‘การผนวกแฟชั่น ศิลปะ วัฒนธรมเข้าด้วยกัน’ ประโยคข้างต้นคงทำให้ใครหลายคนนึกถึงแบรนด์แฟชั่นระดับโลก CHANEL ที่หมั่นนำเสนอผลงานอันผสานความสวยงามร้อยเรียงผ่านวัฒนธรรมและศิลปะอยู่เสมอ และล่าสุดได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ทางวัฒนธรรมอีกครั้ง ผ่านแคมเปญวรรณกรรมระดับนานาชาติ ‘Les Rendez-vous littéraires rue Cambon’ ซึ่งจัดขึ้นที่สถานที่ประวัติศาสตร์อันเป็นหัวใจของชาเนลอย่างตึกเลขที่ 31 ถนนกัมบง ณ กรุงปารีส ซึ่งงานนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเฉลิมฉลองแฟชั่น หากแต่เป็นการบรรจบกันของศิลปะ วรรณกรรม และตัวตนของผู้หญิงสมัยใหม่ โดยมีแขกรับเชิญพิเศษคนล่าสุดจากประเทศไทยคนแรกอย่าง ‘เบ็คกี้–รีเบคก้า แพทริเซีย อาร์มสตรอง’ นักแสดงและศิลปินหญิงที่กำลังได้รับความสนใจจากเวทีแฟชั่นโลกในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของชาเนลอีกด้วย
ทั้งนี้ Les Rendez-vous littéraires rue Cambon ถือเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่สะท้อนปรัชญาของมาดมัวแซล Coco Chanel อย่างชัดเจน เพราะนอกจากเธอจะเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าแล้ว เธอยังหลงใหลในหนังสือ ศิลปะ และบทกวีเป็นชีวิตจิตใจ แคมเปญนี้จึงก่อตั้งขึ้นเพื่อให้ทั้งโลกประจักษ์ว่าแฟชั่นและวรรณกรรมไม่ใช่ศาสตร์ที่ขัดแย้งหรือเดินทางเป็นเส้นขนาน ทว่าทั้งสองเกื้อหนุนกันได้อย่างงดงาม การเชื้อเชิญนักแสดง นักเขียน และศิลปินจากทั่วโลกมานั่งพูดคุย อ่านบทกวี และแลกเปลี่ยนแรงบันดาลใจภายในห้องอ่านหนังสือส่วนตัวของชาเนลที่ชั้นบนของบูติกนั้นเปรียบเสมือนการรื้อความเข้าใจที่จำกัดบทบาทของแฟชั่นให้กลายเป็นพื้นที่สนทนาแห่งวัฒนธรรม
เบ็คกี้เข้าร่วมแคมเปญในฐานะตัวแทนหญิงสาวยุคใหม่ที่ไม่เพียงเป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกอ่อนหวานและภาพลักษณ์ทันสมัย หากยังมีความลึกซึ้งด้านความคิดและศิลปะอันสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของชาเนลอย่างชัดเจน ครั้งนี้เธอได้รับหน้าที่ในการอ่านบทกวีฝรั่งเศสร่วมสมัย พร้อมทั้งสนทนาเกี่ยวกับมุมมองที่แฟชั่นเชื่อมโยงกับอารมณ์ ความทรงจำ และสุนทรียะของวรรณกรรมท่ามกลางแสงไฟอันอบอุ่นและกลิ่นหนังสือเก่าในห้องบรรยากาศคลาสสิก เบ็คกี้แสดงออกถึงความมั่นใจจนกลายเป็นจุดสนใจของเหล่าสาวกที่กล่าวถึงเธอในฐานะตัวแทนวัฒนธรรมเอเชียที่มีความลุ่มลึก รวมถึงสะท้อนหลายประเด็นสำคัญทั้งในเชิงแฟชั่น สังคม และวัฒนธรรมระดับโลกในการเข้าร่วมแคมเปญในครั้งนี้

