Mango, Mango Thailand, Mango สาขา, Mango central world
FASHION

เปิดโลกแฟชั่นแสนอิสระของ “Mango” ที่มุ่งเน้นทั้งเรื่องไลฟ์สไตล์และสิ่งแวดล้อมอย่างลงตัว

เมื่อมิติเรื่องไลฟ์สไตล์กลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนยุคใหม่นำเสนอแฟชั่นในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป Mango จึงเปรียบดั่งตัวกลางที่ตอบสนองความต้องการจากมิติต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ

     ท่ามกลางควาสนุกของแฟชั่น ผิวนอกอันงดงามประกอบด้วยการถ่ายทอดตัวตนที่ล้ำลึกถึงเบื้องลึกข้างในของแต่ละคนอย่างชัดเจน ดังนั้นการส่งเสริมให้แฟชั่นเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาตัวเอง ไม่เพียงแต่ทำให้เห็นว่ามีสไตล์เฉพาะตัวเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกความเป็นตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ที่สุด ในยุคสมัยที่ความทันสมัยไม่ใช่เรื่องของการสวมใส่อะไรตามกระแสหรือละม้ายคล้ายคลึงกันเสียหมด Mango จึงเป็นอีกแบรนด์ที่เล็งเห็นในเอกลักษณ์ของแฟชั่นอันมีรูปแบบเฉพาะตัว พร้อมทั้งโอบอุ้มเรื่องฟังก์ชั่นให้ไปในทำนองคลองเดียวกันอย่างลงตัว

     ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมาแบรนด์แมงโก้เปิดร้านสาขาใหม่ ณ เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 โซนอีเดน มาพร้อมกับสไตล์การตกแต่งร้านแบบเมดิเตอร์เรเนียน อันสะท้อนถึงรูปแบบแฟชั่นที่สอดคล้องตามภูมิประเทศและภูมิอากาศของไทยพอดิบพอดี ซึ่งนอกจากนี้จะมีความสอดคล้องกันในเชิงรูปธรรม ยังมีความสอดคล้องกันเชิงนามธรรมกับมิติการนำเสนอความสวยงามในสไตล์ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีทั้งเรื่องความอบอุ่น คุณภาพวัสดุ และพื้นผิวที่ให้อารมณ์ความรู้สึกเฉพาะ นอกจากนี้เรื่องรายละเอียดเบื้องหลังยังสรรสร้างเพื่อตอบโจทย์ความแตกต่างหลากรูปแบบ ดีไซน์ของร้านที่มีรากฐานแบบเมดิเตอร์เรเนียนจึงสามารถเป็นดั่งศูนย์กลางการถ่ายทอดตัวตนผ่านคำว่าแฟชั่นของแมงโก้อย่างแท้จริง ซึ่งคอลเล็กชั่นประจำเดือนเมษายน ถึง พฤษภาคมนี้จึงเต็มไปด้วยความสวยงามที่สอดประสานกับรสนิยมการสวมใส่เสื้อผ้าของคนยุคใหม่พอดิบพอดี

     ความโดดเด่นของเสื้อผ้าแมงโก้นั้นคือการเปิดโอกาสให้ผู้สวมใส่ได้มีโอกาสสรรสร้างสไตล์ของตัวเองด้วยแนวคิดมิกซ์แอนด์แมตช์แบบเฉพาะตัว เพราะอย่างในคอลเล็กชั่น Formal Tropical ที่มุ่งเน้นลายพิมพ์ดอกไม้ นำเสนอแฟชั่นอันเรียบง่าย พร้อมเปิดประตูความหลากหลายเรื่องการใช้เนื้อผ้าเบาสบายก็สามารถผสมผสานกันในตัวเองอย่างลงตัว ในขณะที่ Pink Effect ก็มีการหยิบจับโทนสีชมพูมารื้อสร้างและผสมผสานจนเกิดความสดใหม่ เต็มไปด้วยสีสันตั้งแต่หัวจรดเท้า Natural Tones กับการหยิบจับสีโทนอุ่นอันเป็นรากฐานของแฟชั่นมาเพิ่มเติมรายละเอียดและการเลือกใช้ผ้าลินินอย่างเหมาะสม ตัดกันกับ Blue Shades ที่เลือกใช้สีน้ำเงินอันเป็นสีโทนเย็นตอบสนองความต้องการด้วยสีสันหลากเฉด ลายพิมพ์ และการสร้างความเข้ากันอย่างกลมกลืนด้วยสีขาว ปิดท้ายด้วย Effortless ความไม่ต้องพยายามในเรื่องแฟชั่น สามารถจบลุคได้ด้วยไอเท็มเรียบง่ายที่สอดแทรกรายละเอียดแบบเหมาะเจาะไม่เรียบแบนหรือหวือหวาจนเกินไป



