ถ้าจะหาที่จัดงานสักที่ตอนนี้โรงแรมไม่ใช่ทางเลือกเดียวอีกต่อไป ความสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสตูดิโอต่าง ๆ ขยายกรอบตัวเลือกให้กว้างขึ้น ตอนนี้สตูดิโอหรือสถานที่ให้เช่าจัดงานเยอะจนแทบเลือกไม่ถูก แต่บางแห่งก็โดดเด่นเตะตาจนทำให้เราต้องหยุดพิจารณา อย่างเช่น Casa Papa Home & Space ที่รังสรรค์แปลนบ้านเก่าให้มีชีวิตชีวาโดยที่ไม่ทิ้งเอกลักษณ์เดิมที่ทำให้ตัวอาคารโดดเด่น

     เมื่อพูดถึงที่มาของที่แห่งนี้ คุณกานดา สายทุ้ม เจ้าของเผยที่มาของความตั้งใจนี้ว่า "เริ่มจากรากฐานความคิดการทำโรงแรมของคุณพ่อ แต่รูปแบบการทำธุรกิจโรงแรมอาจจะไม่เหมาะเลยลองปรับเปลี่ยนไอเดียมาสู่การเปิดให้เป็นสถานที่เช่า" ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของคาซ่า ปาปาแห่งนี้

บ้านริมน้ำตามการออกแบบของคุณพ่อ 

    ด้วยความที่เริ่มต้นจากไอเดียโรงแรมทำให้สตูดิโอแห่งนี้ถูกสร้างเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบางส่วนแล้ว อย่างเช่นหลังคาและเสาปูน ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นบ้านที่คุณพ่อของคุณกานดาอยู่อาศัยมาก่อน เมื่อถูกปรับมาเป็นสตูดิโอจึงยังคงเสน่ห์ของบ้านริมน้ำไว้ จุดนี้เองทำให้คาซ่า ปาปาเป็นมากกว่าสตูดิโอทั่วไป แต่เปรียบเสมือนบ้านที่แสนอบอุ่นพร้อมให้นั่งทานข้าว ฟังเพลง ชมบรรยากาศรอบๆ ไปจนถึงจัดงานใหญ่เลยก็ยังได้

หน้าต่างทรงโค้งเอกลักษณ์ของ Casa Papa 

    นอกจากคุณกานดาแล้วยังมีอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังสตูดิโอแห่งนี้นั่นคือคุณหรั่ง-สุรศักดิ์ อิทธิฤทธิ์ ซึ่งเป็นคู่คิดตั้งแต่เริ่มต้น โดยเฉพาะในมุมของช่างภาพมืออาชีพซึ่งผ่านโลเคชั่นถ่ายภาพมาแล้วนับไม่ถ้วน จึงทราบดีถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับโลเคชั่นต่าง ๆ ไล่ตั้งแต่เรื่องของช่องแสง และองค์ประกอบปลีกย่อย จึงนำประสบการณ์การถ่ายภาพมาปรับใช้กับคาซ่า ปาปาแห่งนี้จนเป็นสตูดิโอที่โว้กการันตีว่าถ่ายรูปสวยทุกมุมแน่นอน ด้วยกระบวนการคิดฟังก์ชั่นพื้นที่ของคุณกานดา เสริมด้วยการพัฒนาคอนเซ็ปต์ต่อยอดของแต่ละพื้นที่โดยคุณหรั่ง ทำให้พื้นที่ของคาซ่า ปาปามีจุดเด่นที่น่าสนใจในทุก ๆ ส่วน

พื้นลายหินอ่อนที่สวยงามเหมาะกับการถ่ายรูป

     แน่นอนว่าไฮไลต์สำคัญของสตูดิโอย่อมอยู่ที่ดีไซน์ ดังนั้นการออกแบบภาพรวมของสถานที่จึงเป็นจุดสำคัญเบอร์หนึ่ง “ด้วยความที่พี่หรั่งเขาเป็นช่างภาพ ผ่านการถ่ายภาพมาหลายที่ ซึ่งมักเจอโลเคชั่นส่วนใหญ่ที่สวยตาเปล่า แต่อาจจะไม่ได้เอื้อสำหรับการถ่ายรูปเสียทั้งหมด บางที่ติดตรงพื้นไม่สวย แสงเข้าไม่ถึง ต้นไม้ไม่สวยบ้างแหละ มันมักจะมีองค์ประกอบบางอย่างที่ไม่สวยในกล้อง” การออกแบบของคาซ่า ปาปาจึงถูกคิดมาแล้วอย่างดี โดยใช้สีขาวสร้างพื้นที่ให้ดูสว่างสอดรับกับแสง และที่เซอร์ไพรส์คือไม่บ่อยนักที่คนจะให้ความสำคัญกับพื้น แต่ที่นี่จัดลำดับไว้อยู่ต้น ๆ เพราะเชื่อว่าจุดเล็ก ๆ ที่คนมองข้ามก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน

