ปี 2023 จะเป็นปีที่แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมอีกหนึ่งเรื่องจากการผลิตโดย Columbia Pictures และ Sony Pictures Animation ร่วมกับ Marvel วางแผนจะเข้าฉาย นั่นคือ Spider-Man: Across The Spider-Verse แอนิเมชั่นภาค 2 ที่เน้นการเล่าเรื่องของซูเปอร์ฮีโร่อย่างสไปเดอร์แมนในหลากหลายมิติเข้าร่วมต่อสู้เผด็จศึกกับวายร้าย ซึ่งแอนิเมชั่นชุดนี้หลายคนยังเดาว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ภาพยนตร์สไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นคนแสดงในภาคสุดท้ายอย่าง Spider-Man: No Way Home มีการรวมเอาสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นก่อนๆ มารวมตัวกันอีกด้วย และสำหรับแอนิเมชั่นภาคแรกอย่าง Spider-Man: Into the Spider-Verse นั้นก็ได้รับรางวัลแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมจากออสการ์ Academy Awards และได้กระแสตอบรับที่ดีมากๆ ขนาด Rotten Tomatoes เองยังให้คะแนนมากถึง 97% 

ภาพ: GQ US

     ย้อนกลับมาที่แอนิเมชั่นในชุดนี้กำลังจะกลับมาอีกครั้ง โดยมีตัวละครหลักอย่าง Miles Morales สไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นเด็กหนุ่มผิวดำคนเดิม พร้อมด้วยเพื่อนสาวอย่าง Gwen Stacy หรือฉายาว่าสไปเดอร์เกว็น รวมไปถึงตัวละครอื่นๆ ที่รับบทเป็นสไปเดอร์แมนแท็กทีมกันกลับมาร่วมมือกันอีกครั้ง และในครั้งนี้การผจญภัยจะไม่ใช่แค่ในมิติที่ตัวละครไมล์สอยู่อีกต่อไปแล้ว มาดูกันว่าหลังจากที่ตัวอย่างปล่อยไปได้ไม่นานนี้ สิ่งที่ “คาด” ว่าจะเกิดขึ้นในแอนิเมชั่นภาคต่อเรื่องนี้จะมีอะไรบ้าง

ภาพ: Collider

     ในภาคแรกของแอนิเมชั่นมีการรวมตัวกันของสไปเดอร์แมนจากหลากหลายมิติ และจากตัวอย่างที่เราได้เห็นกันในภาคนี้สไปเดอร์แมนเวอร์ชั่น 2099 อย่าง Miguel O’Hara เองก็จะมามีส่วนร่วมสำคัญในภาคด้วยเช่นกัน แต่เขาจะมาด้วยดีหรือมีอะไรแอบแฝงหรือไม่เราคงต้องรอติดตามกันต่อไป ซึ่งตัวละครนี้เองได้ Oscar Isaac ผู้ที่รับบทเป็น Moon Knight มาเป็นผู้พากย์เสียงให้

     อ้างอิงจากตัวอย่างภาพยนตร์และชื่อของภาคแล้ว เดาได้เลยว่าครั้งนี้จะมีการเดินทางผจญภัยไปยังมิติอื่นๆ หรืออาจจะกระโดดข้ามไปข้ามมาเลยด้วยซ้ำ เพราะจากภาคที่แล้วเหตุการณ์เกิดขึ้นที่เมือง New York ในมิติของไมล์ส ในภาคนี้ไมล์สจะเป็นฝ่ายเดินทางสู่มิติอื่นๆ บ้าง ซึ่งมีข่าวหลุดออกมาแล้วด้วยว่าจะเป็นเมือง Nueva York ที่เป็นมิติบ้านเกิดของสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่น 2099 

ภาพ: Collider

     ในตอนที่ตัวละครสไปเดอร์แมนเวอร์ชั่นมิเกลโผล่มาให้เห็นเพียงวับๆ แวมๆ นั้น แฟนๆ สังเกตเห็นได้ถึงอุปกรณ์ทันสมัยสุดจ๊าบที่ติดอยู่บนข้อมือของเขาพร้อมด้วยตัวเลข 928 เด่นหราบนหน้าจอ และหากใครที่เป็นแฟนการ์ตูนคอมมิกมาก่อนก็น่าจะจดจำกันได้ดี ว่าหมายเลขนี้เป็นตัวเลขปลายทางไปยังอีกมิติหนึ่ง ซึ่งมิตินั้นเป็นของสไปเดอร์แมน 2099 นั่นเอง

