FASHION

รู้จักกับ ‘serizawa’ แบรนด์ญี่ปุ่นที่เชิดชูวัฒนธรรมดั้งเดิมผสานเข้ากับดีไซน์แฟชั่นร่วมสมัย

“Mai Serizawa” ผู้สืบสานความงดงามของวัฒนธรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่นผสมผสานดีไซน์แฟชั่นสุดโมเดิร์นที่เข้ากับยุคสมัย ผ่านพิธีการชงชาแบบโบราณที่แหวกขนบไปจากเดิม

Mai Serizawa ผู้อำนวยการแห่ง Boutique Serizawa

 

บุคคลสำคัญในวันนี้คือ “Mai Serizawa” หรือ ‘ไม เซริซาวะ’ ลูกสาวคนโตของครอบครัวเซริซาวะ ซึ่งดำเนินธุรกิจร้านบูติกแฟชั่นที่มีอายุมากกว่า 120 ปี อีกทั้งเป็นผู้นำด้านวัฒนธรรมเสื้อผ้าแห่งแรกในโกเบที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ ปี 1903 เธอไม่เพียงแต่สนใจในเรื่องของแฟชั่นเท่านั้น ทว่ายังวางแผนและสนับสนุนวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่าง “พิธีชงชา” ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ รวมถึงการแข่งขันขี่ม้า Boutique Serizawa Cup และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เธอยังได้ร่วมงานกับแบรนด์หรูในเครือ Shiseido อย่าง The Ginza ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชั้นนำของญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งวันนี้โว้กได้มีโอกาศพูดคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ ไม เซริซาวะ ผู้อยู่เบื้องหลังของความสำเร็จครั้งนี้

ในงาน Serizawa Exclusive Event ที่เราได้มีโอกาสสัมภาษณ์พูดคุยกับ ไม เซริซาวะ ในครั้งนี้ จัดขึ้นที่ Capella Hotels & Resorts ซึ่งถูกเนรมิตให้กลายเป็นห้องโถงผสมผสานระหว่างสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตกทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์ เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับความงดงามและเทคโนโลยีของญี่ปุ่นผ่าน "พิธีชงชา" ที่ผสมผสานแฟชั่นเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นประเพณีของชาวญี่ปุ่นที่แสดงถึงมิตรภาพอันดีงามระหว่างเจ้าบ้านและแขกผู้มาเยือน โดยพิธีชงชาจะต้องมีกรรมวิธีในการยกชาดื่มด้วยการใช้มือซ้ายรองถ้วยชาแล้วค่อยๆ หมุนตามเข็มนาฬิกา 2 รอบแล้วยกขึ้นดื่ม และจะต้องกะให้ได้ประมาณ 3 อึกครึ่ง โดยที่ชามจะต้องหมุนลวดลายของถ้วยไว้ตรงด้านหน้า ถือได้ว่าเป็นการต้อนรับด้วยความยินดีและเต็มใจให้กับแขกผู้มาเยี่ยมเยือน หลังจากดื่มด่ำกับชาอันหอมหวานเสร็จแล้วยังมีขนมญี่ปุ่นทั้ง 4 ฤดู เช่นสีเขียวที่เป็นซิกเนเจอร์จากใบชาที่บ่งบอกถึงฤดูร้อน สีชมพูจากดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ สีน้ำตาลจากช็อกโกแลตสะท้อนถึงฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวที่แสนอบอุ่นจากมะพร้าวสีขาวนวล ปิดท้ายด้วยการจิบแชมเปญที่แมตช์เข้ากับชาเขียว เพื่อส่งมอบความสุขให้กับช่วงเวลาสังสรรค์เหล่านั้นให้เต็มไปด้วยความอบอุ่น

 