การวางโครงสร้างรูปทรงโค้งเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับ Coconut Room

     อีกหนึ่งคุณสมบัติที่คนมองหาจากสตูดิโอคือการมีหลายห้องหลายอารมณ์ไว้ให้เลือกใช้ได้ตามโอกาส ซึ่งที่คาซ่า ปาปาเองก็มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายส่วนซึ่งให้อารมณ์แตกต่าง แต่ละห้องมีการใช้กระเบื้องปูพื้นและทรงหน้าต่างที่ไม่เหมือนกัน ทำให้แต่ละพื้นที่เชื่อมต่อกันแต่ยังคงให้ความรู้สึกที่หลากหลาย แนวคิดนี้ส่งผลไปถึงชื่อห้อง ความหลากหลายที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งหมดนี้สื่อถึงคุณพ่อของคุณกานดาทั้งสิ้น “เราตั้งชื่อแต่ละห้องตามสิ่งที่คุณพ่อชอบค่ะ อย่างชั้นล่างซึ่งเป็นฝ้าโค้งสีขาวลักษณะเหมือนมะพร้าวเราก็ตั้งชื่อว่า Coconut เพราะคุณพ่อชอบต้นมะพร้าวมาก ส่วนห้องนอนมีระเบียงและลมพัดผ่านเราตั้งชื่อว่า Vanilla เพราะเป็นไอศกรีมรสโปรดของคุณพ่อ ส่วนห้องทำงานของกานดาเองเราใช้พื้นเป็นหินอ่อนสีชมพู ให้ชื่อว่า Red Rose เพราะเป็นดอกไม้ที่คุณพ่อชอบปลูกค่ะ” แสดงให้เห็นว่าความเป็นหนึ่งเดียวกันของสตูดิโอนี้และความอบอุ่นที่ส่งถึงคุณพ่ออย่างเต็มเปี่ยม

สระว่ายน้ำ อีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่

    คาซ่า ปาปาจัดโซนไว้หลากหลายคอนเซ็ปต์เริ่มที่ส่วนแรกเมื่อก้าวเข้ามาที่สตูดิโอแห่งนี้คุณจะพบกับโซนเอาท์ดอร์ หรือส่วนภายนอกของอาคารนั่นเอง ประกอบไปด้วย สวน น้ำพุ สระว่ายน้ำ ต้นไม้ที่คุณพ่อเคยปลูกไว้ถูกผสมผสานเข้ากับต้นไม้ที่นำมาลงใหม่เกิดเป็นความเชื่อมโยงระหว่างกลิ่นอายท้องถิ่นและดีไซน์ร่วมสมัย ส่วนจุดที่โดดเด่นที่สุดของโซนเอาท์ดอร์ภายในสตูดิโอแห่งนี้เห็นจะเป็นสระว่ายน้ำที่ได้แรงบันดาลใจมาจากงานครบรอบของ Armani Beauty ที่มิลาน ประเทศอิตาลี

ซุ้มประตูโค้ง รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่

     นอกจากพื้นที่ด้านนอกแน่นอนว่าสถานที่จัดงานด้านในก็มีลูกเล่นไม่แพ้กัน เริ่มที่ห้อง Coconut Room กับฝ้าทรงโค้งรับกันเป็นช่วงๆ แรงบันดาลใจจากโบสถ์คริสต์ สามารถใช้เป็นโถงจัดเลี้ยงแสนอบอุ่น ส่วน Gallery Room สร้างขึ้นเพื่อจัดนิทรรศการโดยเฉพาะ และยังสามารถปรับเปลี่ยนสำหรับงานอื่นๆ ได้

ส่วน Stairway ที่เห็นพื้นหินอ่อนเรียงเป็นคำว่า CASA PAPA

     Stairway เป็นอีกส่วนไฮไลต์ของที่นี่ซึ่งเป็นจุดเชื่อมทางเดินของตึก ซึ่งเวลามองลงมาจะเห็นหินอ่อนโมเสกคำว่า “CASA PAPA” และเมื่อเดินผ่านไปเรื่อย ๆ จะเห็นสถานที่เกือบทั้งหมดโดยรอบเป็นการชมวิวทั้งตัวตึก ต้นไม้ สระน้ำ สนามหญ้า อุโมงค์ทางเดินยาวด้านล่าง เป็นการรีวิวสถานที่ด้วยตาตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากทางเชื่อมแสนพิเศษแล้วคาซ่า ปาปายังจัดโซน River Side ริมน้ำให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศดั้งเดิมของบ้านริมน้ำในเมืองนครชัยศรีของคุณพ่อด้วย

