เมื่อความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยระหว่าง ‘นางแบบ’ กับ ‘แบรนด์’ ที่ขาดกันแล้วอาจไม่พบกับความสำเร็จ!
'Kendall Jenner' และ 'Gigi Hadid' ก็เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าแบรนด์ส่งให้พวกเธอค่อยๆ ประสบความสำเร็จไปทีละขั้นตั้งแต่รันเวย์แรก!
การข้ามผ่านแห่งยุคเวลาล้วนแล้วแต่ทำให้ในแต่ละอุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงไปเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสังคมและขบถในแต่ละวัฒนธรรม เพื่อสานต่อความเป็นอยู่ให้คงอยู่และดำเนินต่อไป อุตสาหกรรมแฟชั่นก็เป็นอีกหนึ่งแวดวงที่ใครหลายคนให้ความสนใจและหมั่นสร้างสรรค์ผลงานให้เข้ากับยุคสมัยอยู่เรื่อยมา จนกลายเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตและเจริญงอกงามราวกับดอกไม้ที่ถูกปลูกและชำเพาะกิ่งให้เติบโตสวยงามอย่างสมบูรณ์
แน่นอนว่าเมื่อเกิดการรังสรรค์ผลงานขึ้นอย่างประณีต ตัวชูโรงผลงานอย่างนายแบบและนางแบบก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญที่ทำให้เสื้อผ้าและเหล่าไอเท็มต่างๆ โดดเด่นขึ้นมาทันตาเห็น เพราะพวกเขาเหล่านี้สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับชิ้นงานสุดบรรจง และชิ้นงานเหล่านั้นก็มอบความสำเร็จให้แก่พวกเขาเช่นกัน บทความนี้จะยกกรณีศึกษาจากนางแบบสาว 'Kendall Jenner' และ 'Gigi Hadid' ซึ่งถือเป็นอีกสองนางแบบแห่งยุคที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการพึ่งพาอาศัยกันระหว่างเสื้อผ้าและคนสวมมีความสำเร็จเกิดขึ้นอย่างไร
ย้อนกลับไปรันเวย์แรกของนางแบบสาวชื่อดังระดับโลกจากตระกูลคาร์ดาเชียน-เจนเนอร์ เคนดัลเป็นอีกหนึ่งนางแบบที่ใครหลายคนยกให้เป็นบุคคลไอคอนิกแห่งยุคที่แม้จะอายุยังน้อย ทว่าก็ได้รับความนิยมมาราวสิบปี ก่อนหน้านี้เธอมีโอกาสได้ถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารต่างๆ จนโอกาสครั้งใหญ่ก็มาถึงมือ เมื่อช่วงนิวยอร์กแฟชั่นวีกเคนดัลมีโอกาสได้เฉิดฉายบนรันเวย์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ 2013 แบรนด์ Sherri Hill ด้วยความสวยสง่าและโดดเด่น ทั้งยังนำเสนอเหล่าไอเท็มให้สาวกแฟชั่นได้จดจำเป็นอย่างดี และเวลาทองของเธอก็มาถึงเมื่อ Marc Jacobs แบรนด์แฟชั่นระดับไฮเอนด์แบรนด์แรกที่ดึงตัวเธอไปร่วมงานบนรันเวย์ หลังจากนั้นเคนดัลก็ได้ปรากฏตัวตามรันเวย์แบรนด์ต่างๆ อาทิ Chanel, Balmain และรันเวย์ที่น่าจดจำอย่าง Jacquemus ที่เคนดัลได้ร่วมนำเสนอชิ้นงานบนรันเวย์คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วง 2023 อย่าง 'LE CHOUCHOU' ณ พระราชวังแวร์ซายส์ ประเทศฝรั่งเศส จนเธอได้ขึ้นแท่นเป็นนางแบบที่มีคนกล่าวถึงเป็นอันดับต้นๆ ว่าสร้างสรรค์ลุคใดก็สวยและเอาอยู่
WATCH