การเปลี่ยนผ่านของ “บทบาทแบรนด์แอมบาสเดอร์” จากภาพสู่เนื้อหา
เบ็คกี้ไม่ใช่เพียงโมเดลหรือผู้สวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทว่าเป็นผู้แทนด้านวัฒนธรรมและความคิดที่ถูกคัดเลือกให้ร่วมแลกเปลี่ยนในงานวรรณกรรมระดับสูงของยุโรปซึ่งต้องการบุคคลที่มีคุณสมบัติเกินกว่าความสวยงามหรือชื่อเสียง การที่ชาเนลเชิญเธอร่วมงานครั้งนี้จึงเท่ากับเป็นการยอมรับว่าเธอมีความลึกซึ้ง มีความเข้าใจในศิลปะ และสามารถสนทนาเชิงวรรณกรรมได้อย่างมีสาระ สมเกียรติแก่ภาพลักษณ์ของแบรนด์แอมบาสเดอร์ยุคใหม่ที่ “มีความคิด มีเสียง และมีคุณค่า”
สะท้อนความเปิดกว้างทางวัฒนธรรมของโลกแฟชั่น
นี่เป็นครั้งแรกที่มี “คนไทย” และเป็นหญิงสาวเชื้อสายไทย–อังกฤษเข้าร่วมแคมเปญที่มีพื้นฐานจากวรรณกรรมฝรั่งเศสระดับสูง ซึ่งถือเป็นการรื้อภาพจำว่าโลกศิลปะยุโรปสงวนไว้แค่กับคนในทวีปเดียว การเชิญเบ็คกี้เข้าร่วมจึงเป็นการเปิดพื้นที่ให้เสียงจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับการรับฟังในวงสนทนาระดับสูง และยืนยันว่าแฟชั่นในศตวรรษนี้ไม่ถูกแบ่งแยกโดยชาติพันธุ์อีกต่อไป
บทพิสูจน์ของ Soft Power ไทย
แม้ไม่ได้ถือสัญชาติฝรั่งเศสหรือเป็นนักแสดงฮอลลีวู้ด เบ็คกี้ก็สามารถสร้างคุณค่าให้กับตัวเองผ่านการแสดงออกเชิงศิลปะในระดับสากล และสิ่งนี้คือภาพแทนของ “Soft Power ไทย” ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชนะเวทีระดับโลกเสมอไป แต่เป็นผู้ที่ใช้ศิลปะ วรรณกรรม ภาษา และความเป็นตัวเองสื่อสารกับโลกได้อย่างมีคุณค่าและสง่างาม บทบาทของเธอในครั้งนี้จึงสะท้อนพลังที่นุ่มนวลแต่น่าเกรงขามของคนไทยรุ่นใหม่อย่างแท้จริง
ภาพลักษณ์ของผู้หญิงเอเชียยุคใหม่
ไม่เพียงเท่านั้นเบ็คกี้ยังนำเสนอมุมมองของ “ผู้หญิงเอเชีย” ที่ไม่จำกัดอยู่ในกรอบของความน่ารักหรืออ่อนหวานเท่านั้น แต่มีความคิด มีเสียงคิดเห็น มีความมั่นใจ และสามารถมีบทบาทในพื้นที่ทางวัฒนธรรมชั้นสูงของโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ เธอจึงเป็นต้นแบบใหม่ของ “ผู้หญิงเอเชียรุ่นใหม่” ที่ไม่เพียงเป็นผู้ตามเทรนด์ แต่เป็นผู้นำความหมายใหม่ของคำว่า “สวยและฉลาดด้วยความคิดและไหวพริบ” ไปพร้อมกัน
การสร้างสะพานระหว่างไทย–ยุโรป ผ่านวรรณกรรมและศิลปะ
การมีส่วนร่วมของเบ็คกี้ในกิจกรรมที่เน้นการอ่านบทกวีและการสนทนาเชิงวรรณกรรมชี้ให้เห็นว่า ภาษาและศิลปะสามารถเชื่อมโยงผู้คนข้ามวัฒนธรรมได้โดยไม่ต้องพึ่งเพียงภาพลักษณ์ภายนอก เธอเปรียบดั่งสะพานเชิงวัฒนธรรมที่แสดงให้โลกเห็นว่าคนไทยรุ่นใหม่ก็มีความหลงใหลวรรณกรรม รักศิลปะ และมีมุมมองต่อชีวิตที่งดงามไม่แพ้ใครในโลก
กล่าวมาถึงตรงนี้แล้วเบ็คกี้ในฐานะเฮาส์แอมบาสเดอร์ไทยแห่งชาเนลคนแรกในแคมเปญนี้ไม่ได้เพียงแค่เข้าร่วม แต่เธอเปลี่ยนนิยามว่าผู้หญิงไทยจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะสามารถยืนหยัดในพื้นที่ของศิลปะยุโรปด้วยความงาม ความคิด และวุฒิภาวะอย่างทรงพลัง รวมถึงกลายเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่กล้าจะมีบทบาทและทรงอิทธิพลในแวดวงศิลปะและแฟชั่นแห่งยุคอย่างแท้จริง
ตามไปอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่บทความ ‘เบ็คกี้-รีเบคก้า’ ร่วมแบ่งปันหนังสือเล่มโปรดใน Les Rendez-vous littéraires rue Cambon จาก CHANEL

‘เบ็คกี้-รีเบคก้า’ ร่วมแบ่งปันหนังสือเล่มโปรดใน Les Rendez-vous littéraires rue Cambon จาก CHANEL

เผยเบื้องหลังโชว์ CHANEL Métiers d'art 24/25 ที่เป็นการรวมช่างฝีมือชั้นครูจาก Maisons d'art ณ le19M

รวมภาพแบรนด์แอมบาสเดอร์ CHANEL ชาวไทย ที่งานเปิดตัวนาฬิกา J12 BLEU สุดเอ็กซ์คลูซีฟ!

เปิดประสบการณ์ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ CHANEL ของ ‘เบ็คกี้-รีเบคก้า’ ณ ปารีสแฟชั่นวีก

