นักแสดงนำหญิงถือเป็นหนึ่งในสาขาที่มีการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดที่สุดของรางวัลออสการ์ปีนี้ก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่ประกาศชื่อของผู้เข้าชิงทั้ง 5 คนออกมา ปรากฏว่ามีหลายรายชื่อที่ต้องหลุดออกไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่ฝีมือการแสดงโดดเด่นไม่แพ้ใคร อีกทั้งยังคว้ารางวัลจากสถาบันอื่นๆ มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Alana Haim จาก Licorice Pizza, Lady Gaga จาก House of Gucci, Jennifer Lawrence จาก Don’t Look Up และ Rachel Zegler จาก West Side Story

       แน่นอนว่าทั้ง 5 รายชื่อที่เข้ามาเป็นผู้เข้าชิงได้ย่อมเปี่ยมด้วยคุณภาพเข้มข้น และเป็นขวัญใจนักวิจารณ์ ส่งผลให้นี่เป็นอีกครั้งที่ออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงเป็นการขับเคี่ยวที่สูสีเข้มข้น น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร และในวันที่ 27 มีนาคม 2022 ทุกคนคงได้ทราบพร้อมกันอย่างเป็นทางการว่าใครจะเป็นผู้คว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ไปครอง แต่ก่อนจะถึงวันนั้น บทความนี้จะพาผู้อ่านทุกคนร่วมวิเคราะห์โดยใช้ข้อมูลจากหลากหลายแง่มุม เพื่อชี้ชัดว่าใครที่เป็นตัวเต็งอันดับ 1 ส่วนผลลัพธ์จะแม่นหรือมั่วไม่ใช่เรื่องสำคัญ แค่อยากให้ทุกคนได้อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น

ภาพ: IMDb

 

1. Penélope Cruz จากเรื่อง 'Parallel Mothers'

       ไม่ว่าคุณจะจดจำ Penélope Cruz ในฐานะหรือบทบาทจากภาพยนตร์เรื่องใด แต่หนึ่งสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือเธอเป็นนักแสดงคุณภาพ การที่นักแสดงชาวสเปนอย่างเธอยืนหยัดจนเป็นที่ยอมรับในฮอลลีวู้ดมาได้อย่างยาวนานกว่าสองทศวรรษ อีกทั้งยังเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วทั้งหมด 4 ครั้ง และคว้าไปครองได้สำเร็จ 1 ครั้งจากบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง Vicky Cristina Barcelona 

       ในครั้งนี้เพเนโลเปเข้าชิงสาขานักแสดงนำหญิงจากบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง 'Parallel Mothers' ที่ถึงแม้ว่าหากเทียบกับอีก 4 รายชื่อที่เหลือ จากกระแสที่ผ่านมาโอกาสที่เธอจะคว้ารางวัลไปครองอาจจะอยู่ลำดับท้ายๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ลดทอนคุณภาพการแสดงของเธอที่ทำให้ผู้ชมได้ตระหนักถึงความยากลำบากที่ผู้หญิง และสถานะความเป็นแม่ต้องเผชิญ เรียกได้ว่าในข้อนี้เพเนโลเปชนะใจผู้ชมได้อย่างสบาย

ภาพ: IMDb

 

2. Jessica Chastain จากเรื่อง 'The Eyes of Tammy Faye'

       เรียกว่าเป็นการสลัดภาพตัวตนและสวมบทบาทเป็น Tammy Faye Bakker พิธีกรระดับตำนานแห่งอเมริกาที่มีตัวตนอยู่จริงในภาพยนตร์เรื่อง 'The Eyes of Tammy Faye' ได้อย่างแนบสนิท และทำให้ผู้ชมลืมไปเลยว่าที่อยู่ตรงหน้าคือ Jessica Chastain เธอคือส่วนที่ดีที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้โดยไม่ต้องสงสัย เจซสิกาแสดงให้เห็นถึงมิติที่หลากหลายของ Tammy Faye Bakker แต่จากกระแสที่ผ่านมาดูเหมือนว่าการเข้าชิงออสการ์ครั้งที่ 3 ของเธอ จะเป็นอีกครั้งที่เธอต้องกลับบ้านมือเปล่า

