ช่างภาพ: ธาดา วาริช
สไตล์ไดเร็กเตอร์: จิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล
นางแบบ: ศิริลักษณ์ คอง
แต่งหน้า: ชนิดาภา กุลเมธีศิริภัค
ทำผม: หฤษฏ์ ปัญญาอ้าย
ผู้ช่วยสไตลิสต์: ฐิตาภรณ์ พุกพัก
ออกแบบฉาก: ไชโย โล่ห์อมรปักษิณ
-----------------------------------------------------------------------------
เราทราบกันดีว่า 1 ปีของแต่ละคนมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย หลายคนได้เรียนรู้ หลายคนอยากให้ปีที่แย่ๆ ผ่านไปไวๆ หลิงหลิง-ศิริลักษณ์ คอง กลับมาขึ้นปกโว้กอีกครั้งหลังจากผ่านไป 1 ปี พร้อมแชร์เรื่องราวของเธอให้กับผู้อ่านและแฟนคลับรวมถึงข้อคิดดีๆ ที่เธอฝากไว้ให้แฟนๆ ทุกคน
Vogue: หลังจากที่ไม่ได้คุยกับโว้กมา 1 ปี อยากให้หลิงรีแคปชีวิต 1 ปีที่ผ่านมาให้ฟังหน่อย
Lingling: ถ้าให้รีแคป 1 ปีที่ผ่านมาหลิงได้ทำอะไรเยอะมาก แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วไปหมด แต่ละวันมีหลายอย่างเกิดขึ้น บางครั้งเราก็ไม่ทันได้ตั้งตัวหรือมีเวลานั่งทบทวนกับตัวเอง แต่ถือว่าเป็นปีที่อะไรที่เราตั้งเป้าหมายก็ได้ทำจนสำเร็จ เช่น ปีที่แล้วหลิงได้ทำธุรกิจของตัวเองชื่อ Always Wonder แล้วปีนี้ค่อนข้างแอ็กทีฟ เราได้ไปเปิด Pop-up Store ที่สยามพารากอนและได้รับเสียงตอบรับดีมาก หรืออย่างแฟนมีตติ้งล่าสุด เป็นอีกงานใหญ่ที่หลิงภูมิใจและเป็นจุดสำคัญของชีวิตที่เกิดขึ้นในปีนี้ เหล่านี้คือเซอร์ไพรส์ที่หลิงเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นชัดเจนขนาดนี้ในปีนี้ แต่เป้าหมายส่วนตัวที่ตั้งไว้อยู่แล้วแล้วทำได้คือซื้อบ้านให้คุณพ่อคุณแม่
V: อะไรที่ทำแล้วชอบในปีนี้แล้วอยากจะทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นอีกในปีหน้า
L: อยากเจอแฟนคลับบ่อยๆ ค่ะ แล้วก็อยากดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ปีนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งพอกลับมามองตัวเองก็คิดว่าเรารับมือได้ ดูแลตัวเองดีแล้ว สิ่งที่หลิงอยากจะทำต่อคือการเป็นคนที่พร้อมเรียนรู้ น้ำไม่เต็มแก้ว
V: ยกตัวอย่างการดูแลตัวเองของหลิงให้ฟังหน่อยได้ไหม
L: ถ้าภายนอกหลิงก็จะออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ พยายามนอนให้พอ อันนี้เหมือนเป็นเรื่องเบสิก แต่ว่าทำได้ยากสำหรับหลิง เพราะงานหลิงเยอะมาก แต่ก็พยายามหาเวลาไปออกกำลังกาย ถ้าดูจากสตอรี่ของหลิงก็จะเห็นว่าอัปสตอรี่บ่อยเวลาเราได้ไปออกกำลังกาย ส่วนในด้านจิตใจหลิงก็พยายามบาลานซ์ เช่น บางช่วงที่หลิงว่างหรือมีคิวแคนเซิล หลิงจะไม่พยายามหาอะไรมาอัดใส่ตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้เวลาว่างเราจะคิดว่าเราจะทำอะไรดี ต้องหาอะไรทำ ปีนี้เป็นปีที่ว่างก็ไม่เป็นไร อยู่กับตัวเอง ฟังเพลงชิลๆ อ่านจดหมายของแฟนคลับ อะไรที่สามารถเติมพลังใจให้ตัวเอง ทำอะไรที่ไม่ต้องใช้ร่างกายมาก เพราะวันปกติเราก็ใช้ร่างกายหนักอยู่แล้ว พยายามรีแลกซ์แล้วก็ปล่อยให้มีเวลาว่างที่เป็นของเราจริงๆ
1 / 3
2 / 3
3 / 3
V: อะไรที่คิดว่าจะทิ้งหรือเลิกให้ได้
L: ตอนนี้พยายามเลิกกินน้ำอัดลม แต่อีกอย่างหนึ่งที่อยากทำให้ได้มากกว่าคืออยากตอบแชตให้เร็วขึ้น (หัวเราะ) คือพอทำงานเสร็จหลิงก็จะวางโทรศัพท์ไว้เลย เพราะหลิงขี้เกียจอยู่ในโลกโซเชียล บางทีทำงานเสร็จเราก็อยากจะชัตดาวน์ ซึ่งอาจจะเกิดการทิ้งแชตไว้เยอะ เยอะมาก (เน้นเสียง) หลิงก็อยากจะตอบเยอะขึ้นหรือตอบให้เร็วขึ้น
