FASHION

อีกด้านของนางมาร...ทำความรู้จัก Anna Wintour อีกครั้ง ในบทบาท 'แม่' ที่หลายคนมองข้าม!

นี่คืออีกมุมหนึ่งของนางมารแห่งวงการแฟชั่น ที่เธอเคยยอมรับเองกับปากว่า 'ลูกคือจุดอ่อนสำคัญของเธอ'

     ไม่มีใครในวงการแฟชั่นไม่รู้จัก Anna Wintour สุภาพสตรีวัย 71 ปี ที่ไม่เคยหายหน้าไปจากฟรอนต์โรว์ของแฟชั่นโชว์อเมริกา เธอคือผู้กุมบังเหียนนิตยสารแฟชั่นระดับโลกอย่างโว้กอเมริกามาอย่างยาวนานกว่า 33 ปี ความเข้มงวด และความจริงจังในหน้าที่การงานของแอนนา กลายเป็นที่จับจ้องตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอก้าวเข้ามารับตำแหน่งบรรณาธิการบริหารนิตยสารแฟชั่นหัวตำนานเต็มตัว ซึ่งนั่นเองคือจุดเริ่มต้นของสมญานาม “Nuclear Wintour” แอนนาคือระเบิดทำลายล้างภาพจำของอุตสาหกรรมแฟชั่นโลกเก่าให้หายไปอย่างสิ้นซาก พร้อมนำมาซึ่งปรากฏการณ์หวือหวาครั้งใหม่ให้กับคนแฟชั่นทั่วโลกได้สัมผัส ตั้งแต่การสถาปนาวัฒนธรรมเซเลบริตี้บนปกนิตยสารแฟชั่น จนกลายเป็นเทรนด์ที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน หรือแม้แต่การรื้อสร้างเสื้อผ้าเหนือจินตนาการบนหน้านิตยสารแฟชั่นให้คนอ่านเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ก็เป็นฝีมือการปฏิวัติของสุภาพสตรีผมบ็อบหน้าม้าคนนี้เช่นเดียวกัน

     ตลอดเวลาหลายทศวรรษบนบังเหียน แอนนาคือผู้หญิงที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นแบบของเหล่า Working Woman ตัวจริงอย่างที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้ แต่การสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองดูขึงขัง และจริงจังกับงานอยู่ตลอดเวลาของแอนนา ก็ต้องแลกมาด้วยอะไรหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือฉายาค่อนแคะที่สื่อหลายหัวพร้อมใจมอบให้กับเธอ ไม่ว่าจะเป็น ราชินีน้ำแข็ง, Chillie Charlie (ที่แปลว่า 'เย็นชา' เป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ไม่ต่างจากพ่อขอเธอ Charles Wintour ที่เคยทำงานเป็นบรรณาธิการให้กับ Standard และ Sunday Express ซึ่งมีบุคลิกเงียบขรึมคล้ายกัน) และ นางมารแห่งโลกแฟชั่น ซึ่งชื่อหลังนี้ยังได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดนวนิยาย และภาพยนตร์เรื่อง The Devil Wears Prada โดยนักเขียน Lauren Weisberger ที่เคยทำงานใกล้ชิดกับเธอจริงในช่วงหนึ่ง กระนั้นแอนนาก็เลือกที่จะยอมรับและไม่เคยออกมาโวยวายกับฉายามากมายที่สื่อทั่วโลกต่างประเคนให้กับเธอ ทว่าความเงียบของแอนนาก็เหมือนเป็นดาบสองคม นัยหนึ่งเธออาจใช้ฉายาเหล่านี้เป็นเกราะป้องกัน เพื่อวางตัวในการทำงานจนประสบความสำเร็จได้ แต่นัยหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าฉายาเหล่านี้ไม่ต่างจากเงาตามตัว ฉายภาพให้คนเข้าใจว่าเธอเป็นคนเช่นนั้นจริงๆ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ผิดถนัด...

     ในปี 2009 เราทุกคนได้ทำความรู้จักกับแอนนามากขึ้นผ่านสารคดีเรื่อง September Issue นั่นถือเป็นครั้งแรกๆ ก็ว่าได้ ที่เราต่างได้เห็นว่าแอนนาไม่ใช่แค่บรรณาธิการหน้าบึ้งของโว้กอเมริกาเท่านั้น แต่เธอยังมีอีกหนึ่งบทบาทที่หลายคนมองข้าม หรือลืมเลือนไป นั่นคือบทบาทของการเป็น “แม่”

     แอนนา วินทัวร์ เข้าพิธีสมรส 2 ครั้งด้วยกัน โดยครั้งแรกเธอแต่งงานกับ David Shaffer และมีลูกด้วยกัน 2 คนคือ Charles Shaffer ปัจจุบันอายุ 36 ปี และ Bee Shaffer ปัจจุบันอายุ 34 ปี ก่อนที่จะแยกทางกันในปี 1999 และหันไปเริ่มต้นชีวิตคู่ใหม่อีกครั้งกับ Shelby Bryan ในปี 2004 จนถึงปัจจุบัน แอนนาก้าวขึ้นรับตำแหน่งบรรณาธิการบริหารของโว้กอเมริกา เมื่อตอนที่ลูกชายของเธอมีอายุได้แค่ 3 ปีเท่านั้น ตลอดเวลาหลายปีในวงการแฟชั่นแอนนาไม่ค่อยได้เผยชีวิตครอบครัวให้ใครได้ล่วงรู้มากนัก มีก็เพียงลูกสาวที่ดูเหมือนจะเป็นที่คุ้นตาของคนทั่วไปเสียมากกว่าคนพี่ ก็เพราะว่าแอนนามักจะหนีบเธอออกงาน ไปเดินพรมแดงด้วยอยู่บ่อยครั้ง ทำให้บีได้ปรากฎตัวบนหน้าข่าวสังคมบ่อยไม่แพ้แม่ของเธอ อีกทั้ง บี แชฟเฟอร์ ยังเคยปรากฏตัวในสารคดีเรื่อง September Issue ที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ที่แม้ว่าจะเป็นการปรากฏตัวเพียงไม่นาน แต่ก็ฉายภาพความสัมพันธ์อันน่าประทับใจระหว่างแม่ลูกให้คนดูได้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งในสารคดีเรื่องนั้นเองแอนนายังยอมรับอีกว่า “ลูกๆ นี่แหละคือจุดอ่อนที่แท้จริงของเธอ”



