desserts
LIFESTYLE

7 เมนูของหวานง่ายๆ ที่หิวเมื่อไรก็ทํากินเองได้ไม่ต้องง้อคาเฟ่

แชร์เมนูจานหวานหน้าตาดี แต่ทำเองได้ง่ายกว่าที่คิด และไม่ต้องใช้เตาอบ

     เมนูของหวานหน้าตาดีที่เห็นได้ตามคาเฟ่หรือร้านเบเกอรี่ที่ดูแล้วเหมือนจะทำยาก จริงๆ แล้วมีหลายอย่างที่ทำได้ง่ายกว่าที่คิด วันนี้โว้กจะมาแชร์ 7 เมนูของหวานง่ายๆ ที่ใครก็ทำเองได้ ใช้วัตถุดิบไม่เยอะ และไม่จำเป็นต้องใช้เตาอบ รับรองว่าน่าอร่อยจนต้องอยากเดินเข้าครัวกันเดี๋ยวนี้เลย! 

desserts

 
1. แพนเค้ก (Pancake)

     แพนเค้กเป็นเมนูที่จะทำเป็นของหวานหรืออาหารเช้าก็ได้ตามที่ต้องการ ส่วนวิธีการทำก็ง่ายมากและใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีเท่านั้น เริ่มจากนำแป้งแพนเค้กสำเร็จรูปมาผสมกับนมและไข่ไก่ให้เข้ากัน (หากไม่มีแป้งแพนเค้กสำเร็จรูป ให้ใช้แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม, น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ และผงฟู 1 ช้อนชา) จากนั้นนำไปหยอดลงกระทะที่ใส่เนยไว้แล้ว กลับลงทั้งสองด้านให้สุกทั่วกัน ตักขึ้นใส่จาน เสิร์ฟพร้อมผลไม้, ไอศกรีม หรือโยเกิร์ต ตบท้ายราดด้วยน้ำผึ้งเพิ่มความหอมหวานน่ารับประทาน

desserts

 
2. เฟรนช์โทส (French Toasts)

     อีกเมนูคลาสสิกที่ใครๆ ก็สามารถทำเองได้ หากจะนำขนมปังมาชุบไข่ทอดเฉยๆ คงจะดูธรรมดาเกินไป เฟรนช์โทสแบบสเปเชียลต้องหน้าตาดีและมาพร้อมท็อปปิ้งแน่นๆ วิธีทำเริ่มจากผสมไข่ไก่, น้ำตาล, ผงชินนาม่อน เกลือ และนมสด ตีให้เข้ากัน จากนั้นนำขนมปังมาจุ่มลงไปในส่วนผสมแล้วพักไว้ประมาณ 5 นาที ใส่น้ำมันในกระทะเล็กน้อยพร้อมนำขนมปังลงทอดจนกว่าจะสุกเหลือง จัดเสิร์ฟโดยแต่งหน้าด้วยผลไม้จำพวกเบอร์รี่ และราดด้วยเมเปิลไซรัปเพิ่มความหวานน่าอร่อย



WATCH




desserts

 
3. บานอฟฟี่พาย (Banoffee Pie)

     บานอฟฟี่เป็นอีกหนึ่งเมนูขนมหวานที่ไม่ต้องใช้เตาอบเหมาะสำหรับมือใหม่หัดเข้าครัว โดยขนมจะมีหลายเลเยอร์เริ่มจากชั้นล่างสุดที่ใช้บิสกิตทุบให้ละเอียดผสมกับเนยจืด แล้วกรุเป็นฐานพาย ชั้นที่ 2 เป็นคาราเมลท็อฟฟี่ โดยการเคี่ยวน้ำตาลทรายจนเป็นสีน้ำตาล เมื่อเย็นแล้วนำมาราดบนแคร็กเกอร์ที่ทำไว้ ชั้นต่อไปนำกล้วยหอมมาจัดเรียงให้สวยงาม สุดท้ายบีบวิปปิ้งครีมปาดให้ทั่ว และโรยด้วยผงโกโก้

desserts

 
4. บลูเบอรี่ชีสเค้ก (Blueberry Cheese Cake)

