ภาพ: Stephen Kent Johnson
สไตลิสต์: Michael Reynolds
เรื่อง: Mayer Rus
แปลและเรียบเรียง: วิริยา สังขนิยม
นักออกแบบหรือสถาปนิกที่มีฝีมือรายไหนรายนั้นจะบอกว่าลูกค้าที่มีแรงบันดาลใจและมีส่วนร่วมเต็มที่ในการวางรากฐานแนวคิดและสุนทรียะของงานจะช่วยเกื้อกูลการทำงานสร้างสรรค์แบบไม่ซ้ำใครได้อย่างมหาศาล ไม่เชื่อก็ลองถาม Matthew Leverone แห่ง Leverone Design กับสถาปนิก Greg Warner แห่ง Walker Warner ดูก็ได้ เมื่อเร็วๆ นี้คู่คอลแล็บจากซานฟรานซิสโกกลับไปเยือนโครงการที่เคยทำไว้บนเกาะเมาวี หมู่เกาะฮาวาย เพื่อสร้างเรือนรับรองแขกหลังใหม่ให้ลูกค้าผู้เข้าข่ายที่กล่าวมาทุกประการ “เธอมอบเรื่องเล่าที่ชัดเจนและครบถ้วนสมบูรณ์ว่าเธออยากให้สิ่งก่อสร้างใหม่เชื่อมโยงกับบ้านใหญ่อย่างไร แล้วก็ยกตัวอย่างที่ทำให้เห็นภาพมาไว้เป็นเกณฑ์ตรวจสอบหลายอย่างด้วยกัน ทั้งดนตรีบราซิล อเปรอลสปริตซ์ มือสำริดของเกออร์ก บาเซลิตซ์ กางเกงยีนส์ที่เพอร์เฟกต์ แต่ที่เธอห่วงที่สุดเป็นเรื่องของประสบการณ์ว่าบ้านนี้และทุกสิ่งในบ้านสร้างความรู้สึกอย่างไร” แมตทิวพูดถึงลูกค้าให้ผมฟัง ปกติลูกค้ากับสามีอาศัยอยู่ที่แคลิฟอร์เนียเป็นหลัก และใช้บ้านนี้เป็นที่พักผ่อนของครอบครัวซึ่งมีสมาชิกหลายรุ่น