จีจี้ ฮาดิดก็ถือเป็นอีกหนึ่งนางแบบที่สร้างภาพจำให้เหล่าสาวกได้เกิดแรงบันดาลใจให้นำเหล่าไอเท็มนั้นมาสไตลิ่งตาม ตั้งแต่เธอก้าวขาเข้ามาเหยียบวงการแฟชั่นก็ได้รับความสนใจตั้งแต่แรกเห็น โดยรันเวย์แจ้งเกิดที่ทำให้ใครหลายคนรู้จักในนามจีจี้ ฮาดิดในฐานะนางแบบคือนิวยอร์กแฟชั่นวีก โดยเธอได้เดินแบบให้กับแบรนด์ Desigual คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ร่วงประจำปี 2014 และนับแต่นั้นเป็นต้นมาตั้งแต่ปี 2015 จีจี้ก็ปรากฏตัวตามรันเวย์แฟชั่นต่างๆ อาทิ Chanel, Marc Jacobs, Max Mara และ Jean Paul Gaultier เป็นต้น ทั้งนี้อีกหนึ่งโมเมนต์ที่ไม่อาจลืมเลือนคงเป็นจีจี้กับปารีสแฟชั่นวีกคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2020 บนรันเวย์ชาเนล ที่เธอได้ประจันหน้ากับนักแสดงตลกชาวฝรั่งเศส 'Marie S’Infiltre' แขกผู้ไม่ได้รับเชิญมาป่วนเดินแบบแฝงตัวกับนางแบบคนอื่นๆ บนรันเวย์ จนทำให้จีจี้ต้องล็อกตัวมารีออกไปจากโชว์ด้วยตัวเอง เพื่อให้การนำเสนอผลงานของแบรนด์ดำเนินต่อไปได้ จีจี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งเซเลบริตี้ที่ทั่วโลกจับตามองและยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญแห่งวงการนางแบบที่นำเสนอภาพลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากสองตัวแม่แห่งรันเวย์แฟชั่นที่กล่าวไปข้างต้น ยังมีนางแบบอีกหลายคนที่มีชื่อเสียงจากการเดินแบบให้เหล่าแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ อาทิ Naomi Campbell ที่ติด AI Pin บนอกซ้ายเดินบนรันเวย์ให้กับแบรนด์ Coperni เพื่อนำเสนอความทันสมัยที่ควบคู่ไปกับแฟชั่นได้อย่างก้าวล้ำ และ Bella Hadid ก็เป็นอีกหนึ่งนางแบบที่สร้างไวรัลให้กับแบรนด์ Coperni เช่นกัน ด้วยการเป็นนางแบบสวมชุดด้วยเทคโนโลยีโฟมจากสบู่ จนกลายเป็นชุดเดรสสีขาวแนบเนื้อสุดสะดุดตาบนรันเวย์ปารีสแฟชั่นวีกคอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ประจำปี 2023 เป็นต้น ซึ่งปรากฏการณ์นี้แสดงให้เห็นแล้วว่า ความสัมพันธ์ระหว่างนางแบบและแบรนด์เป็นสิ่งที่ขาดกันไม่ได้ จริงอยู่ที่เหล่าผลงานสามารถสวยงามได้ด้วยตัวของมันเอง เพราะผ่านการรังสรรค์มาสุดฝีมือและมีการดีไซน์ที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์อยู่เสมอ ทว่าหากไม่มีบุคคลอย่างนางแบบหรือนายแบบช่วยนำเสนอให้เหล่าสาวกได้เห็นภาพชัดเจน ผลงานต่างๆ อาจถูกปิดตายในกรุอยู่บางชิ้นก็เป็นได้
ทั้งนี้เมื่อมีเหล่านางแบบนำเสนอความสวยงามของเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว แบรนด์จะยังเป็นกระแสในโลกออนไลน์ในเรื่องชุดที่ได้รับการพูดถึง รวมถึงโมเมนต์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนรันเวย์เฉกเช่นเหตุการณ์ที่ยกไปข้างต้น จึงสามารถเพิ่มยอดขายและได้รับการบอกต่อกันไปเรื่อยๆ จนสร้างฐานผู้บริโภคได้อย่างแข็งแกร่ง และถึงแม้เวลาจะผ่านไปกี่ชั่วอายุคน ความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกันระหว่าง ‘นางแบบ’ และ ‘แบรนด์’ จะยังคงดำเนินเป็นอนันต์แบบไม่มีวันสิ้นสุด
WATCH