LIFESTYLE

Ryan Reynolds เผยถึงบทบาทที่ยากที่สุดในชีวิตถึงขั้นหมดสติกลางกองถ่าย!

Buried เป็นภาพยนตร์ที่ท้าทายนักแสดงอย่างไรอัน เรย์โนลด์ส มากที่สุดในชีวิต

     ในอาชีพนักแสดงนั้นเดาว่าต้องมีสักเรื่องหรือสักบทบาทในชีวิตที่หินสุดๆ จนทำเอาฝังใจทั้งในแง่บวกและแง่ลบกันไปนาน ยกตัวอย่าง Anne Hathaway ที่ต้องกล้อนผมตัวเองจนโล้นจากเรื่อง Les Misérables หรือบทบาท Joker ที่เล่นโดย Heath Ladger ถึงขั้นทำเอาเขาต้องจบชีวิตตัวเองลง เช่นเดียวกันกับนักแสดงแถวหน้าจากฮอลลีวู้ดคนนี้ Ryan Reynolds เพราะแม้เขาจะผ่านบทบาทในภาพยนตร์มาอย่างหลากหลาย ทั้งการเป็นซูเปอร์ฮีโร่สุดห่วย Deadpool บทแอ็กชั่นสุดเกรียนจาก The Adam Project หรือจะบทจากภาพยนตร์รอมคอมสุดฮา The Proposal ก็เรียกว่าไม่มีเรื่องไหนทำให้เขาต้องหนักใจมากเท่ากับเรื่องนี้ ที่ทำเอาเขาถึงขั้นสลบกลางกองถ่าย!

ภาพ: Rotten Tomato

     Buried ภาพยนตร์ในปี 2010 ที่ค่อนข้างนอกกระแสพอสมควรถือเป็นม้ามืดนอกสายตาที่ใครคาดไม่ถึง ยิ่งใครที่ตัดสินใจจะดูหนังสักเรื่องผ่านการดูตัวอย่างหนังด้วยแล้ว เรียกว่าไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่กับเรื่องนี้ เนื่องจากตัวภาพยนต์ไม่ได้มีฉากอะไรมากมาย มีแค่เรื่องราวของตัวละครที่ติดอยู่ในโลงศพเท่านั้น แต่กลับกันคือการส่งอารมณ์และศิลปะการแสดงของเรย์โนลด์สนับว่าสุดยอดมากกระทั่งทำเอาคนดูรู้สึกอึดอัดไปด้วยกัน ในเรื่องเขารับบทเป็น Paul Conroy คนขับรถบรรทุกที่ทำงานในบริษัทเอกชน ประเทศอิรัก เขาตื่นมาพร้อมพบว่าตัวเองถูกฝังทั้งเป็นอยู่ในโลงศพลึกใต้ผืนดินกว่า 6 ฟิต และต้องดิ้นรนต่อสู้ด้วยไฟแช็กซิปโป้กับโทรศัพท์หนึ่งเครื่องเท่านั้น

     บทบาทของผู้ชายธรรมดาๆ ที่ไม่รู้ว่าจะต้องรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไร ผสมโรงด้วยอาการแพนิก หวาดกลัวความตาย และความอึดอัดคับแคบที่เกิดขึ้น สร้างความหน้ามืดและหัวใจถี่ระรัวได้จริงด้วยซ้ำ ตัวเรย์โนลด์สเองมักจะได้รับบทบาทสุดเกรียน หรือไม่ก็ตลกขบขันมีมุกเยอะ อาจด้วยนิสัยในชีวิตจริงเขาเป็นคนตลกที่ชอบเย้าแหย่หยอดมุกตลอดเวลา ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงถือเป็นการพลิกบทบาททางอารมณ์และภาพจำของเรย์โนลด์สไปอย่างสิ้นเชิง นักวิจารณ์ถึงกับออกปากว่าเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในด้านการแสดงของเรย์โนลด์สเลยทีเดียว