เธอได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวตนของแบรนด์ด้วยมุมมองและการตีความด้านแฟชั่นที่แตกต่างออกไปจากวัฒนธรรมดั้งเดิมในยุคสมัยที่ผ่านมาและความประทับใจในฐานะผู้อำนวยการแห่ง Boutique Serizawa ไว้ว่า “เนื่องจากเราดำเนินธุรกิจร้านขายเสื้อผ้าที่ก่อตั้งขึ้นในเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1903 เปลี่ยนแปลงด้านวัฒนธรรมชุดกิโมโนของญี่ปุ่นให้เป็นเสื้อผ้าแบบตะวันตกได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งในยุคนั้นโกเบนับเป็นเมืองท่าเมืองแรกๆ ของญี่ปุ่นที่นำวัฒนธรรมที่แตกต่างมาประยุกต์ใช้กับแฟชั่นเสื้อผ้าตะวันตกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังเป็นบูติกเรียบหรูที่จัดจำหน่ายเสื้อผ้านำเข้าจากต่างประเทศอีกด้วย ดังที่ทุกท่านทราบ ในปัจจุบันมีหลายสิ่งหลายอย่างทั่วโลกที่ทุกคนสามารถจับต้องได้อย่างง่ายดาย และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี เราจึงจัดงานนี้ขึ้นในมุมมองของแฟชั่นสมัยใหม่ เพื่อให้ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้อย่างใกล้ชิด”



WATCH




1 / 2

เสื้อรุ่น SHIBORI Tops พร้อมประดับจิวเวลรีไขมุกอะโกย่า



2 / 2

ชุดเดรสกิโมโนรุ่น Short Sleeve พร้อมประดับจิวเวลรีไข่มุกอะโกย่า



นอกจากนี้ เธอยังเผยถึงเสน่ห์ที่แตกต่างและเป็นจุดเด่นของแบรนด์ไว้ว่า “แบรนด์ของเรามีประวัติมายาวนาน เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์คือ ‘แฟชั่นเป็นสิ่งที่ส่งเสริมจิตใจและความคิดของผู้คน วัฒนธรรมที่สวยงามคือสิ่งที่ยังคงเติมเต็มความสมบูรณ์ของจิตใจ’ ไปจนถึงองค์ประกอบหลักที่สามารถจะนำเสนอตัวตนได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยการผสมผสานวัฒนธรรม สิ่งที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของผู้หญิงญี่ปุ่น และแฟชั่นญี่ปุ่นเข้าด้วยกันนั่นคือ เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่หลากหลาย เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้หญิงยุคใหม่ให้แลดูสวยสง่ายิ่งขึ้น เราจึงให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้เป็นพิเศษ อย่างชุดที่ฉันกำลังสวมใส่อยู่ตอนนี้ทำขึ้นโดยความร่วมมือกับ ช่างฝีมือ Arimatsu Shibori ในจังหวัดนาโกย่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในญี่ปุ่น  ซึ่งสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่สวมใส่ได้ในชีวิตประจำวันจากวัสดุชั้นสูงที่ดูสวมใส่ได้ยากโดยมีชุดกิโมโนเป็นแนวคิดหลัก อีกทั้งเครื่องแต่งกายที่พนักงานชิเซโด้สวมใส่ในวันนี้ยังมีดีไซน์แบบ Nishijin-ori ซึ่งมีต้นกำเนิดดั้งเดิมในจังหวัดเกียวโต ภายใต้ลายผ้าแบรนด์ HOSOO ประยุกต์จากชุดกิโมโน และเราหวังว่าแฟชั่นจะเป็นประตูให้เหล่าสาวกแฟชั่นได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นได้อย่างอิสระ”

 

ไม เซริซาวะ ยังเล่าให้โว้กฟังต่อว่า “แนวคิดของคอนเซปต์และแรงบันดาลใจของ serizawa ในปีนี้ ฉันอยากจะพัฒนาทั้งด้านความงามแบบดั้งเดิม เทคนิคของญี่ปุ่น และผ้าหยุมชิโบริหรือที่เรียกว่า คุโมะชิโบริ ซึ่งเป็นชิโบริประเภทหนึ่งจากประเพณีอะริมัตสึ ชิโบริที่มีมายาวนานกว่า 400 ปี และนำมาผสมผสานเป็นเสื้อผ้าที่สามารถสวมใส่ได้ในวันสบายๆ ซึ่งข้อดีของผ้าแบบนี้คือ สามารถสวมใส่ได้แบบยูนิเซ็กซ์อย่างไร้ขีดจำกัด”

