พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีประเทศสหรัฐอเมริกาของ Joe Biden มีแขกสำคัญกลุ่มหนึ่งเลือกสวมชุดโทนสีม่วงมาร่วมงานกันโดยมิได้นัดหมาย หลายคนสงสัยว่าทำไมต้องเป็น “สีม่วง” มันเป็นเพียงเหตุผลด้านความสวยงามอย่างเดียวหรือไม่ เราสามารถตอบได้ทันทีว่าไม่ เพราะสีม่วงนั้นมีนัยยะสำคัญซ่อนอยู่ และถือเป็นการประกาศข้อความบางอย่างให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันของประเทศอีกด้วย แต่ทำไมต้องเป็นสีม่วงโว้กจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันที่ด้านล่างนี้เลย

บรรยากาศพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของ Joe Biden / ภาพ: J. Scott Applewhite/AP

     เราได้เห็นทั้ง Kamala Harris รองประธานาธิบดีหญิง, Dr.Jill Biden สตรีหมายเลขหนึ่งในวันที่เดินทางมาถึงกรุงวอชิงตันดีซี และ Michelle Obama อดีตสตรีหมายหนึ่งในชุดสีม่วงกันทั้งหมด ถ้าจะพูดถึงเรื่องความสวยงามกันก่อนต้องบอกว่าสีม่วงเป็นสีที่ทั้งโดดเด่นและกลมกลืนในเวลาเดียวกัน โทนอันหลากหลายทำให้แม้จะมีสีม่วงเยอะแยะละลานตาแต่ก็ยังผลักความสวยงามโดดเด่นออกมาได้ โทนสีที่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไปสามารถผสมผสานกับชุดรูปแบบต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ในแง่ความโดดเด่นนั้นสีม่วงยังยากที่จะหาสีไหนมากลบความเฉพาะตัวของมัน อีกทั้งมันยังเป็นสีที่ไม่ได้นิยมมากมายในการใส่ในชีวิตประจำวันมากนัก เพราะฉะนั้นสีม่วงในแง่ความสวยงามจึงเป็นการผสมผสานระหว่างความโดดเด่นและกลมกลืนในตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม

Kamala Harris (ขวา) ในโททัลลุคสีม่วงจาก Christopher John Rogers / ภาพ: Patrick Semansky/AFP

     ทว่าประเด็นสำคัญของสีม่วงในช่วงสำคัญแบบนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องความสวยงาม ความหมายที่ซ่อนอยู่สามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่ามีความหมายแค่ไหน ความหมายแรกคือการผสานความสามัคคีกันระหว่าง 2 ขั้วการเมือง ถ้าติดตามการเมืองสหรัฐอเมริกาจะเห็นว่าสีม่วงเป็นผลลัพธ์ของการผสมกันของสีแดงและน้ำเงิน ซึ่งหมายถึงสีแดงของพรรครีพลับลิกันและสีน้ำเงินของพรรคเดโมแครตนั่นเอง ความหมายโดยนัยนี้สะท้อนถึงความต้องการให้สหรัฐอเมริกาสมัครสมานสามัคคีกัน ไม่ว่าจะสนับสนุนขั้วใดแต่เมื่อผสมกันเป็นสีม่วงแล้วก็จะมุ่งหน้ามองอนาคตเพื่อประเทศชาติต่อไป กามาลา แฮร์ริสเองก็ใช้ความหมายของสีม่วงนี้แสดงตัวตนออกมาโดยยึดหลักความกลมเกลียวกันของอเมริกายุคใหม่ในอนาคตที่คาดหวังจะให้เกิดขึ้น

Michelle Obama อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งในลุคสีม่วงอมแดงจากแบรนด์ Sergio Hudson พร้อมกับ Barack Obama อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา / ภาพ: Yahoo

     “สีม่วงคือสีสัญลักษณ์ของการปลุกระดมเพื่อใช้สิทธิ์ใช้เสียง” แน่นอนว่าประเทศผู้นำประชาธิปไตยอย่างสหรัฐอเมริกานั้นให้ความสำคัญอย่างมากต่อการเลือกตั้ง และสีม่วงนี้เองที่เป็นสัญลักษณ์การเคลื่อนไหวของ “Suffragette” หรือ “กลุ่มผู้หญิงที่ปลุกระดมให้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง” สีม่วงในแง่นี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นหาการผลิบานของประชาธิปไตยในประเทศ มากไปกว่านั้นสีม่วงยังมีความหมายถึงความจงรักภักดี มุ่งมั่นในจุดมุ่งหมาย และความเสถียรมั่นคง ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารประเทศ เพราะเหตุผลนี้สีม่วงในความหมายดังกล่าวจึงมีสาระสำคัญในแง่ของการเมือง

Jill Biden กับเสื้อโค้ตสีม่วงอันโดดเด่นในวันที่เดินทางมาถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. / ภาพ: Chip Somodevilla

     สุดท้ายจะเห็นได้ว่าหลายคนให้ความสำคัญกับการเลือกสีอย่างพิถีพิถันเพื่อสะท้อนนัยยะซ่อนเร้นโดยใช้ความหมายของสีเพื่อแสดงจุดยืนและความมุ่งหวังถึงอนาคตอันพัฒนาก้าวหน้าของประเทศ แม้สีจะเป็นแค่ตัวแทนคำพูดที่สวยงามและน่าสนใจเวลาเดียวกันแต่แน่นอนว่าการตีความอย่างลึกซึ้งทำให้มันเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ขึ้นมา เช่นเดียวกับการสร้างผลงานเพื่อพัฒนาประเทศของประธานาธิบดี ทุกคนต่างต้องการให้โจ ไบเดนประสบความสำเร็จตามแนวทางความหมายของสีม่วง ทั้งหมดทั้งมวลสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการใส่ใจรายละเอียด ศึกษาประวัติศาสตร์ถึงรากลึก และเลือกใช้สิ่งต่างๆ แทนข้อความภายในใจโดยไม่ต้องเอ่ยปากคือความพิเศษในการแสดงออกในวันแห่งประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ต้องยอมรับว่าปีนี้สีม่วงมีบทบาทมากมายในสังคมโดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างแท้จริง

 

ข้อมูล: Vogue US, The Zoe Report, Hollywood Life, News Opener, okayplayer, และ USA Today