จากกระแสของงานฟุตบอลโลกประจำปี 2022 ที่เพิ่งผ่านมานั้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสนุกสนาน เสียงเฮฮา เสียงโห่ร้อง ตลอดจนคำวิพากษ์วิจารณ์จากคนหลายฝ่ายอยู่ไม่น้อย ไม่เพียงเท่านั้นแต่การจัดการแข่งขันกีฬาขึ้นมาในครั้งนี้คงเป็นอีกหนึ่งการสร้างความบันเทิงให้กับอุตสาหกรรมกีฬาและแฟนๆ ที่ห่างหายไปนานหลายปี แต่อย่างที่เรารู้กันดีว่ากีฬาฟุตบอลอันเป็นหัวใจหลักของงานครั้งนี้ นอกจากกีฬาแล้วเหล่านักกีฬาชายหนุ่มรูปร่างสันทัดพร้อมความสามารถอันโดดเด่นก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เรียกความสนใจจากคนดูได้ไม่น้อย

     ด้วยความน่าสนใจของตัวนักกีฬาอย่าง "Kylian Mbappé" นักฟุตบอลชาวฝรั่งเศสที่กำลังแสดงความรู้สึกดีใจขณะอยู่ในสนามซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ที่เหล่าช่างภาพต่างพากันลั่นชัตเตอร์ด้วยความตั้งใจที่ต้องการเก็บไว้เป็นส่วนหนึ่งของช่วงเวลาสำคัญในการแข่งขันครั้งนี้ และหากมองภาพรวมเราก็คงเห็นได้ว่าองค์ประกอบของภาพถ่ายเหล่านั้นอาจจะไม่ได้สื่อไปในทิศทางที่ต้องการนำเสนอเพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งเท่านั้น แต่บรรดาแฟนบอลตาดีต่างโฟกัสผิดจุด เพราะรูปนั้นกลับเผยให้เห็นถึง “ไอ้จ้อน” หรือของลับของเอ็มบัปเป้และถูกหยิบยกมาพูดคุยจนกลายเป็นการแสดงความเห็นในวงกว้าง ซึ่งแม้ว่าความคิดเห็นเหล่านั้นจะเป็นสิ่งที่อาจมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี แต่หากคิดในอีกแง่มุมหนึ่งเราก็คงพูดได้เต็มปากว่าการกระทำนี้เสมือนเป็นการคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) แบบทางอ้อมก็คงไม่ผิดเพี้ยนนัก...

     อย่างที่เรารู้กันดีว่าประเด็นของการคุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) เป็นอีกหนึ่งปัญหาในสังคมไทยที่ฝังรากลึกไว้มาตั้งแต่อดีต ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่แสดงออกผ่านสายตา คำพูด และการกระทำ ถึงแม้จะเล็กน้อยเพียงใด แต่ก็เป็นสิ่งที่สร้างความไม่สบายใจและบาดแผลทางความรู้สึกให้กับผู้ถูกกระทำโดยเฉพาะผู้หญิงซึ่งมักตกเป็นเหยื่อจากการกระทำนี้เสมอ โดยประเด็นนี้เริ่มถูกให้ความสนใจและเรียกร้องให้คนในสังคมได้ตระหนักรู้และตื่นตัวกับการกระทำดังกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ “ไม่ควรทำ” ทั้งยังเป็น "การกระทำที่ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างมาก" จนนำไปสู่การรณรงค์และผลักดันในหลากหลายรูปแบบให้ทุกคนในสังคมตื่นรู้และปรับเปลี่ยนแนวคิด การกระทำ ให้เป็นไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น

     และหากเรามองย้อนกลับไปเส้นทางการต่อสู้ในประเด็นนี้ก็เห็นได้ว่าเป็นเส้นทางที่ไม่ได้ราบรื่นและโรยด้วยกลีบกุหลาบสักเท่าไร ทว่ากลับเป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค การตั้งคำถาม และขวากหนามที่คอยทิ่มแทงให้กับเหล่าคนที่พยายามต่อสู้เพื่อปฏิวัติสังคมให้กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนมากขึ้น แต่ความพยายามเหล่านั้นจะสูญเปล่าหรือไม่ เราคงต้องมาพูดกันต่อไปถึงประเด็นการวิพากษ์วิจารณ์ไอ้จ้อนของนักกีฬาหนุ่มคนนั้น เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นการเริ่มต้นโดยคนบางกลุ่มที่อาจจะทำเพื่อสร้างความบันเทิงเพียงชั่วคราว ซึ่งเราคงต้องตั้งคำถามกลับไปเช่นกันว่า “หากผู้ชายเป็นผู้กระทำและผู้หญิงเป็นผู้ถูกกระทำ เรื่องราวเหล่านั้นจะเป็นเช่นไร” เพราะผู้เขียนเองก็เชื่อว่าแทนที่จะเป็นการกระทำเพื่อความบันเทิงเช่นเดียวกันนี้ คงกลายเป็นหนังอีกม้วนที่ครุกรุ่นไปด้วยคำด่าทอทั้งจากในชีวิตจริงและโลกออนไลน์อย่างแน่นอน รวมทั้งการถกเถียงในเรื่องของการคุกคามทางเพศนี้เป็นสิ่งที่เรามีบทเรียนให้เห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งจากเหล่าคนที่มีแสงสปอตไลต์ตามตัว หรือจากบุคลลทั่วไปที่อาจจะทำเพียงเพราะคึกคะนอง แต่ทุกคนต่างโดนกระแสโต้กลับซึ่งเสมือนเป็นการลงโทษนัยๆ จนหลายคนอาจหมดโอกาสในชีวิตกันไปเลยทีเดียว

     และถ้าหากเทียบกันแล้วการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ก็ไม่ต่างจากสิ่งที่ใครหลายคนเคยถูกกระทำมาก่อน เราคงต้องกันต่อไปว่าเราจะสามารถปล่อยผ่านเรื่องนี้โดยที่ไม่คิดอะไรและจะสามารถปล่อยให้การกระทำดังกล่าวจบลงโดยที่ไม่ได้มีบรรทัดฐานใหม่ชัดเจนเกิดขึ้นมาจริงหรือ เพราะในท้ายที่สุดเเล้วตอนจบของเรื่องต่างก็สร้างบาดเเผลให้กับผู้ถูกกระทำไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม และในขณะเดียวกันสิ่งที่เราพยายามรณรงค์และผลักดันให้สังคมกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัย ตลอดจนการพยายามสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่สูงมากขึ้นกำลังถูกบั่นทอนเพียงเพราะเราต่างมองว่ากระทำดังกล่าวสร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงและสนุกสนานชั่วคราว และหากเป็นเช่นนั้นเราทุกคนคงต้องย้อนกลับมาถามตัวเองว่าที่ผ่านมาเราพยายามเรียกร้องไปเพื่ออะไรกัน...