ภาพ: IMDB

     ในด้านการถ่ายทำนั้นก็ต้องเรียกว่าหินสุดๆ จนทำเอาเขาจำขึ้นใจไปอีกนาน เจ้าตัวเผยในรายการทอล์กโชว์ David Letterman ว่าภาพยนตร์ทั้งหมดทั้งมวลที่เคยเล่นมานั้นเรื่องนี้โหดมากจริงๆ “เกือบทุกอย่างที่คุณได้เห็นในภาพยนตร์นั้นเป็นเทคเดียว ยกเว้นบางช่วงที่ผมหมดสติไป ตัวผมไม่ได้ตระหนักและเตรียมตัวมาก่อนเลยว่าเวลาคุณหายใจไม่ออก ทั้งอาการหายใจเร็วเกินไปเพราะตื่นตระหนก หรือแม้แต่การที่ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายมากพอ ออกซิเจนมันไม่ไปหล่อเลี้ยงเลือดของคุณ คุณจึงหมดสติ” 



WATCH




ภาพ: IMDB

     เขาเล่าต่อว่า “มันถึงขั้นว่ามีช่วงหนึ่งในการถ่ายทำที่ผมต้องมีถุงกระดาษติดตัวไว้ตลอด แล้วพยายามหายใจเข้าออกในถุงนั้นให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะเริ่มเทค แล้วระหว่างฉากที่กำลังถ่ายทำผมก็จะหยิบมันขึ้นมาเพื่อหายใจ หายใจ หายใจ แล้วก็ค่อยๆ ถ่ายกันต่อไปเรื่อยๆ” วิธีการหายใจผ่านการใช้ถุงกระดาษครอบปากและจมูกไว้ เป็นการลดอาการ Hyperventilation Syndrome ในเบื้องต้น เพื่อช่วยให้ร่างกายกลับมาที่ระดับหายใจได้ปกติอีกครั้งหนึ่ง

ภาพ: David Letterman

     หลังเล่าเรื่องราวจบพิธีกรอย่างเดวิด เลเตอร์แมน จึงอดสงสัยที่จะถามไม่ได้ว่า ทำไมเขาถึงเลือกที่จะรับบทบาทเป็นชายหนุ่มในโลงศพตั้ง 90 นาทีล่ะ เพราะมันฟังดูไม่น่าพิสมัยสักเท่าไหร่นัก เรย์โนล์ดสตอบด้วยสัตย์จริงว่า “เป็นการตัดสินใจที่ตื้นเขินมาก ผมเห็นภาพยนตร์ของผู้กำกับ Rodrigo Cortés แล้วนึกไปถึงภาพยนตร์ของ Alfred Hitchcock นั่นแหละที่ผมตัดสินใจรับเล่น” แม้เขาจะให้เหตุผลไปแบบนั้น แต่เราเดาว่าส่วนหนึ่งเรย์โนลด์สก็คงต้องการที่จะผลักดันตัวเอง ในการเล่นภาพยนตร์ที่พึ่งแต่การแสดงด้านอารมณ์เพียงอย่างเดียว เพื่อแสดงให้เห็นว่าเมื่อตัวเขาเข้าถึงจุดการแสดงที่ต้องใช้อารมณ์ในการถ่ายทำ เขาก็สามารถทำมันได้ และทำได้ดีไม่ต่างจากการแสดงที่เน้นแค่ฉากต่อสู้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

     แต่ไม่ว่าจะเพราะอะไรที่ทำให้เรย์โนล์ดสรับเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้ อย่างน้อยมันทำให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าเขาเองก็เป็นนักแสดงคุณภาพคนหนึ่งที่สามารถส่งอารมณ์ผ่านกล้องออกมาให้ผู้ชมได้รู้สึกไปด้วย ไม่ต่างจากนักแสดงชั้นนำคนอื่นๆ ซึ่งเขาทิ้งท้ายติดตลกในรายการไปด้วยว่า “แหม ไม่น่าเชื่อเลยล่ะว่าผมยังมีนิ้วมือครบอยู่ ซิปโป้นั่นมันร้อนมากเลยจริงๆ” 

ข้อมูล : Insider, Collider

WATCH