V: ข้อดีก็คือหลิงไม่ค่อยติดโซเชียล
L: ใช่ค่ะ แต่หลิงก็จะไม่รู้ข่าวอะไร บางทีก็คิดว่าดีนะ ได้ความสบายใจ
V: Best Moment of 2025 ของหลิง
L: มีหลายโมเมนต์มาก วันเกิดปีนี้ก็ประทับใจ, Always Wonder Pop-up Store, Fan Concert ถ้าใหญ่ๆ ก็จะมีประมาณนี้
V: ตอนที่หลิงอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตแล้วมองลงมาที่แฟนๆ หลิงรู้สึกอย่างไรหรือจดจำอะไรได้บ้างในตอนนั้น
L: ตอนโชว์รู้สึกว่าสนุกไปกับแฟนๆ หลิงเห็นเขามีความสุข ได้ยินเสียงกรี๊ด เสียงร้องเพลง เรารู้สึกว่าเขาอินไปกับเรา ระหว่างโชว์ก็สนุกมาก พอมาถึงท้ายโชว์หลิงรู้สึกว่าเรามีความภูมิใจ มีความผูกพันอะไรบางอย่าง รู้สึกขอบคุณแฟนๆ จากหัวใจที่พวกเขามาดูเราในวันนั้น เพราะหลิงรู้ว่าหลายๆ คนมาได้ไม่บ่อย รู้ว่าเขาต้องเก็บเงินกว่าจะมาจากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ และหลิงก็ดีใจที่มีคุณยาย มีคนหลากหลายอายุมาหาเรา รู้สึกดีใจและตื้นตันใจมากๆ ช่วงสุดท้ายที่คอนเสิร์ตจบลงหลิงรู้สึกตื้นตันและได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่าง เพราะมันเป็นสิ่งที่หลิงไม่ถนัด ทั้งการร้องและการเต้น
V: การร้องกับการเต้นเป็นการออกจากคอมฟอร์ตโซนของหลิงไหม เพราะเห็นหลิงเป็นคนที่ค่อนข้างนิ่ง
L: สุดๆ เลยค่ะ
1 / 3
2 / 3
3 / 3
V: แล้วหลิงให้กำลังใจตัวเองเวลาทำในสิ่งที่ไม่ค่อยคุ้นเคยอย่างไรบ้าง
L: ปกติถ้ามีแฟนมีตติ้งที่แค่ร้องเพลงและไม่ได้เต้นเยอะก็จะไม่ค่อยอยากเต้น แต่คอนเสิร์ตครั้งนี้เหมือนเราเปลี่ยนมุมมอง กลายเป็นว่าเราอยากทำให้ได้ เราอยากทำให้คนดูมีความสุข เราจึงผลักดันตัวเองให้ทำให้ได้และก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนให้ได้
V: อะไรที่หลิงมองว่าเป็นความสำเร็จที่ตั้งใจทำแล้วทำได้
L: สิ่งที่หลิงภูมิใจมากๆ คือการที่เราสามารถดูแลพ่อแม่ได้โดยไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเลย อย่างอื่นก็จะรองลงมา แต่สิ่งนี้หลิงคิดว่าเป็นเป้าหมายของลูกๆ รวมถึงของตัวหลิงเองที่เรารู้สึกสบายใจที่ทำสำเร็จ
V: ความท้าทายที่เจอในปีนี้
L: ก็คงเป็นการเต้นค่ะ เพราะยากสำหรับหลิง
V: เวลาเจอเรื่องยากๆ หลิงผ่านไปได้อย่างไร
L: หลิงพยายามเรียนรู้ ไม่อยากหยุดพัฒนาตัวเอง ตัวอย่างเช่น ถึงจะไม่ชอบเต้นในช่วงแรกแต่หลิงก็พยายามทำให้ได้ ก่อนหน้านี้มีคนถามหลิงว่าช่วงนี้ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไหม หลิงจึงกลับมาคิดว่าเอ๊ะ เรายังไม่ได้เพิ่มสกิลให้ตัวเองเลย ก็เลยคิดว่าอยากเรียนร้องเพลงให้ดีขึ้น หรืออย่างการเต้นก็ไม่ปฏิเสธเท่าเมื่อก่อน เมื่อก่อนคือไม่ไหวเลย (ยิ้ม) ตอนนี้เริ่มเห็นพัฒนาการของตัวเองแล้ว จากตอนแรกที่หมุนเอวยังไม่ได้เลยแต่ตอนนี้เริ่มต่อท่าได้แล้ว รู้สึกว่าไปไวขึ้น
V: บทเรียนสำคัญที่ได้เรียนรู้ในปีนี้
L: หลิงเรียนรู้เรื่อยๆ นะคะ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลิงได้คิดคือไม่ว่าเราจะทำอะไรก็จะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบเรา เราก็พยายามเป็นตัวของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะว่าเมื่อไรที่เราไปตามใจคนที่ไม่ชอบเรา เราจะสูญเสียตัวเอง เรียนรู้ว่าสิ่งที่เราควรจะทำก็คือใช้ชีวิตให้มีความสุขและให้เขาเห็นว่าชีวิตเราดีแค่ไหน (หัวเราะ) อาจจะเป็นการตอบกลับที่ดีที่สุด
