Jeff Satur
CELEBRITY

จับเข่าคุย 'เจฟ-วรกมล ซาเตอร์' ศิลปินชื่อดัง กับ 10 ปีบนถนนสายนี้ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

กว่าจะประสบความสำเร็จ มีแฟนๆ ต่างชาติคอยห้อมล้อมแบบทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เจฟต้องสั่งสมประสบการณ์และพบเจอเรื่องราวไม่คาดฝันมากมาย #VogueMen #VogueThailandNov2023

ช่างภาพ: ณัฐ ประกอบสันติสุข

แฟชั่นไดเร็กเตอร์: จงกล พลาฤทธิ์

สัมภาษณ์: ปวีณา บัลลพ์วานิช

------------------------------------------------------------------------------------------------

     "เจฟ-วรกมล ซาเตอร์" กับ 10 ปีบนเส้นทางศิลปินที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบและความมานะพยายามกว่าจะพบความสำเร็จในวันนี้ 

     ชื่อของเจฟ ซาเตอร์โด่งดังอยู่ในวงการเพลงด้วยภาพที่ชัดเจนของความเป็นศิลปินรุ่นใหม่ที่โดดเด่นทั้งเสียงร้อง การเล่นดนตรี และภาพลักษณ์ที่แตกต่าง ในช่วง 1-2 ปีมานี้ ไม่ว่าจะหยิบจับงานอะไร สปอตไลต์ทุกดวงล้วนส่องมาที่เขา เจฟเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทดลองอะไรใหม่ๆ เสมออย่างเช่น ผลงานล่าสุดที่เขาได้รับเชิญให้ไปร่วมรายการเรียลิตี้โชว์ของประเทศจีนชื่อ Call Me by Fire รายการวาไรตี้เรตติ้งสูงและซีซั่นนี้เป็นซีซั่นที่ 3 “จริงