FASHION

เปิดสัมภาษณ์พิเศษ 'Jean-Marc Loubier' ซีอีโอแบรนด์ Delvaux เผยวิสัยทัศน์การเปิดบูติกแห่งแรกในไทย!

เหล่าสาวกชาวไทยสามารถมาสัมผัสประสบการณ์บูติก Delvaux แห่งแรกในไทยได้ที่สยามพารากอน

     แบรนด์เครื่องหนังคุณภาพสูวจากเบลเยียมอย่าง Delvaux เพิ่งเปิดตัวบูติแรกในประเทศไทยเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจของวงการลักชัวรีในประเทศไทย เพราะ Delvaux ไม่ได้เพียงแค่รังสรรค์กระเป๋า แต่นำเสนอผลงานในรูปแบบของชิ้นงานศิลปะที่ควรค่าแก่การสะสม นอกจากคุณภาพของเครื่องหนังคุณภาพสูงและงานฝีมือที่พิถีพิถันแล้ว แบรนด์ยังนำเสนอคอลเล็กชั่นที่เชื่อมโยงไปกับงานศิลปะได้อย่างงดงาม ทั้งนี้ Delvaux ก่อตั้งขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อปี 1829 และถือเป็นแบรนด์ที่คิดค้นกระเป๋าถือสมัยใหม่ โดยเป็นผู้จดสิทธิบัตรกระเป๋าถือหนังใบแรกของโลกในปี 1908 จากนั้นเป็นต้นมา ชื่อของแบรนด์จึงเป็นที่รู้จักในหมู่ราชวงศ์ชั้นสูงและเหล่าเซเลบริตี้ทั่วโลกผู้หลงใหลในงานคุณภาพและการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์

     เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้ Delvaux ได้เปิดบูติกแห่งแรกในประเทศไทยที่สยามพารากอน โดยในบูติกแห่งนี้ถูกออกแบบให้สะท้อนถึงประเพณีบูติกแห่งนี้สะท้อนถึงประเพณีของชาวเบลเยียมที่อบอุ่นและมีชีวิตชีวาตอกย้ำความเชื่อของเมซงว่าความลักชัวรีเป็นประสบการณ์ที่สัมผัสได้อย่างใกล้ชิดและสามารถผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรมให้เข้ากับการออกแบบร่วมสมัย และในงานเปิดบูติกล่าสุดซีอีโอของแบรนด์อย่าง Jean-Marc Loubier ได้ให้สัมภาษณ์กับโว้กแบบเอ็กซ์คลูซีฟถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์รวมถึงประสบการณ์ที่ชาวไทยจะได้รับเมื่อได้เข้ามาสัมผัสกับบูติกของ Delvaux

 

Vogue:  ปีนี้กรุงเทพฯ เต็มไปด้วยพลังแห่งการเติบโตทางแฟชั่นและธุรกิจ นั่นคือสาเหตุที่ Delvaux ถึงเลือกกรุงเทพฯ จุดหมายในการขยายโอกาสทางธุรกิจใช่ไหม

Jean-Marc: ที่จริงแล้วเรามองหาทำเลที่ใช่ในการเปิดบูติกที่กรุงเทพฯ มานานแล้ว แต่ในการหาสถานที่ที่เหมาะสมนั้นต้องใช้เวลา เมื่อเราเจอจังหวะที่ใช่ เราจึงตัดสินใจมาเปิดที่นี่ การเปิดบูติกของเราไม่ใช่การทำเพื่อขยายสาขา แต่เป็นการมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้ามากกว่า

V: เท่าที่ทราบก็คือบูติกของ Delvaux ในแต่ละเมืองจะไม่เหมือนกันเลย

Jean-Marc: ใช่ครับ แนวคิดของเราคือ “No concept is the concept” ดังนั้นเราจึงออกแบบบูติกแต่ละแห่งให้สะท้อนถึงตัวตนของเมืองนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบ รูปแบบ หรือความรู้สึกเมื่อได้เข้าไปในบูติกที่มีทั้งความน่าสนใจและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น บูติกที่นี่ เรามีเฟอร์นิเจอร์พิเศษสองชิ้นที่มาจากประเทศสวีเดนในศตวรรษที่18 ไม่ใช่ประเทศเบลเยี่ยมหรือประเทศไทย งานสองชิ้นนี้เป็นชิ้นงานที่สื่อ เปิดรับสิ่งใหม่ๆ ของเมซง ที่สำคัญคือสามารถใช้สำหรับจัดแสดงกระเป๋าได้อย่างงดงาม