ภาพ: IMDb

 

3. Olivia Colman จากเรื่อง 'The Lost Daughter'

       เหมือนจะกลายเป็นอีกหนึ่งขวัญใจกรรมการออสการ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ Olivia Colman เพราะในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา หากนับรวม The Lost Daughter ด้วยก็นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เธอมีชื่อเข้าชิง และหนึ่งในนั้นยังเป็นการคว้ารางวัลมาครอบครองอีกด้วยจากผลงานภาพยนตร์เรื่อง The Favorite

       สำหรับ 'The Lost Daughter' เธอก็ยังคงวาดลวดลายการแสดงที่ยอดเยี่ยมเช่นเคย ฉายภาพความเคว้งคว้างและแตกสลายของหญิงสาววัยกลางคนให้ผู้ชมเชื่ออย่างสุดหัวใจ ซึ่งหากครั้งนี้จะมอบรางวัลให้เธออีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่น่าเสียดายที่กระแสของเธออาจจะยังไม่แรงพอที่จะทำให้โอลิเวียคว้ารางวัลนี้มาได้

ภาพ: Goldderby

 

4. Nicole Kidman จากเรื่อง 'Being the Ricardos'

       ครั้งล่าสุดที่ Nicole Kidman คว้ารางวัลออสการ์นั้นเกิดขึ้นในปี 2002 จากการแสดงระดับมหัศจรรย์ในภาพยนตร์เรื่อง The Hours จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ 20 ปีพอดิบพอดี เรียกว่าเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง หากกรรมการออสการ์จะมอบรางวัลให้เธออีกครั้ง นอกจากนั้นการแสดงใน 'Being the Ricardos' ทำให้เธอได้เข้าชิงก็ได้รับเสียงวิจารณ์ด้านบวกอย่างท่วมท้น แสดงให้เห็นถึงห้วงมิติที่หลากหลายและความล้ำลึกของตัวละครถึงขั้นคว้ารางวัล Golden Globes มาประดับบารมีได้สำเร็จ ดังนั้นนิโคลจึงเป็นหนึ่งในตัวเต็งอันดับต้นๆ ของสาขานักแสดงนำหญิงครั้งนี้ และมีโอกาสไม่น้อยที่เธอจะคว้ารางวัลไปครอง

ภาพ: IMDb

 

5. Kristen Stewart จากเรื่อง 'Spencer'

       เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ทั้งในแง่มุมที่ดีและร้าย สำหรับ Kristen Stewart ที่ในครั้งนี้ด้วยการแสดงระดับมหัศจรรย์ สวมจิตวิญญาณแห่งความร้าวราน ร่ายรำสยายปีกโศกนาฏกรรมแห่งชีวิตของเจ้าหญิง Diana ในภาพยนตร์เรื่อง 'Spencer' ได้อย่างไม่มีที่ติ สลัดภาพนางเอก Twilight ออกไปอย่างหมดจด ในช่วงแรกของเทศกาลประกาศรางวัลเธอจึงเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งแทบทุกเวที และกวาดรางวัลได้อย่างมากมาย

       ทว่าหลังจากนั้นไม่นานคริสเตนก็ถูกโจมตีอย่างหนักจากประเด็นส่วนตัวในอดีต ส่งผลให้เธอพลาดการเข้าชิงรางวัลสถาบันใหญ่ๆ มากมาย จนหลายคนคิดว่าเส้นทางออสการ์ของเธอครั้งนี้คงจบลงแล้ว แต่สุดท้ายชื่อของเธอก็ปรากฏอีกครั้งในฐานะผู้เข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงนำหญิง แสดงให้เห็นว่ากรรมการออสการ์มองข้ามเรื่องส่วนตัวของเธอได้ และวัดกันที่คุณภาพผลงานอย่างแท้จริง เป็นการกลับมาอย่างสวยงามของคริสเตน สจ๊วตและมีโอกาสสูงมากที่เธอจะคว้ารางวัลออสการ์ครั้งแรกในชีวิตไปครอบครอง