     สำหรับเมนูนี้เรียกได้ว่าถ้าไปคาเฟ่ทีไรต้องสั่งทุกครั้ง หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ามันทำได้ง่ายจนแทบไม่ต้องวัดตวงวัตถุดิบให้ยุ่งยากเลยด้วยซ้ำ มาเริ่มทำชั้นแรกด้วยการบดแคร็กเกอร์ผสมกับเนยเค็มและกรุเป็นฐาน จากนั้นตีครีมชีสกับนมข้นหวานให้ขึ้นฟู บีบมะนาวเพิ่มความเปรี้ยวลงไปเล็กน้อย แล้วนำมาราดบนแคร็กเกอร์ โปะด้านบนสุดด้วยบลูเบอร์รี่เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย

desserts

 
5. วาฟเฟิล (Waffle)

     ของหวานจานนี้มีหน้าตาเหมือนรังผึ้งด้วยเครื่องทำวาฟเฟิลเพื่อให้รูปลักษณ์ออกมาสวยงามน่ารับประทาน วิธีการทำนั้นก็ง่ายไม่แพ้เมนูอื่นๆ เพียงผสมนม, เนยละลาย, ไข่แดง และกลิ่นวานิลลา หลังจากนั้นจึงร่อนแป้ง, ผงฟู, เบกกิ้งโซดา และเกลือป่นตามลงไป ตีผสมจนเป็นเนื้อเดียวกันและไม่เป็นเม็ด ทาเนยที่เครื่องทำวาฟเฟิลพร้อมเทส่วนผสมลงไป ใช้เวลาอบประมาณ 2 นาทีเมื่อสุกก็นำมาจัดลงใส่จานพร้อมผลไม้ตามชอบ สุดท้ายโรยด้วยไอซิ่งเพิ่มความสวยงามและรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น

desserts

 
6. ป๊อบคอร์นคาราเมล (Caramel Popcorn)

     ป๊อบคอร์นรสหวานถือเป็นรสที่หลายคนต่างนิยมและมักซื้อกันเป็นประจำ แต่หากอยากลองทำด้วยตัวเองก็ไม่ยากเกินความสามารถ เริ่มจากเทน้ำมันพืชลงในหม้อตามด้วยเมล็ดข้าวโพด ใช้ไฟแรงและเขย่าจนเมล็ดข้าวโพดแตกออกเป็นป๊อบคอร์น หลังจากนั้นก็เตรียมทำซอสคาราเมลเอาไว้ด้วยการผสมเนยเค็ม 120 กรัม, น้ำตาลทรายขาว 150 กรัม, คอร์นไซรัป 100 กรัม, เกลือป่น 1/4 ช้อนชา, เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา และกลิ่นวานิลลาเล็กน้อย ตั้งบนไฟอ่อนจนซอสคาราเมลเดือดจึงนำราดบนป๊อปคอร์นที่เตรียมไว้และคลุกเคล้าให้เข้ากัน รับรองว่ารสชาติหวานลงตัวไม่แพ้กับร้านขายป๊อปคอร์นแน่นอน

desserts

 
7. คัสตาร์ดพุดดิ้ง (Custard Pudding) 

     คาราเมลคัสตาร์ดพุดดิ้งเป็นขนมหวานเนื้อเนียนนุ่มเด้ง รสหวานละมุนที่ใครหลายคนชื่นชอบ อีกทั้งสูตรที่เรานำมาแชร์ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ผงเจลาตินให้ยุ่งยาก เริ่มจากเคี่ยวน้ำตาลทรายจนเป็นซอสคาราเมล เทลงใส่ถ้วยหรือพิมพ์ พัก 5 นาทีรอเซ็ตตัว จากนั้นต้มนมจืดและนมข้นจืดด้วยไฟอ่อนจนเดือด หลังจากนั้นก็ผสมไข่ไก่, กลิ่นวานิลลา และน้ำตาลทรายให้เข้ากันแล้วเทส่วนผสมที่เป็นนมตามลงไปพร้อมกับคนให้ต่อเนื่อง เมื่อได้เนื้อที่เข้ากันระดับหนึ่งก็นำมากรองให้เนื้อเนียนขึ้นและใส่ถ้วยที่เตรียมซอสคาราเมลเอาไว้ ขั้นตอนต่อไปคือนำไปนึ่งไม่เกิน 30 นาทีให้พออุ่นๆ ตบท้ายด้วยการนำไปแช่ตู้เย็นให้พุดดิ้งเซ็ตตัวและมาเคาะออกจากถ้วยจัดลงใส่จานพร้อมเสิร์ฟความหวานที่ลงตัว

ภาพ : annabanana, kyleecooks
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim

WATCH

คีย์เวิร์ด: #Desserts