ณ ท่วงทำนองแห่งการเปลี่ยนผ่านของแฟชั่นในแต่ละฤดูกาล การหลอมรวมกันระหว่างอดีตและปัจจุบันรังสรรค์สู่สิ่งใหม่ ความเชื่อมโยงกันระหว่างรูปทรงแห่งอิสตรี ตลอดจนความเชื่อมั่นที่ว่า ศิลปะชั้นสูงแห่งการตัดเย็บเสื้อผ้าคือพันธกิจที่เสกสรรค์ให้สุภาพสตรีรู้สึกซาบซึ้ง และมั่นใจที่จะเผยเอกลักษณ์ของพวกเธอได้อย่างมีอิสระ 

     แบรนด์ SIRIVANNAVARI ได้เผยคอลเล็กชั่น Autumn/Winter ปี 2024-2025  โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ ณ กรุงปารีส ในช่วงปารีสแฟชั่นวีก ทรงนำแรงบันดาลใจแห่งผู้หญิงจากงานศิลปะ ผสานเทคนิคการจับเดรปอันละเอียดอ่อน และความงามสง่าอันทันสมัยแห่งทศวรรษ 1950 ถึง 1960  ถ่ายทอดสู่งานออกแบบแห่งฤดูกาล ที่อุทิศแด่งานฝีมือในด้านการใช้วัสดุผ้า รูปทรงเสื้อผ้าที่เส้นคมชัด โครงสร้างดูทันสมัย คงไว้ด้วยอัตลักษณ์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ได้อย่างชัดเจน เนื้อผ้าบางเบาดูราวกับมีชีวิตขึ้นมาจากการสร้างซิลูเอตใหม่ที่พลิ้วไหวและราบเรียบ ความขัดแย้งระหว่างวอลุ่มและรูปทรงเพรียวชะลูด ที่มาพร้อมกับความโค้งเว้าและเส้นสายอันคมชัด ขับเน้นสรีระของผู้สวมใส่ ภาพวาดฝีพระหัตถ์ถูกตีความและดัดแปลงเป็นงานปักสามมิติแห่งช่างฝีมือชั้นครู ลวดลายบนผ้า ไปจนถึงเครื่องประดับ นำเสนอกลิ่นอายของวัฒนธรรมไทยอย่างแยบคาย  ผ่านรูปดอกไม้ไทย ไม่ว่าจะเป็น ดอกปีป ดอกกระดังงา ดอกพุดซ้อน ดอกกลีบลำดวน  โก้หรูและมีเสน่ห์ดุจงานศิลปะบนผืนผ้า 

     งานฝีมือช่างแห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ได้เผยให้เห็นถึงความสามารถในด้านการปักเป็นลวดลายดอกไม้ที่ต่อยอดมาจากภาพฝีพระหัตถ์ขององค์ดีไซเนอร์ ทำให้ผลงานการสร้างสรรค์ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น เนรมิตให้ดอกไม้มีสามมิติจากเส้นด้ายอันบอบบาง ลูกปัด คริสตัลและวัสดุที่เปล่งประกายดั่งงานศิลปะนูนต่ำที่ถูกชุบชีวิตขึ้นจากงานหัตถศิลป์อันประณีต

     ในอีกแง่มุมหนึ่งนั้น คอลเล็กชั่น Autumn/Winter ประจำปี 2024-2025 ได้ผสมผสานความงามสง่าไร้กาลเวลา ผ่านเทคนิคการจับเดรปตามขนบและเสน่ห์แห่งงานร่วมสมัย ผลงานแต่ละชิ้นตกแต่งด้วยลวดลายอันเปล่งประกายไปจนถึงจีบผ้าที่ลดหลั่นลงมาล้วนได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างวิจิตรบรรจงเพื่อเสริมสรีระของสุภาพสตรีให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยการใช้วัสดุนานาชนิด เช่น หนัง, ผ้าวูล, ผ้าซาติน ไปจนถึงผ้าเดนิม ในโทนสีที่เสริมรับกัน ทั้งสีเบอร์กันดี, สีเทา, สีดำ และสีน้ำเงิน  กางเกงขายาว แจ็คเก็ตหนัง และแขนเสื้อ ล้วนมีวอลุ่มและแฝงไว้ด้วยเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมไทยผ่านคอปกตั้งและคอกลม เผยให้เห็นถึงแรงบันดาลใจจากทศวรรษ 1950 ผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่าง ไอริสแจ็คเก็ต (IRIS Jacket)  สวมกับกระโปรงทรงดินสอ หรือกางเกงปลายขาบาน ถ่ายทอดให้เราเห็นถึงภาพสเก็ตช์จากฝีพระหัตถ์ขององค์ดีไซเนอร์ วัสดุคุณภาพเยี่ยมอย่างหนัง ผ้าวูล ผ้าซาติน และผ้าเดนิม ได้รับการสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันเพื่อเสริมให้ทรวดทรงของสุภาพสตรีดูโดดเด่นด้วยรายละเอียดอันประณีต ขับเน้นสรีระอันโค้งเว้าและเส้นสายที่คมชัด

     ในส่วนของเครื่องหนัง กระเป๋าและรองเท้า งานออกแบบที่ต่อเนื่องมาจากคอลเล็กชั่นฤดูใบไมเผลิ/ฤดูร้อนที่ผ่านมา ปรับช่วงสายให้สั้นกระชับขึ้น เติมลูกเล่นสายโลหะล้อกับสายนาฬิกาข้อมือ ดูโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น  รูปทรงโมเดิร์นคลาสสิค ทรงแข็ง มาใน สองรูปแบบ คือทรงบัคเก็ต (Bucket)  และทรงเกือกม้า (Satchel-Saddle)  นำเสนอในเฉดสีประจำฤดูกาล แม็ตช์กับเสื้อผ้าได้ในทุกโอกาส เหมาะสำหรับถือหรือสะพายไหล่ 

     ปิดท้ายคอลเล็กชั่นเครื่องประดับ ที่ได้แรงบันดาลใจจากศิลปะแนวคิวบิสม์ (Cubism Art) นำมาสู่ชิ้นงานอันน่าปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ และแหวนสีทองแต่งแต้มด้วยสีขาวของเซรามิค ภายใต้รูปทรงที่ดูแตกต่างออกไป เครื่องหน้าในแบบงานศิลปะคิวบิสม์ ได้กลายไปเป็นเครื่องประดับคู่ใจแห่งฤดูกาลนี้ สร้อยคอและสร้อยข้อมือเหล็กยืด มาพร้อมลูกเล่นเปลี่ยนเติมจี้ได้ ลูกและกระเป๋าหนังทรงคลาสสิคถูกตกแต่งด้วยอะไหล่

     คอลเล็กชั่น Autumn/Winter 2024-2025 เอกลักษณ์ในงานออกแบบขององค์ดีไซเนอร์ ที่เผยถึงอัจฉริยภาพในด้านความคิดสร้างสรรค์ในการต่อยอดและพัฒนาชิ้นงาน แต่ละองค์ประกอบในงานออกแบบต่างเติมเต็มซึ่งกันและกัน มีความเป็นมาที่หลากหลายและเผยถึงวัฒนธรรมแฟชั่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