การตื่นนอนมาพร้อมความรู้สึกสดชื่นเป็นการเริ่มต้นวันที่ดีและทำให้มีพลังที่จะทำกิจกรรมต่อไป ซึ่งบรรยากาศของห้องนอนที่ดีมีส่วนช่วยกระตุ้นพลังและเรียกความสดใสในตอนเช้า เนื่องจากสีและแสงของห้องนอนส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของเรา นอกจากนี้ห้องนอนไม่ได้มีหน้าที่แค่สำหรับนอนหลับพักผ่อนเท่านั้น หากแต่ยังเป็นพื้นที่สำหรับอ่านหนังสือ หรือบางคนยังนั่งทำงานในห้องนอนด้วยซ้ำ ฉะนั้นการทาสีห้องนอนจึงไม่เพียงเลือกจากสีที่ชอบเท่านั้น ทว่าควรเลือกให้ชาญฉลาด และคำนึงถึงชีวิตประจำวันของตัวเองด้วย
ภาพ: Annie Schlechter
สีของห้องนอนมีผลต่ออารมณ์อย่างไร
ก่อนตัดสินใจเลือกสีห้องนอน ควรคำนึงวัตถุประสงค์ที่ตนเองต้องการ เช่น คุณต้องการตื่นด้วยความสดชื่นและมีพลัง หรือคุณต้องการความผ่อนคลาย และช่วยเรื่องหลับสบายมากกว่า เมื่อรู้สิ่งที่ต้องการแล้ว ขั้นต่อไปคือการเลือกโทนสีโดยจะแบ่งออกเป็นสีโทนอุ่น คือสีที่มีความนุ่มนวล สร้างความรู้สึกอบอุ่น และเป็นกันเอง สีโทนเย็น คือสีที่สร้างบรรยากาศที่สงบ แต่สดชื่นในคราวเดียวกัน และสีอิ่มตัวสูง คือสีที่ให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉง และกระปรี้กระเปร่า หากความต้องการสูงสุดคือห้องนอนที่เงียบสงบ โทนสีที่เป็นกลางหรือสีพื้น เช่น สีขาวนวล สีครีม และสีเทาอ่อน จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าห้องนอนในคอนโดมิเนียม หรืออพาร์ตเมนต์ที่มักเชื่อมกับห้องนั่งเล่นด้วย ก็สามารถเลือกเฉดที่ผ่อนคลายและสดใสในคราวเดียวกันได้ เช่น สีเขียว หรือสีฟ้า เป็นต้น เพราะฉะนั้นการเลือกสีห้องนอนจึงควรเป็นสีที่สามารถเติมเต็มอารมณ์และไลฟ์สไตล์ตามธรรมชาติของตัวเองได้มากที่สุด ซึ่งวันนี้โว้กก็ได้หยิบยกมาแนะนำกันหลากหลายโทนสีไว้ที่ด้านล่างนี้แล้ว
1 / 5
ภาพ: @kroom_inspirations
ห้องนอนสีขาว
การทาสีห้องนอนด้วยสีขาวจะช่วยให้พื้นที่ของห้องมองดูกว้างขวาง โล่งโปร่งสบาย และดูสะอาดตา พร้อมช่วยให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าเมื่อตื่นนอน ในขณะที่ให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลายในช่วงกลางคืน โดยสีขาวยังแบ่งเฉดได้ซึ่งที่นิยมกันมากคือ Warm White สีขาวนวลโทนเหลืองที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น และ Bright White สีขาวสว่างที่จะทำให้ห้องดูโมเดิร์นมากขึ้น นอกจากนี้ข้อดีของการทาห้องนอนด้วยสีขาวคือสามารถจับคู่กับสีต่างๆ ของเฟอร์นิเจอร์ เครื่องนอน หรือผ้าม่าน ได้ง่ายอีกด้วย
2 / 5
ภาพ: Maisons du Monde
ห้องนอนสีครีม
สีครีมเป็นอีกสียอดนิยมไม่แพ้สีขาว และอาจเป็นที่ชื่นชอบโดยเฉพาะชาวมินิมัล เนื่องด้วยสีครีมเป็นโทนสีพื้นที่ละเอียดอ่อน มองดูแล้วสบายตา ทำให้แสงห้องมีความนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ จึงช่วยเพิ่มความสว่างให้กับห้องได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสร้างบรรยากาศของห้องให้สบาย ผ่อนคลาย และอบอุ่นในคราวเดียวกัน นอกจากนี้สีครีมยังสามารถจับคู่กับเฉดสีต่างๆ กับองค์ประกอบอื่นๆ ของห้องให้เข้ากันได้ง่ายอีกด้วย
3 / 5
ภาพ: @dudiduarte
ห้องนอนสีเทา
สีที่มักถูกเข้าใจว่าจะทำให้ห้องนอนดูหม่นเศร้าคือสีเทา แท้จริงแล้วการทาห้องนอนด้วยสีเทา หรือทาผนังด้านใดด้านหนึ่งเป็นสีเทาคู่กับสีขาว จะทำให้ห้องดูสงบ นุ่มนวล และผ่อนคลายมากขึ้น ถือเป็นตัวเลือกสีที่ดีสำหรับทุกห้องในบ้านด้วยซ้ำ และที่สำคัญยังตอบโจทย์เรื่องความหรูหรา ด้วยเพราะเป็นสีที่จะปรับให้ห้องมีความโมเดิร์นมากขึ้น โดยสีเทาจัดอยู่ในตระกูลทั้งโทนอุ่นและโทนเย็น สามารถจับคู่ได้ดีกับหลากหลายสี เช่น ชมพู แดง เขียว น้ำเงิน และขาว
4 / 5
ภาพ: posterstore
ห้องนอนสีเขียว
สีเขียวเป็นสีเอิร์ธโทนที่สงบเงียบ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันก็มีความหลากหลายมากพอที่จะปรับห้องให้ต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง ด้วยสีเขียวสามารถแบ่งได้อีกหลายเฉด ซึ่งแต่ละเฉดก็มอบความรู้สึกที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสีเขียวอมฝุ่น เช่น สีเขียวเซจ สีเขียวมะกอก ซึ่งจะเป็นโทนสีพื้นที่นุ่มนวลให้ความรู้สึกสบายๆ ในขณะที่สีเขียวที่สดใส เช่น สีเขียวน้ำทะเล สีเขียวพาสเทล จะช่วยให้ห้องดูสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า
5 / 5
ภาพ: Adam Albright
ห้องนอนสีชมพูอ่อน
แม้สีชมพูอาจไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆ เมื่อนึกจะทาสีห้องนอน เพราะหลายคนคิดว่าอาจหวานแหววหรือฉูดฉาดมากเกินไป แต่หากสีชมพูเป็นสีโปรดของคุณ ก็ไม่ผิดที่เลยจะเนรมิตผนังห้องให้เป็นสีชมพูแต่อย่างใด ทั้งยังเหมาะสำหรับคนที่มีชีวิตเร่งรีบ เพราะสีชมพูอ่อนจะมาปรับบรรยากาศให้สดใสมากขึ้น รวมถึงจะได้สัมผัสถึงความสงบและอ่อนโยน ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องทาสีชมพูบนผนังทั่วทั้งห้อง อาจทาแค่ด้านหนึ่งก็เพียงพอแล้ว
เผย 5 ไอเดียตกแต่งห้องนอนด้วยสีม่วงเฉดต่างๆ เพื่อปรับห้องให้โมเดิร์นและชวนผ่อนคลาย