“ฉันนึกถึงดีไซน์ในแง่ของการย้ายถิ่นและการค้นพบ ห้องต่างๆ ต้องมีเสียงพูด มีจุดประสงค์ของตัวเอง จึงจะดึงดูดให้คุณเข้าไป และเกื้อกูลต่อกิจวัตรประจำวันที่เกิดขึ้นภายในห้องด้วย” เจ้าของบ้านกล่าวอย่างคมคาย “มันก็เหมือนกับศิลปะและดนตรี คือต้องพาเราไปสู่ที่ที่ไม่ได้ถูกกำหนดตายตัว แต่ว่าเปิดรับการตีความ การออกแบบไม่ใช่กิจกรรมทางปัญญา แต่เป็นเรื่องทางสัญชาตญาณมากกว่า”
เรือนรับรองหลังใหม่มีความเชื่อมโยงกับบ้านหลังแรกอย่างเห็นได้ชัดในด้านรูปทรง ที่ตั้ง และการจัดการกับแสง แต่เกร็ก วอร์เนอร์บอกว่าเรือนสองหลังนี้ต่างกัน เหมือนของดิบกับของสุก “ดีเอ็นเอเหมือนกันก็จริง แต่บุคลิกลักษณะไม่จำเป็นต้องเหมือนกันเป๊ะ เหมือนพี่กับน้องนั่นแหละ” เกร็กทำงานนี้ร่วมกับอมาเดโอ เบนเน็ตตา Associate Principal และจอห์น ซิดนอร์ หัวหน้าคนงาน “เรือนหลังแรกที่เราออกแบบนั้นเข้มงวดมาก รายละเอียดเยอะ เป็นทางการเต็มที่ ส่วนเรือนรับรองแขกซึ่งไม่ต้องแบกภาระเยอะขนาดนั้นจะลำลองกว่า หยาบกว่านิดหนึ่ง แล้วก็สนุกกว่า” เกร็กยกตัวอย่างกันสาดเหนือทางเดินกลางแจ้งของเรือนสองหลัง ซึ่งของเรือนหลังใหญ่นั้นสร้างอย่างแน่นหนาด้วยบรอนซ์เจาะรู ส่วนกันสาดเหนือทางเดินและชานของเรือนรับรองทำจากกิ่งยูคาลิปตัสผิวหยาบ “เรือนหลังใหม่จะออกไปทางค่ายมากกว่า คือตั้งใจให้เปิดโล่ง หายใจได้” เกร็กบอก
1 / 2
2 / 2
แมตทิว เลเวอโรนีทำงานร่วมกับเจ้าของบ้านมานานเกินสิบปี จึงรู้ว่าเธอชอบของที่ให้สัมผัสดีๆ รูปทรงเหมือนประติมากรรม และงานแฮนด์เมด เขาบอกว่า “เธอชอบเฟอร์นิเจอร์ที่บอกเรื่องราวของคนทำ ของสวยๆ จากวัสดุธรรมชาติ ที่ตั้งใจทำขึ้นมาให้รองรับการใช้ชีวิตของเรา” ของตกแต่งในห้องนั่งเล่นใหญ่ของบ้านมีความหลากหลายทั้งรูปทรงและผิวสัมผัส เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักในพื้นที่นี้คือโต๊ะค็อกเทลไม้เมเปิลปุ่มฟอกสีจาก Rogan Gregory ที่ตั้งอยู่ระหว่างเก้าอี้เลานจ์แชร์ไม้ออลเดอร์จาก Rogan และโซฟาหนังแกะขนาดมหึมา เก้าอี้วินเทจงานช่างสวีเดนหุ้มขนแกะมาเพิ่มความเบาให้ผิวสัมผัสโดยรวม เช่นเดียวกับเก้าอี้สานที่แกว่งได้เหมือนชิงช้าที่ Patricia Urquiola ออกแบบไว้ในโครงการ Objets Nomades ของ Louis Vuitton “นั่นบัลลังก์ประจำตัวแม่ฉันค่ะ” เจ้าของบ้านพูดถึงเก้าอี้ฝีมือปาตริเซีย อูร์กิโอลา “ท่านคือประมุขฝ่ายหญิงของตระกูลเรา ท่านจะนั่งเป็นประธานตรงนั้น"
1 / 3
2 / 3
3 / 3
ของตกแต่งสั่งทำพิเศษมีให้เห็นอยู่ทั่วบ้าน ห้องครัวที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นตกแต่งด้วยไฟแขวนที่นิก เวบบ์ นักออกแบบชาวอังกฤษทำขึ้นจากต้นไม้ที่ล้มเอง ส่วนตู้เสื้อผ้าที่ประตูทำจากไม้โอ๊กและฟางสานเป็นผลงานของแกเรท นีล นักออกแบบชาวอังกฤษอีกคนที่มุ่งทำงานจากวัสดุธรรมชาติและงานแฮนด์เมด แมตทิวยืนยันว่า “ลูกค้าใส่ใจลึกซึ้งทุกรายละเอียด ทุกการตัดสินใจ งานพวกนี้พูดกับเธอและเป็นส่วนหนึ่งของเธอ”
สิ่งหนึ่งที่เหนือความคาดหมายที่สุดในบ้านที่เต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์คือรถบ้านวินเทจยี่ห้อ Airstream ที่จอดอยู่ในสวนลับด้านในสุดของบริเวณบ้านและตกแต่งภายในแบบไม่น่าจะจับมารวมกันได้ ด้วยวัสดุผ้าโมแฮร์ อัลปากา หนังกลับ หนังสัตว์ติดขน และสมบัติสไตล์มิดเซ็นจูรี ผลงานของชาร์ล็อต เปร์ริยองด์, เอฟเวอร์ลิน แอ็กเคอร์แมน และอีกหลายคน สร้างความกุ๊กกิ๊กแหวกแนวให้กับรถบ้าน Airstream ที่รูปลักษณ์ฟ้องว่าผลิตด้วยเครื่องจักร แมตทิวเล่าว่าเวลานัดคุยเรื่องดีไซน์ ลูกค้ามักจะหอบหนังสือ The Jungle Book และ Where the Wild Things Are มาให้ดูเป็นตัวอย่างว่าเธออยากให้บ้านนี้สร้างประสบการณ์ในโทนใด “สวนนี้เป็นเหมือนรางวัลตอบแทนการสำรวจครับ” แมตทิวบอก “มันวางเครื่องหมายวรรคตอนให้บริเวณบ้าน”
ความรู้สึกอัศจรรย์ใจและปีติยินดีเช่นที่ว่าคือสิ่งที่เข้าถึงหัวใจของการสร้างเรือนรับรองแขกหลังนี้ “ฉันชอบความรู้สึกแบบเวลาเด็กเล็กๆ ค้นพบอะไรที่น่าทึ่ง แบบโลกใบจิ๋วที่เราสร้างเอง” เจ้าของบ้านกล่าวปิดท้าย “นั่นแหละมนตร์ขลังของดีไซน์”

VOGUE LIVING | เปิดบ้าน Tory Burch กับการเริ่มบทใหม่ในบ้านแสนสวยที่กรุงปารีส!

VOGUE LIVING | เปิดบ้าน Lenny Kravitz ที่เนรมิตคฤหาสน์ผู้ดีฝรั่งเศสสู่พื้นที่ของร็อกเกอร์

VOGUE LIVING | Both Side Down เปิดทาวน์เฮาส์แฝดในบรุกลิน บ้านประหยัดพลังงานกับสถาปัตกรรมดีไซน์เก๋

Vogue Living | เมื่อบ้านแบบควีนแอนน์ สถาปัตยกรรมวิตอเรียยุค 1890 ถูกเหล่าศิลปินรีโนเวตใหม่!