 

บันไดวนกลาง Espresso Room

     คอนเซปต์ความชื่นชอบของคุณพ่อยังคงเกี่ยวข้องกับแต่ละโซนอยู่ตลอด อย่างส่วนของ Espresso Room ซึ่งมีจุดเด่นคือบันไดวนกลางห้องซึ่งเมื่อแสงส่องเข้ามาทางหน้าต่างจะเกิดเงาทาบสวย เหมือนสีของกาแฟสุดคลาสสิกอย่างเอสเพรสโซ่ที่คุณพ่อชอบ ต่อจากเครื่องดื่มเช้ามาสู่ Martini Room ห้องกระจกใสขนาดกำลังดี คิดมาเผื่อสำหรับการจัดวางรูปในงานอีเวนต์ หรือพรีเซนต์เรื่องราวของคู่บ่าวสาวกรณีจัดงานแต่งงานได้อย่างใกล้ชิด

ระเบียงรับโอโซนริมน้ำจากห้อง Red Rose    

     มาถึงห้องนอนอย่าง Vanilla Room ที่คุณกานดาเกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่าตั้งชื่อตามรสไอศกรีมที่คุณพ่อชอบที่สุด จัดเป็นห้องนอนดูเพล็กซ์ 2 ชั้นและมีชั้นใต้หลังคา เชื่อมด้วยบันไดวนเล็ก สามารถชมวิวริมน้ำ และมีระเบียงนั่งรับลม ถือเป็นจุดโอโซนของสตูดิโอแห่งนี้ และสามารถใช้เป็นห้องสำหรับครอบครัวเพราะนอนได้ 6-8 คนเลยทีเดียว

บรรยากาศภายในห้อง Coconut

    ห้องทำงานกุหลาบแดงของคุณกานดาเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์บิวตี้และของสะสม มีการเปิดพื้นที่กว้างสำหรับการออกกำลังกายอย่างโยคะ หรือหากห้องนอนวานิลลายังไม่ตอบโจทย์ทางคาซ่า ปาปาก็มี Brown Sugar Room ให้อีก 1 ห้อง ห้องเชื่อมต่อชั้น 3 และ 4 ด้วยแพนทรีเล็ก ๆ เมื่อเดินไปถึงชั้น 4 ก็จะพบห้องนอนสุดโรแมนติกที่คุณกานดาตั้งใจออกแบบเพื่อให้บ่าวสาวที่มาจัดงานที่นี่พักผ่อนอย่างเต็มที่ และห้องสุดท้ายอย่าง Eastwood ที่ได้ไอเดียจากชื่อของนักแสดงที่คุณพ่อชอบ เป็นห้องแมน ๆ สำหรับเก็บของสะสมสุดพิเศษของคุณหรั่ง

กันสาดสีน้ำเงินสุดคลาสสิกบริเวณภายใน Casa Papa

     ทั้งไอเดีย คอนเซปต์ ฟังก์ชั่น และงานดีไซน์ทั้งหมดนี้รวมกันสะท้อนถึงตัวตนของทั้งคุณกานดาและคุณหรั่ง ด้วยความสอดคล้องกันตั้งแต่รูปแบบโครงสร้าง สี รายละเอียด และที่สำคัญทั้งคุณกานดาและคุณหรั่งนำไอเดียจากความชื่นชอบของคุณพ่อมาใช้ ซึ่งประกอบกับสิ่งที่คุณพ่อมีไว้ให้แต่แรกคือแปลนที่มั่นคงและบรรยากาศริมน้ำที่สวยงาม ทำให้ทั้งสอง สามารถสร้างสรรค์ไอเดียต่อยอดได้อย่างมีเรื่องราว มีความหมาย และร่วมสมัย   

     ใครที่กำลังมองหาสถานที่จัดงานไม่ว่าจะเป็นอีเวนต์ หรืองานแต่งงาน คาซ่า ปาปาจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ใหม่และน่าสนใจ โดยสนนราคาแพ็กเกจค่าเช่าสถานที่สำหรับงานแต่งเริ่มต้นตั้งแต่ 120,000 – 250,000 สามารถรองรับแขกได้สูงสุดถึง 500 คนพร้อมที่จอดรถ โดยสามารถเข้าไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/casapapa.homeandspace/

1 / 19

2 / 19

3 / 19

4 / 19

5 / 19

6 / 19

7 / 19

8 / 19

9 / 19

10 / 19

11 / 19

12 / 19

13 / 19

14 / 19

15 / 19

16 / 19

17 / 19

18 / 19

19 / 19