     ไม่ใช่แค่มิเกลเท่านั้นที่มีอุปกรณ์ใหม่ล่าสุดติดข้อมือ เพราะว่าในตัวอย่างนั้นสไปเดอร์เกว็นเองก็มีอุปกรณ์ชนิดนี้ติดอยู่ที่ข้อมือซ้ายของเธอเองด้วยเช่นกัน และถ้าให้เดาล่ะก็นั่นอาจหมายความว่ามิเกลนั้นต้องดึงเกว็นไปร่วมทีมแล้วเรียบร้อย เธอถึงได้มีเจ้าอุปกรณ์นี้ท่องมิติเพื่อกลับมาหาไมล์ส และเธอก็คงมาเพื่อโน้มน้าวให้เขาไปร่วมต่อสู้กับตัวร้ายใหม่ในมิติอื่นอย่างแน่นอน 

     นอกจากตัวละครใหม่อย่างมิเกลแล้ว แฟนๆ ยังเดาเพิ่มกันไปด้วยว่าตัวละครสไปเดอร์วูแมนตัวใหม่ก็จะออกโรงในภาคนี้ด้วยเช่นกัน เธอคือตัวละคร Jessica Drew หรือสไปเดอร์วูแมนจากโลก 404 ที่ทุกคนก็พูดกันไปว่าจะเป็นตัวละครไอ้แมงมุมสาวที่ท้องอีกด้วยซ้ำ งานนี้ต้องรอตามลุ้นกันว่าจะเป็นอย่างไร โดยคนที่มาให้เสียงพากย์ตัวละครนี้คือนักแสดง Issa Rae

     แฟนมาร์เวลจับจ้องตัวอย่างที่ปล่อยออกมาแล้ว และเดากันได้เลยว่างานนี้ไมล์สน่าจะมีคอสตูมชุดใหม่ เพราะสังเกตได้จากสัญลักษณ์แมงมุมบริเวณหน้าอกและแผ่นหลัง โดยสัญลักษณ์นี้ได้ปรากฏขึ้นในตอนท้ายสุดของตัวอย่างภาพยนตร์เช่นกัน ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างสูง เนื่องจากไมล์สน่าจะเดินทางข้ามไปยังมิติอื่นจึงอาจมีการทำชุดใหม่ขึ้นมาเพื่อความเหมาะสมต่อสภาพแวดล้อม

ภาพ: Collider

     ในภาคที่น่าจะมีการกระโดดข้ามไปมาระหว่างหลายๆ มิติ เชื่อว่าคนดูหลายคนอาจจะตามกันไม่ทันก็เป็นได้ แต่อ้างอิงจากตัวอย่างภาพยนตร์แล้วจะเห็นว่าตอนที่ตัวละครไมล์สกำลังโหนใยไปมาอยู่ที่เมือง Mumbattan นั้นก็มีตัวอักษรฮินดี้โผล่ขึ้นมาระหว่างการต่อสู้ด้วย แบบนี้จึงเดาได้เลยว่าแต่ละมิติจะต้องมีดีเทลและการออกแบบมิติที่แตกต่างกันแบบเห็นได้อย่างชัดเจนแน่นอน 

     เพลงประกอบภาพยนตร์ที่น่าจะเจ๋งไม่ต่างจากภาคแรก เนื่องจากภาคนี้ได้นักประพันธ์ดนตรีประกอบคนเดิมอย่าง Daniel Pemberton กลับมานั่งแท่นรังสรรค์ผลงานอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่สร้างเพลงประกอบสุดฮิตในภาคแรกไปแล้วอย่าง Sunflower ร้องโดยศิลปิน Post Malone และ Swae Lee รวมไปถึงเพลง What's Up Danger ที่ร้องโดยศิลปิน Blackway และ Black Caviar หรือจะเป็น Way Up ร้องโดย Jaden Smith ก็ตาม เพราะฉะนั้นปูเสื่อรอฟังเพลงที่จะฮิตอีกครั้งได้เลย