fine art
LIFESTYLE

ชวนส่องผลงานศิลป์ ณ Taipei Fine Art Museum กับเรื่องราวที่ว่าด้วยอนาคตของมนุษย์

นิทรรศการนี้ได้นำเอาแนวคิดที่หลายคนได้วาดฝันไว้มานำเสนอผ่านงานประติมากรรมที่สมจริงขั้นสุด

     ภาพฝันในอนาคตที่เหล่ามนุษยชาติได้วาดไว้คงเป็นอะไรที่หนีไม่พ้นเรื่องราวของเทคโนโลยี ความทันสมัย ตลอดจน AI และจักรกลต่างๆ ที่จะเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในชีวิตประจำวัน และถ้าหากภาพฝันเหล่านั้นไม่ได้เป็นเพียงภาพนามธรรม มนุษย์ในอนาคตจะมีลักษณะเช่นไร โดยภาพฝันเหล่านี้ได้ถูกศิลปินมากความสามารถมารังสรรค์จนกลายเป็นงานศิลปะที่จับต้องได้ เเละถูกจัดแสดงไว้ที่ Taipei Fine Art Museum ภายใต้คอนเซปต์ "SUPERNATURAL: Sculptural Visions of the Body" คอนเซปต์ที่ว่าด้วยอนาคตของร่างกายมนุษย์ในยุค Anthropocene ยุคสมัยที่มนุษย์สามารถปรับเปลี่ยนชีวิตในธรรมชาติได้ทั้งหมด

     โดยนิทรรศการนี้ได้นำเอาแนวคิดที่หลายคนได้วาดฝันไว้มานำเสนอผ่านงานประติมากรรมที่สมจริงขั้นสุด และผลงานเหล่านั้นไม่เพียงนำเสนอวิสัยทัศน์ของผลกระทบจากการปฏิวัติดิจิทัลและพันธุวิศวกรรมต่อสิ่งเเวดล้อมเท่านั้น แต่ยังสื่อให้เห็นถึงความสร้างสรรค์แบบผสมผสานที่ขจัดเส้นแบ่งระหว่างธรรมชาติ วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมออกไป

 

1 / 8

     Schauspieler III สามผลงานโดย Isa Genzken รังสรรค์ขึ้นตั้งแต่ปี 2015 ประกอบด้วยหุ่น 9 ตัว ที่ผสมผสานไปด้วยวัสดุเเละสื่ออื่นๆ ทั้งรูปทรงของเสื้อผ้าที่เเตกต่างกัน ประกอบเข้ากับแก็ดเจ็ตหลากหลายรูปแบบถือเป็นการหยิบเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มารวมเข้ากับงานศิลป์สุดสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัว

 



2 / 8

     Savage #7 (Zero g) ผลงานการออกแบบของ Anna Uddenberg รังสรรค์ขึ้นในปี 2017 ผลงานการออกแบบที่นำเอาเรซินมาหลอมรวมเข้ากับวัสดุไฟเบอร์กลาสจนเกิดเป็นร่างกายมนุษย์ที่บิดเบี้ยวแลดูไร้เเรงโน้มถ่วง ประกอบเข้ากับกระเป๋าเดินทาง สะท้อนภาพของผลงานที่ลุ่มลึกทั้งด้านการออกแบบและความหมาย

 



3 / 8

     Graham ผลงานการออกแบบของ Patricia Piccinini รังสรรค์ขึ้นในปี 2016 ผลงานการออกแบบมนุษย์ดัดแปลงที่ต่างไปจากธรรมชาติดั้งเดิม โดยเป็นการนำเอาซิลิโคนมาเป็นวัสดุหลัก ผสมผสานเข้ากับไฟเบอร์กลาส ขนของมนุษย์จริงๆ เเละเสื้อผ้า นำเสนอในท่านั่งบนม้านั่งคอนกรีต สื่อถึงอนาคตของมนุษย์ที่ไร้ซึ่งพรมเเดนทางธรรมชาติ

 



4 / 8

     Doghead ผลงานการออกแบบของ Sam Links รังสรรค์ขึ้นในปี 2008 เป็นอีกหนึ่งผลงานสุดไวรัลและน่าสนใจไม่เเพ้ชิ้นอื่น ด้วยรูปร่างการออกแบบที่เสมือนมนุษย์อย่างไร้ที่ติ มาพร้อมกับหัวสุนัขจิ้งจอกที่ทำออกมาได้อย่างแยบยล ทั้งชิ้นออกเเบบมาด้วยซิลิโคนเป็นหลัก เสริมดีเทลให้สมจริงขึ้นด้วยการนำขนสัตว์เเละขนของมนุษย์จริงๆ มาใช้ในการตกเเต่ง สื่อความหมายถึงโลกในอนาคตที่มนุษย์สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดทางวิทยาศาสตร์ไปแล้ว

 



5 / 8

     Papillons ผลงานการออกแบบโดย Fabien Mérelle ตั้งเเต่ในปี 2013 ผลงานประติมากรรมเสมือนจริงที่ชวนให้เราได้มองเห็นความเชื่อมโยงกันของธรรมชาติเเละมนุษย์ผ่านรูปปั้นคนที่มีผีเสื้อบินมาเกาะ ทั้งชิ้นออกแบบโดยใช้ซิลิโคนและเรซินเป็นหลัก ผสมไปกับผลงานการเพนต์ผีเสื้อเเละผมของมนุษย์ที่ให้รายละเอียดแบบสมจริง

 



6 / 8

     misfit (swan/nutria/donkey) ผลงานการออกแบบโดย Thomas Grünfeld ตั้งเเต่ในปี 2008 การรังสรรค์งานประติมากรรมที่นำเอาสัตว์สามชนิดมาผสมกันเช่น หงส์ (swan), นากหญ้า (nutria) และ ลา (donkey) ผ่านเทคนิคการ Taxidermy หรือการสตัฟฟ์สัตว์ที่ตายไปเเล้วนั่นเอง 

 



7 / 8

     ArchaeaBot: A Post Singularity and Post Climate Change Life-form ผลงานการออกแบบโดย Anna Dumitriu & Alex May ตั้งเเต่ในปี 2018 ผลงานจากการพิมพ์ 3 มิติ นำเสนอหุ่นยนต์ใต้น้ำที่มาพร้อมกับ AI (artificially intelligent) ตามธรรมชาติที่เป็นดั่งโครงข่ายเส้นประสาท ทำงานโดยใช้ PLA, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เเละ Raspberry Pi ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจิ๋ว

 



8 / 8

     Untitled ผลงานการออกแบบโดย Andro Wekua ตั้งเเต่ในปี 2014 ผลงานที่สื่อถึงร่างกายมนุษย์ซึ่งถูกประกอบเข้ากับจักรกลต่างๆ สร้างสรรค์ขึ้นโดยซิลิโคน ขี้ผึ้ง พลาสติกโพลีเมอร์ โฟม พียู เหล็ก แก้ว ผมปลอม เเละอื่นๆ อีกมากมาย อีกหนึ่งชิ้นงานเสมือนจริงที่ชวนให้เรานึกถึงผลกระทบจากการปฏิวัติของโลกดิจิทัลที่เราอาจจะกลายเป็นใครหรืออะไรก็ได้

 



เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim

WATCH

คีย์เวิร์ด: #TaipeiFineArtMuseum