Electroculture
LIFESTYLE

เอาใจคนชอบแต่งสวนกับทริคการทำ 'Electroculture' ที่ช่วยให้พืชเติบโตได้ดีขึ้น!

ถ้าใครอยากลองทำทริคนี้ก็สามารถทำตามได้ง่ายๆ ที่บ้าน

     หลายคนที่หลงใหลในการทำสวนคงพบกับปัญหาพืชหรือต้นไม้เติบโตได้ช้าเป็นแน่แท้ ทว่าปัญหาเหล่านั้นอาจจะมาจากต้นตอเล็กจิ๋วที่เรามองข้ามไป โดยในครั้งนี้โว้กประเทศไทยจะขออาสาพาแฟนๆ ไปรู้จักกับอีกหนึ่งทริคการทำสวนที่มีมาตั้งเเต่อดีต อย่าง “Electroculture” ทริคที่ช่วยเติมแร่ธาตุให้กับดินและกระตุ้นการดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น 

 

electro culture

ภาพ: Thegardenstrust.blog

     เทคนิคการทำ “Electroculture” คือเทคนิคที่มีมาตั้งเเต่ช่วงปี 1749 โดย Abbé Jean-Antoine Nollet นักฟิสิกส์วิทยาศาตร์ที่นำเสนอวิธีนี้ ซึ่งการทำ Electroculture คือการมุ่งเน้นในการดึงเอาประจุไฟฟ้าที่ล่องลอยอยู่ในอากาศส่งตรงสู่ดินเเละรากของพืช โดยสามารถทดลองทำได้อย่างง่ายดายที่บ้านของทุกคน

 

electro culture

ภาพ: www.etsy.com

     เริ่มต้นการทำ Electroculture โดยอุปกรณ์ง่ายๆ อย่างสายทองแดง แท่งไม้ แท่งเหล็ก และขี้ผึ้งหรือเทียนไข ขั้นตอนเเรกนำเอาสายทองแดงมาพันเข้ากับไม้ที่มีความสูงพอดี จากนั้นนำปลายสายทองแดงด้านหนึ่งมาผูกติดเข้ากับแม่หลัก เเละเคลือบด้วยขี้ผึ้งหรือเทียนไขเพื่อป้องกันการขึ้นสนิม จากนั้นนำด้านที่มัดติดกับแม่เหล็กไปฝังดินโดยให้สายทองเเดงส่วนที่เหลือโผล่พ้นพื้นดินออกมา เพียงเท่านี้เราก็สามารถที่จะทำ Electroculture แบบง่ายได้แล้ว

     ซึ่งการทำเทคนิคดังกล่าวนั้นเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการดูเเลต้นไม้ที่อาจจะทำให้เราสามารถได้ง่ายมากขึ้น เพราะเราอาจจะไม่จำเป็นต้องเติมปุ๋ยต่างๆ ลงในพื้นดินเท่าเดิม และทุกสิ่งที่เราต้องการนั้นมีแค่แสงแดด น้ำ ไนโตรเจนในอากาศ และประจุไฟฟ้าเล็กๆ ก็ช่วยให้เราสามารถดูเเลต้นไม้ได้อย่างง่ายดายในระยะยาว 

 



WATCH




electro culture

ภาพ: Medium.com

     ถึงแม้วิธีการ Electroculture นี้จะมีมาอย่างยาวนาน ทว่าในปัจจุบันที่โลกโซเชียลเติบโตขึ้นทำให้หลายๆ คนบนโลกออนไลน์เริ่มทำคลิปเกี่ยวกับเทคนิคเเละวิธีการเหล่านี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นบน Tiktok, YouTube และอื่นๆ ซึ่งเหล่าคนรักการทำสวนนั้นต่างก็เข้าไปชมพร้อมทดลองทำตามๆ กัน และสำหรับใครที่สนใจเเละอยากทดลองวิธีการ Electroculture นี้ก็สามารถทำที่บ้านได้ ทั้งง่ายเเละไม่ส่งผลเสียต่อพืชอีกด้วย

 

ภาพ : Ramita Naungtongnim

WATCH

คีย์เวิร์ด: #Electroculture