WATCH




     แม้แต่ละคอนเซปต์จะมีจุดเด่นเฉพาะตัว แต่การเลือกใช้โทนสีอย่างชาญฉลาดผ่านวงล้อสีอันเป็นส่วนสำคัญในโลกศิลปะ รวมถึงการออกแบบลายให้ออกมาในจังหวะที่เหมาะสมทำให้เสื้อผ้าของแมงโก้สามารถนำมาสไตลิ่งมิกซ์แอนด์แมตช์จนเกิดลุคที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังผสมผสานระดับความทางการของเสื้อผ้าให้ออกมาเหมาะสำหรับทุกโอกาสตามความตั้งใจของผู้สวมใส่เสมอ และยังปรับเปลี่ยนสไตล์ได้อย่างอิสระ แมงโก้จึงเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถหยิบจับเสื้อผ้าแคชชวลเต็มรูปแบบเรื่อยไปจนถึงไอเท็มที่แทรกซึมในงานกึ่งทางการได้อย่างไม่ประดักประเดิด นอกจากนี้ยังจัดสรรลุคเก๋สำหรับทริปไปเที่ยวหรือไปปาร์ตี้ได้อย่างไร้ข้อจำกัด ตรงจุดนี้ที่กลายเป็นสิ่งชูโรงสอดประสานกับคอนเซปต์ “Style Stay Last” มั่นใจในความเป็นตัวเรา เพราะสไตล์ที่ใช่จะคงอยู่ตลอดไป เพราะฉะนั้นการค้นหาสไตล์ที่ใช่ไปกับความหลากหลายโดยไม่ละทิ้งทั้งเรื่องความสวยงาม ฟังก์ชั่นการใช้งาน หรือโอกาสในการสวมใส่ไปกับแมงโก้จึงเป็นคำตอบของแฟชั่นอันไร้กรอบในโลกยุคปัจจุบันได้อย่างยอดเยี่ยม

     ทั้งนี้ทั้งนั้นแมงโก้ยังเปิดแนวทางของผู้หญิงตามตำราให้เราได้ค้นหาตัวเองกันอย่างเห็นภาพ ไม่ว่าจะเป็น IDEAL ที่ใส่ใจเรื่องคุณภาพพร้อมสะท้อนตัวตนแบบเฉพาะเจาะจงผ่านสิ่งที่พวกเธอสวมใส่ Casual Chic นำเสนอความเรียบง่ายแต่สามารถโดดเด่นไปพร้อมกับความสนุกสนานในการใช้ชีวิต Lady หญิงสาวผู้หลงใหลในความอมตะเหนือกาลเวลาที่ตอบสนองความหรูหราแบบไม่ต้องหวือหวา และ Wow คือตัวแทนความสนุกของผู้หญิงที่ต้องการค้นหาอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ การทดลองกับแฟชั่นจึงไม่ใช่ข้อยกเว้น แม้จะมีการยกตัวอย่างคาแร็กเตอร์ในแบบฉบับของแบรนด์ ทว่าแบรนด์ก็เปิดกว้างเสมอ เพราะสุดท้ายผู้หญิงสามารถหยิบจับตัวตนในแต่ละด้านมาผสมผสานกัน บางครั้งเราไม่ได้ตรงกับเส้นแบ่งเป๊ะๆ เสมอไป บางครั้งเราก็ต้องหยิบจับส่วนที่ใช่มาประกอบกันจนสามารถสะท้อนความเฉพาะเจาะจงอันเกิดจากตัวเราได้ดีที่สุด