ในคอลเล็กชั่นนี้ไม่เพียงแต่นำเสนอแฟชั่นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเทคโนโลยีของญี่ปุ่นและเครื่องประดับสมัยใหม่ อีกทั้งเครื่องประดับสุดพิเศษที่ทำจากวัสดุหายากในหมู่ไข่มุกญี่ปุ่น รวมถึงเซ็ตกระเป๋าชงชาที่เหมาะแก่การพกพาและถูกดีไซน์ให้ทันสมัยเพื่อนำไปใช้ร่วมกับกระเป๋าแฟชั่นหลากหลายสไตล์

 

“โกเบ เป็นพื้นที่ที่บูทีคเซริซาวะได้ก่อตั้งขึ้น เป็นหนึ่งในพื้นที่แปรรูปและสะสมไข่มุกชั้นนำของโลก ซึ่งในบรรดาไข่มุกจำนวนมาก เราเลือกใช้ไข่มุกอะโกย่าฝังลงบนเครื่องประดับของเราด้วยความประณีต ผสมผสานกันระหว่างไข่มุกอะโกย่ากับทองคำ 18 กะรัต เพื่อเพิ่มมิติความสวยงามอีกมิติหนึ่งและสะท้อนถึงความสดใสของวันแห่งความสุขได้อย่างลงตัว ซึ่งเครื่องประดับข้อมือได้รับแรงบันดาลใจจากผู้หญิงชงชา เมื่อสวมใส่ลงบนมือแล้ว อิริยาบถในการเคลื่อนไหวข้อมือเมื่อสวมใส่จะแลดูพลิ้วไหว เล่นกับแสงระยิบระยับอย่างสง่างาม คอมพลีตลุคสง่างามในชีวิตประจำวันได้สมบูรณ์แบบ เพราะ สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว ความสวยงามจะถูกแฝงอยู่ในทุกท่วงท่า” และเธอได้เพิ่มระดับความท้าทายในการออกแบบเสื้อผ้าด้วยการประยุกต์และผสมผสานสไตล์ของกิโมโนเพื่อการใช้งานให้เข้ากับแฟชั่นในปัจจุบัน นี่แหละคือความท้าทายที่ ไม เซริซาวะ ก้าวผ่านไปได้

 

แม้ว่าตอนนี้นับว่าเธอประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้วเรื่องการเชื่องโยงวัฒนธรรมญี่ปุ่นเข้ากับแฟชั่น ทว่าอีกหนึ่งสิ่งที่โว้กยังคงสงสัยว่าเธอมีมุมมองอย่างไรในการขยายฐานสาวกแฟชั่นไปยังประเทศอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งเธอได้ทิ้งท้ายความน่าสนใจในบทความของโว้กว่า “ฉันเชื่อว่ามีคนต่างชาติจำนวนมากที่ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่น แต่พวกเขาอาจรู้สึกว่าวัฒนธรรมญี่ปุ่นนั้นละเอียดอ่อนและเข้าใจยาก จึงดูเข้าถึงยากในสายตาของคนต่างชาติ ซึ่งเราอยากจะสร้างคอนเซปต์ของแบรนด์เพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องคำนึงถึงอายุหรือเพศ ทว่ายังคง แก่นแท้ของสิ่งที่เกิดขึ้นมาตลอด 120 ปีไว้เช่นเดิม”

 

เรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่โว้กตั้งใจหยิบยกมาเล่าให้แฟนๆ ได้สัมผัสกับตัวตนและบทบาทชีวิตของ “Mai Serizawa” พร้อมเปิดประตูสู่เรื่องราวน่าสนใจของแบรนด์ serizawa ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน รับรองว่าหลังจากที่คุณอ่านบทความนี้แล้ว คุณจะรู้สึกตกหลุมรักแบรนด์นี้มากขึ้นอย่างแน่นอน

#teaceremony #serizawateaceremony #nodate #maiserizawa #boutiqueserizawa

WATCH