เมื่อพูดถึงชื่อ G-DRAGON คาดว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเขาคือตัวพ่อของวงการเพลงเกาหลีใต้ ที่ปัจจุบันไม่เพียงแค่โด่งดังในประเทศเกาหลีใต้ แต่ชื่อเสียงของเขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกด้วยความ Swag ที่เป็นเอกลักษณ์ฉบับ One Of A Kind และไม่มีใครเลียนแบบได้ และแฟชั่นสุดโต่งจนได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 500 บุคคลที่มีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่นจากการจัดอันดับระดับโลกของนิตยสาร Business of Fashion ซื่งบุคคลที่อยู่ใน 500 อันดับนั้นต่างก็เป็นระดับท็อปทั้งนั้น อาทิ Kanye West, Rihanna, Li Yuchun, Lucky Blue smith, Gigi Hadid เป็นต้น เขายังได้รับเชิญไปงานแฟชั่นโชว์แบรนด์ดังระดับโลกมากมายในทุกๆ ปี หนึ่งในนั้นคือ CHANEL และแน่นอนว่าเขารู้จักสนิทสนมกับ Karl Lagerfeld ผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์ CHANEL อีกด้วย ด้วยความเป็นแฟชั่นไอค่อนตัวพ่อที่ไม่ว่าจะหยิบจะจับหรือใส่อะไรก็มีคนแห่ซื้อตาม กลายเป็นกระแสยอดขายถล่มทลายจน Sold out ไปตามๆ กัน จึงไม่แปลกใจที่ดีไซเนอร์มากมายจะหมายตา G-DRAGON เพื่อให้มาร่วมงานด้วยเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้เขายังมีแบรนด์เป็นของตัวเองชื่อ PEACEMINUSONE ที่หากใครได้เคยเห็นหมวกสายยาวๆตามนิตยสารหรือจากไอจีของคนดังก็รู้ไว้เลยว่านั่นน่ะของ G-DRAGON เอง และในแต่ละปี เขายังได้รับค่าลิขสิทธิ์จากการแต่งเพลงอย่างมหาศาลแถมยังเป็นหนึ่งในไม่กี่คนในประเทศเกาหลีใต้ที่มีบัตรเครดิต Black Card ไม่จำกัดวงเงินอยู่ในครอบครองอีกด้วย

ชีวิตที่หรูหราที่ใครๆ ก็ใฝ่ฝันอยากจะเป็น แต่คงมีน้อยคนที่รู้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จเหล่านี้ G-DRAGON ต้องผ่านอะไรมาบ้าง เขาลบคำสบประมาททั้งหมด โดยการพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือ "ศิลปินตัวจริง" ด้วยผลงาน และความสามารถล้วนๆ โดยทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า G-DRAGON คือหนึ่งบุคคลสำคัญที่ขับเคลื่อนวงการดนตรีในเกาหลีใต้ให้เป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลก และชื่อของ G-DRAGON ยังถูกลิสต์ให้เป็น 1 ในเหตุผลที่ว่าทำไมโซลถึงเป็นเมืองที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก

ทุกวันนี้ G-DRAGON เป็นไอดอลและเป็นแรงบันดาลใจของคนดังในวงการมากมายทั้งในและนอกประเทศเกาหลี อาทิ แบมแบม แร็ปเปอร์หนุ่มน้อยสัญชาติไทยที่ไปเดบิวต์โด่งตังอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ กับวง GOT7 ที่เจ้าตัวบอกเสมอว่าเขามีรุ่นพี่ G-DRAGON เป็นต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดนตรีหรือแฟชั่น ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยมีโอกาสได้พบกับ BIGBANG อย่างเอ็กซ์คลูซีฟในลิฟท์ ในรายการ M Countdown ที่แบมแบมเป็น MC โดยแดซองได้อ่านจดหมายที่แบมแบมเคยเขียนถึง G-DRAGON เมื่อตอนเดบิวต์ใหม่ๆ ให้ G-DRAGON ฟังต่อหน้าโดยมีข้อความบางช่วงบางตอนว่า “ผมมาอยู่จุดนี้ได้ เพราะพี่เลยนะครับ You’re my hero. Thank you for everything” พออ่านจบ G-DRAGON ก็ได้ดึงแบมแบมเข้ามากอด ทำเอาเจ้าตัวปลื้มปริ่มทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว อีกหนึ่งไอดอล ที่มี G-DRAGON เป็นไอดอลคือ BEWHY แร็ปเปอร์เจ้าของตำแหน่งแชมป์ Show Me The Money 5 ที่เปิดเผยว่าเขาได้กลายมาเป็นแฟนตัวยงของ G-DRAGON หลังจากที่ได้ฟังเพลง “Lies” เขาเริ่มฝึกแร็ปเพราะอยากจะเป็นแบบ G-DRAGON นอกจากนี้ชื่อของเขา “BEWHY” ก็ยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อ “GD” และเขายังเคยไปออดิชั่นกับค่าย YG ต้นสังกัดของ G-DRAGON อีกด้วย หรือแม้กระทั่ง Jaden Smith แร็ปเปอร์ชื่อดังชาวอเมริกันก็ยังเคยทวีตข้อความว่า “G-DRAGON IS MY INSPIRATION” แสดงความชื่นชม G-DRAGON ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาด้วย