V: หลิงรับรู้คอมเมนต์เชิงลบด้วยตัวเองหรือมีคนมาบอกเพราะหลิงไม่เสพโซเชียล
L: มีทั้งคู่เลย หลิงไม่ได้ตั้งใจแต่บางทีก็ผ่านตาหรือมีคนส่งมาให้ดู แต่สำหรับหลิงถ้าเป็นเรื่องกายภาพก็ไม่ใส่ใจอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องงานเราก็พร้อมจะปรับปรุง หรือเรื่องที่ให้ประโยชน์กับเราและคนรอบตัวเราก็ยินดีมากที่จะรับฟังค่ะ
V: อยากเห็นอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตตัวเองบ้างในปี 2026
L: อยากให้มีผลงานดีๆ ออกมา ไม่ว่าจะเป็นด้านการแสดงหรือด้านธุรกิจที่ตัวเองทำอยู่ อยากทำอะไรที่ท้าทายขึ้น เช่น การเปิดสาขา หรือมี Pop-up Store ถ้าในวงการบันเทิงก็อยากถ่ายทำภาพยนตร์ อยากลองทำอะไรใหม่ๆ
V: ปีนี้เราเห็นหลิงไปแฟชั่นวีก มีมุมมองอะไรที่อยากแชร์ในฐานะที่เราไปเป็นส่วนหนึ่งของตรงนั้น
L: รู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์แฟชั่น เพราะครั้งนี้ Dior เปลี่ยนครีเอทีฟไดเร็กเตอร์เป็นคุณโจนาทาน (โจนาทาน แอนเดอร์สัน) ตอนที่นั่งดูโชว์หลิงรู้สึกว่าเราคือหนึ่งในประวัติศาสตร์และดีใจที่ได้เห็นคนที่มีชื่อเสียงทั่วโลกมารวมตัวกัน เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ได้เห็นงานใหม่ๆ ได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ แล้วก็ได้ไปใช้ชีวิตด้วยนะ เรามีวันว่างที่ได้ไปเดินเล่น ปกติเราไม่ได้มีเวลาขนาดนั้น แต่ครั้งนี้เหมือนได้ไปพักผ่อนด้วย รู้สึกว่าคนที่นั่นเขามีความสุขกับเวลาของตัวเอง แดดออกก็ออกมาเดินเล่น ออกมาใช้ชีวิต รู้สึกชิลดี หลิงคิดว่ามันสำคัญมากเลยที่เราต้องเรียนรู้และมีความสุขกับช่วงเวลาที่เราใช้ชีวิตอยู่ เพราะว่าแป๊บเดียวมันก็ผ่านไปแล้ว อย่างเช่นปีนี้หลิงว่ามันผ่านไปเร็วมาก จึงได้เรียนรู้ว่าจงมีความสุขกับช่วงเวลาปัจจุบันเถอะ เพราะถ้าเรามัวแต่กังวล แล้วเวลามันผ่านไปเราจะมาเสียใจทีหลัง หลิงเห็นผู้คนมีความสุขกับบทสนทนาบนโต๊ะอาหาร หลิงจึงเรียนรู้ว่าควรวางโทรศัพท์บ้าง ซึ่งหลิงไม่ติดโทรศัพท์อยู่แล้ว (หัวเราะ)
V: ฝากถึงผู้อ่านโว้กและแฟนคลับของหลิง
L: Wish you Merry Christmas and Happy New Year นะคะ ถ้าปีนี้เป็นปีที่ดีก็รู้สึกยินดีกับทุกคนด้วยนะคะ แต่ถ้าปีนี้เป็นปีที่ไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไรเพราะว่ามันกำลังจะผ่านไปแล้ว หวังว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ดีสำหรับทุกคน ส่วนตัวหลิงรู้สึกว่าดีหรือไม่ดีบางทีก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของเรา ลองมองโลกในแง่ดีมากขึ้นจะทำให้เราเป็นคนที่โชคดี เราจะดึงดูดสิ่งดีๆ ด้วยความรู้สึกดีๆ ของเรา
(สามารถตามไปอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมอื่นๆ เกี่ยวกับ หลิงหลิง-ศิริลักษณ์ คอง' ได้ที่ https://www.vogue.co.th/fashion/article/lingling-orm-entertainment-and-fashion-industry)

'พีพี-กฤษฏ์' และ 'หลิงหลิง-คอง' ร่วมถ่ายทอดเทศกาลแห่งความสุขผ่านจิวเวลรีจาก Cartier

เปิดเส้นทาง ‘หลิง-ออม’ สองนักแสดงสาวที่โลดแล่นจากวงการบันเทิง สู่ DIOR แบรนด์แอมบาสเดอร์



