MV เท่าไหร่ก็ไม่พอ
LIFESTYLE

ส่องเอ็มวี 'เท่าไหร่ก็ไม่พอ' การกลับมาเจอกันของ 'บิวกิ้น-พีพี' และฉากอีโรติกที่สวยงามราวกับงานศิลปะ

ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นมิวสิกวิดีโอเพลงของอุตสาหกรรมเพลงไทย สร้างสรรค์ 'ฉากรัก' ได้มีรสนิยมเช่นนี้

     หนึ่งในมิวสิกวิดีโอเพลงที่ถูกพูดถึงมากที่สุดตอนนี้ต้องยกให้กับ ‘เท่าไหร่ก็ไม่พอ’ ซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดจากศิลปินมากความสามารถอย่าง เบล-สุพล พัวศิริรักษ์ ซึ่งมีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ตัวมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้ ซึ่งได้ บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ และ พีพี-กฤษฏ์ โคจรกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งหนึ่ง กระทั่งที่ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ทันทีหลังจากที่มิวสิกวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เนื่องจากได้รับคำชื่นชมจากเหล่าแฟนคลับอย่างล้นหลาม ทั้งในฝั่งของแฟนคลับบิวกิ้น-พีพีเอง หรือแม้กระทั่งแฟนคลับของนักร้องมากความสามารถเองก็ตาม

 

     การโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งของบิวกิ้นและพีพีในครั้งนี้ ยังคงรักษามาตรฐานการแสดงเอาไว้ได้อย่างดีไม่ต่างจากเมื่อครั้งที่ทั้งคู่ได้แจ้งเกิดจากซีรี่ส์เรื่อง ‘แปลรักฉันด้วยใจเธอ’ ทั้งสองภาค ทว่าที่มากไปกว่านั้นและได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ชื่นชมอย่างหนาหูก็ต้องยกให้ ‘ฉากเลิฟซีน’ ในมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ ที่ทำออกมาได้มีรสนิยมและถูกถ่ายทอดออกมาราวกับงานศิลปะก็ไม่ปาน แม้ว่าการแสดงของทั้งคู่จะไม่ได้โฉ่งฉ่างชัดเจนว่าเป็นฉากเลิฟซีนอันเร่าร้อน ทว่าการกำกับภาพมิวสิกวิดีโอดังกล่าวที่ออกมาละมุนละไม ไม่มากและไม่น้อยเกินไป ผ่านเทคนิคการถ่ายทำน่าสนใจ ก็ช่วยส่งให้อารมณ์ความรู้สึกเร่าร้อนของฉากดังกล่าวนั้นยังอยู่ครบถ้วน และส่งผ่านสู่คนดูได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งโว้กต้องบอกตรงนี้ว่าไม่ควรพลาดชม



WATCH




     “เบล สุพล พัวศิริรักษ์” ศิลปินเจ้าของเพลง ‘เท่าไหร่ก็ไม่พอ’ ยังได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของเพลงนี้เอาไว้ว่า “จุดเริ่มต้น เพลงเท่าไหร่ก็ไม่พอ เริ่มจากประมวลว่าเรามีความรู้สึกของคนที่อยู่ระหว่างการเดินทางระหว่างความสัมพันธ์หรือเรื่องราวอะไรก็ได้ จุดมุ่งหมายที่ตัวเองตั้งใจจะไปให้ถึง แต่สุดท้ายแล้วมันไปไม่ถึงตรงนั้น มันเกิดความท้อ ความเหนื่อยล้า อยู่ในจุดที่ตัดสินใจว่าเราจะเดินออกมาจากตรงนั้นไหม ทั้งๆ ที่ใจยังอยากที่จะเดินต่อ เหมือนจะเดินหน้าก็ไปไม่ถึง จะถอยกลับก็ไม่ง่าย มันเป็นภาวะของความลังเล และสับสน ซึ่งไม่ว่าทางไหนมันก็เจ็บปวด”  ก่อนที่เบลจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับมิวสิกวิดีโอต่อไปว่า “เอ็มวีเพลงเท่าไหร่ก็ไม่พอ เป็นฝีมือของผู้กำกับคนเดียวในใจคือ บอส กูโน เราชอบการถ่ายทอดของเขาก็เลยชวนบอสมาทำ  ตอนแรกก็เกรงใจ เขาก็น่ารักหาเวลามาทำให้ ก็ต้องขอบคุณมากๆ และสำหรับ บิวกิ้น–พีพี น้องก็น่ารักอยากมาเล่นให้ประทับใจทุกคน รู้สึกดีใจ มีแต่คนที่เรารักมาอยู่ในงานนี้ คนคุ้นเคย คนที่ผมชื่นชมการทำงานเหมือนเขามาทำให้และมอบของขวัญให้ผม ทุกคนมาด้วยความทุ่มเทจริงๆ”

     ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นอุตสาหกรรมเพลงของไทยได้สร้างสรรค์ผลงานมิวสิกวิดีโอที่มี ‘ฉากรัก’ ออกมาได้น่าสนใจเช่นนี้

WATCH