V: อยากให้คุณ Jean-Marc ช่วยเล่าถึงกลยุทธ์ในการเชื่อมโยงกับลูกค้าชาวไทย เนื่องจากชื่อของ Delvaux อาจจะยังใหม่ สำหรับลูกค้าที่นี่

Jean-Marc: ที่จริงแล้วกลยุทธ์ของเราคืออยากให้ลูกค้าหรือใครก็ตามได้เข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์ในบูติกของเรา ลูกค้าที่ได้มาเยี่ยมเยือนร้านมักจะกลายเป็นทูตทางการค้าของแบรนด์โดยอัตโนมัติ นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาได้สัมผัสถึงประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป กระเป๋าของเราทุกใบมีประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Tempête หรือ Brillant ที่ถูกออกแบบมาหลายสิบปีแต่ยังคงร่วมสมัย เราเชื่อว่าการเชื่อมโยงเกิดจากการแลกเปลี่ยน ไม่ใช่แค่การขาย เราไม่ได้เรียกลูกค้าว่า “ผู้บริโภค” แต่เรียกว่า “Client” ซึ่งหมายถึงผู้ที่มีความมั่นใจ รู้ในสิ่งที่ต้องการ เรามองลูกค้าเป็นบุคคล ไม่ใช่ลูกค้าทางการตลาด เพราะฉะนั้น ผมจึงอยากให้ทุกคนได้เข้ามาชม สัมผัส รวมถึงโอบรับเอาแรงบันดาลใจจากเรากลับไปด้วย

 




V:  คำว่า “Legacy in Motion” มีความหมายว่าอย่างไรในวิสัยทัศน์ของเมซง

Jean-Marc: Legacy in Motion เป็นคำนิยามมรดกทางวัฒนธรรมที่มีลมหายใจ เคลื่อนไหวไปพร้อมกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เราเป็นผู้บุกเบิกตั้งแต่ปี 1829 และเรายังเป็นผู้ผลิตกระเป๋าลักชัวรีเจ้าแรกที่จดสิทธิบัตรในปี 1908 แต่สิ่งสำคัญคือเราไม่เคยหยุดนิ่ง

V:  Delvaux มองความแตกต่างระหว่างความคลาสสิกกับอนุรักษ์นิยมอย่างไรบ้าง เนื่องจากมีเส้นบางๆ ระหว่างสองคำนี้

Jean-Marc: เราไม่ใช่แบรนด์อนุรักษ์นิยม แต่เราเป็นคลาสสิก คลาสสิกคือการเป็นต้นฉบับ กล้าคิด กล้าทำ เช่น กระเป๋า Brillant ที่ถูกออกแบบมาตั้งแต่ปี 1958 แต่ยังร่วมสมัย และยังมีดีไซน์ใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยายนนี้

V:  ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างดูรวดเร็ว จนเกือบจะฉาบฉวย ทางเมซงมีการปรับกลยุทธ์หรือรับมืออย่างไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้

Jean-Marc: ดิจิทัลเป็นเพียงเครื่องมือ แต่ไม่สามารถแทนสัมผัสจริงได้ ทุกอย่างที่เรานำเสนอคือเรื่องของประสบการณ์ที่ต้องสัมผัสด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของหนัง ความนุ่ม หรือรายละเอียดต่างๆ ที่ซับซ้อน ดังนั้นเราจึงพยายามใช้ดิจิทัลเพื่อดึงคนเข้ามาถึงร้านมากกว่า

V: ถ้าให้เลือก 3 คำที่สะท้อนตัวตนของ Delvaux ได้ดีที่สุด คุณจะเลือกคำไหนบ้าง

Jean-Marc:  Pioneer, Innovator, และ Legacy in Motion กระเป๋าของเราคือความฝันที่สวมใส่ได้ เราหวังว่าฝันนั้นจะสอดคล้องกับความฝันของผู้ใช้ด้วย

V:  สุดท้าย อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทย

Jean-Marc: ผมอยากเชิญให้ทุกคนมาลองสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ ด้วยตัวเอง แม้ว่าจะยังไม่ได้ซื้อกระเป๋า แต่ผมมั่นใจว่าทุกคนจะได้รับประสบการณ์พิเศษบางอย่างกลับไป รวมถึงแรงบันดาลใจด้วย การได้แชร์สิ่งที่ไม่ธรรมดาให้กันเป็นหัวใจของเมซงที่เราตั้งใจมอบให้ทุกคน

 

ภาพ : Courtesy of Delvaux

WATCH

 
Close menu