สร้างเสียงฮือฮาให้กับวงการฮอลลีวู้ดอีกครั้งตั้งแต่นักแสดงหนุ่มรุ่นใหญ่ Robert Downey Jr. หวนคืนจอเงินหลังจากที่หายหน้าคร่าตาไปหลายปี กับบทบาทแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง Oppenheimer ที่มีผู้กำกับมากฝีมือ Christopher Nolan เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แน่นอนว่าเพียงแค่ได้ยินชื่อของผู้กำกับและนักแสดงนำแล้วก็ทำให้ผู้ชมตั้งตาคอยชมภาพยนตร์เรื่องนี้กันถ้วนหน้า เหตุเพราะส่วนหนึ่งจะสนับสนุนผลงานของคริสโตเฟอร์ที่ทำไว้อย่างยอดเยี่ยมเสมอมา อีกส่วนหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคิดถึงฝีไม้ลายมือการแสดงของโรเบิร์ตกันทั้งสิ้น ทว่าสิ่งที่สร้างความตกใจให้กับเหล่าแฟนๆ คือประโยคที่มาจากปากของโรเบิร์ตว่า เขารู้สึกสูญเสียทักษะการแสดงไปเพียงเพราะเขาเคยรับบทเป็น Iron Man มาก่อน!

 

Robert Downey Jr. ในบทบาทตัวละคร Lewis Strauss จากภาพยนตร์เรื่อง Oppenheimer / ภาพ: Radio Times

     หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมโรเบิร์ตถึงกล่าวเช่นนั้น ทั้งๆ ที่เขาก็สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลกในบทบาทของการเป็น Tony Stark หรือไอรอนแมน การแสดงอันน่าทึ่งและการสร้างตัวละครนี้ขึ้นใหม่จึงทำให้ผู้ชมขนานนามให้ชื่อไอรอนแมนจนกลายเป็นอีกชื่อที่ติดตัวเขาไปแล้ว ทว่าเหตุนี้ล่ะจึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้โรเบิร์ตต้องประหม่าเช่นนี้ เพราะการรับบทบาทไอรอนแมนเป็นเวลานานถึง 11 ปี นั้นอาจทำลายทักษะการแสดงของตัวเอง ซึ่งเขาไม่ค่อยมีโอกาสได้ลองแสดงบทบาทอื่นเลย จนทำให้ส่วนลึกของจิตใจและกายนั้นจดจำความเป็นโทนี่ สตาร์คไปแล้ว หากจะมาเคาะสนิมลองชิมลางในตัวละครอื่นๆ นั้นเป็นเรื่องยากสำหรับเขาทีเดียว ดังนั้นการรับบท Lewis Strauss ของโรเบิร์ตครั้งนี้ทำให้เขาอยู่ใต้แรงกดดันมหาศาล

 

ภาพ: The List

     แต่แล้วการเดินหน้าต่อก็เป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนควรทำ คริสไม่ได้ปล่อยให้โรเบิร์ตต้องเผชิญความกลัวและแรงกดดันเพียงคนเดียว เพราะคริสรู้ว่าในอดีต (จากบทไอรอนแมน) เขามีพลังล้นเหลือที่จะสามารถฆ่าคนได้ด้วยมือเปล่าผ่านชุดเกราะเหล็กสีแดง ทั้งยังบินได้ด้วยความเร็วสูงอีกด้วย คริสลองให้เขาค่อยๆ ปรับคาแร็กเตอร์ทีละน้อยจนเขาสามารถหลุดออกจากบทบาทเดิมๆ ได้ในที่สุด ความกลัวที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว ทักษะการแสดงที่โรเบิร์ตไม่มั่นใจว่ายังมีอยู่ไหมมันก็กลับมาอีกครั้ง ทั้งนี้ความพยายามก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้สมบูรณ์ ทว่าการชนะใจตัวเองนั้นเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่า หากเหล่าแฟนๆ อยากรู้ว่าโรเบิร์ตสามารถเอาชนะความกลัวแล้วได้จริงหรือไม่ สามารถไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ในวันที่ 20 กรกฎาคม ไม่แน่ว่าเขาอาจจะลบภาพจำในบทบาทซูเปอร์ฮีโร่คนเก่าในชั่วขณะก็เป็นได้