษะไวปานวอกเหมือนนักเทเบิลเทนนิสทีมชาติจีน แต่พวกเขาหลอมรวมทุกแง่มุมทั้งทักษะทางการกีฬา จิตใจอันแข็งแกร่ง และที่สำคัญความสวยงามที่ส่งผ่านทวงท่าและสีหน้า ทั้งหมดคือความลงตัวที่ควรได้รับเกียรติไม่แพ้กีฬาชนิดไหนๆ กีฬาเหล่านี้ไม่ใช่ไม้ประดับความงามให้โอลิมปิก ทว่าเป็นเครื่องปรุงชั้นยอดที่ทำให้โอลิมปิกกลมกล่อมครบทุกรสชาติอย่างแท้จริง

WATCH

คีย์เวิร์ด: #Olympic #Tokyo2020