     และแน่นอนว่าหากพูดถึงสไตล์และแฟชั่นในยุคใหม่ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือความยั่งยืน ซึ่งแมงโก้มุ่งเน้นเสมอเรื่องความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ โดยแบรนด์ไม่เพียงแต่หยิบจับวัสดุรักษ์โลกมาใช้ แต่ยังใส่ใจเกี่ยวกับประเด็นนี้แบบรอบด้าน ทั้งการพัฒนาการรีไซเคิล การเลือกใช้วัสดุที่ส่งผลต่อธรรมชาติค่อนข้างน้อย รวมถึงการเริ่มแนวทางการออกแบบหมุนเวียนเพื่อตอบโจทย์การผลิตอันสอดประสานไปกับสถานการณ์โลกยุคปัจจุบัน นอกจากนี้แมงโก้ยังเปิดเผยความโปร่งใสเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลการผลิตอันมั่นใจได้ว่าเป็นกระบวนการทางแฟชั่นที่ใส่ใจความยั่งยืนแบบตรงไปตรงมา โปรเจกต์รีไซเคิลที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถถ่ายของที่ไม่ต้องการแล้วเพื่อยืดอายุการใช้งานไม่ให้ตกเป็นของเปล่าประโยชน์ มากไปกว่านั้นยังใส่ใจไปจนถึงเรื่องขนส่งซึ่งลดความเสียหายอันกระทำต่อโลกอย่างใส่ใจที่สุด และที่ขาดไม่ได้คือความยั่งยืนอันหมายถึงการพัฒนาชุมชนให้มีส่วนร่วมกับกลไกการทำงานของแบรนด์ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อสรรสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งเชิงสังคมและเศรษฐกิจกับคนท้องถิ่น นับเป็นแบรนด์ที่สามารถนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้อย่างลึกซึ้งและมีจุดมุ่งหมายความตั้งใจชัดเจน

     และเมื่อทุกองค์ประกอบจากแมงโก้สามารถดึงดูดผู้สวมใส่ แบรนด์จึงออกแคมเปญ Style Challenge ที่เปิดโลกแห่งความสร้างสรรค์ให้เห็นถึงสไตล์อันหลากหลายและเฉพาะตัวจากเสื้อผ้าของแบรนด์ที่ชูจุดเด่นเรื่องการปรับใช้และมิกซ์แอนด์แมตช์อย่างเต็มที่มาโดยตลอด ใครสนใจสามารถร่วมถ่ายภาพแฟชั่นในแบบของตัวเอง และติด #MangoTogether และแท็ก @Mango ไปด้วยกัน เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะสื่อสารว่า “Style Stay Last” แม้เสื้อผ้าจะเปลี่ยนไป แต่สไตล์ของแต่ละคนนั้นถูกนำเสนอผ่านเสื้อผ้าที่แตกต่างกันได้เสมอ และนี่อาจจะเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้แฟชั่นของแมงโก้ลื่นไหลไปได้ตลอด เพราะถ้าหากนึกถึงการถ่ายทอดตัวตนอย่างอิสระ แฟชั่นเป็นส่วนสำคัญเสมอ และแมงโก้ก็เป็นแบรนด์แฟชั่นที่ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้อย่างน่าสนใจ ไม่เพียงแต่สไตล์ความสวยงาม แต่ยังหมายถึงไลฟ์สไตล์อันสอดประสานกับแฟชั่นเน้นฟังก์ชั่นอันแตกต่างด้วยเช่นกัน 

WATCH

คีย์เวิร์ด: #Mango