WATCH




     ย้อนกลับไปบนหน้านิตยสาร Teen Vogue ฉบับเดือนกันยายน ปี 2013 บี แชฟเฟอร์ เคยให้สัมภาษณ์ถึงความผูกพันธ์กับแม่ของเธอเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า "ถึงแม้เธอจะไม่ได้เลือกเดินตามเส้นทางการเป็นบรรณาธิการอย่างแม่ของเธอ แต่เธอก็รับเอาส่วนหนึ่งแห่งจิตวิญญาณของความเป็นแอนนามาไม่น้อย อย่างแรกเลยก็คือ เธอมักจะเป็นคนที่ตรงต่อเวลาเสมอ และเธอก็ไม่เคยเข้าใจเวลาที่คนอื่นมาสาย เพราะมันเป็นเรื่องง่ายมากที่เราจะตรงต่อเวลา เรื่องเวลาเป็นเรื่องสำคัญที่แม่มักจะสอนเธอเสมอ" กระนั้นเธอก็ไม่ได้รับเอาความเป็นแอนนามาทั้งหมด เพราะเธอยอมรับว่าไม่ค่อยสนใจแฟชั่นเท่าไหร่ โดยเธอให้เหตุผลว่าเธอไม่ได้มีรูปร่างที่เหมือนนางแบบ และก็คงไม่ได้อยากใส่ชุดอย่างที่ Karlie Kloss ใส่ด้วย ซึ่งแอนนาก็รับรู้ดี และไม่ได้ห้ามอะไร เพราะแม่ของเธอมักจะปล่อยให้เธอ หรือพี่ชายเลือกเส้นทางชีวิตด้วยตัวเองเสมอ ไม่เพียงเท่านั้นเพราะแอนนายังเป็นแม่ที่สนับสนุนความชอบของลูกๆ เสมอมา ดังที่บีได้เปิดเผยเอาไว้ว่า "ตอนเธออายุ 8 ปี แอนนาสมัครคอร์สเรียนร้องเพลงให้ตามที่เธอร้องขอ และถึงแม้ว่าครั้งหนึ่งเธอจะเคยร้องเพลง Where is Love from Oliver ให้แม่ของเธอได้ฟัง และรู้ตัวว่าทำออกมาได้ไม่ดีนัก แต่แม่กลับปลอบใจเธอว่ามันเป็นเพลงที่ยาก" ราวกับนั่นไม่ใช่แอนนา วินทัวร์ ที่สายแฟ(ชั่น) ทั่วโลกเคยรู้จักมาก่อน และสุดท้ายบีได้ทิ้งท้ายเอาไว้ในบทสัมภาษณ์ครั้งนั้นให้หลายคนที่ติดภาพความขรึมของแอนนา ได้ทบทวนใหม่อีกว่า "ตัวตนจริงๆ ที่ไร้หัวโขนของแอนนานั้นเป็นคนที่ใจกว้าง และมักจะนึกถึงคนอื่นก่อนอยู่เสมออีกด้วย"

     แม้ว่าแอนนาจะดูสนิทกับลูกสาวเป็นพิเศษ แต่ก็ใช่ว่าเธอจะละเลยลูกชายสุดที่รักของเธอ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ แอนนายังได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความห่วงใยต่อลูกชายของเธอที่เป็นแพทย์ด่านหน้า ที่ป่วยจากการต้องดูแลคนไข้ในสถานการณ์อันยากลำบากของวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเธอได้ออกมาเปิดเผยว่า "ลูกชายของฉันเป็นแพทย์ด่านหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือเหล่าคนไข้ แต่ตอนนี้เขากำลังป่วย และกำลังกักตัวอยู่บ้าน แต่อีกไม่นานเขาจะกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่ หลังจากที่เขานั้นหายดี ฉันรู้สึกภูมิใจในตัวเขามาก และอยากจะขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ที่ต่อสู้กับโรคระบาดเพื่อช่วยชีวิตของพวกเรา”... แม้จะเป็นข้อความที่ไม่ได้ยืดยาวอะไร หากก็สะท้อนจิตวิญญาณของความเป็นแม่ ที่เป็นห่วงลูกได้อย่างท่วมท้น ซึ่งนั่นเองก็ถือเป็นอีกหนึ่งมุมชีวิตของผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีน้ำแข็งแห่งวงการแฟชั่น ที่หลายคนอาจมองข้ามไป

ข้อมูล : Wikipedia-Anna Wintour, Glamour, Teen Vogue, mothermag.com และ mamamia.com.au

WATCH

คีย์เวิร์ด: #AnnaWintour #MotherHood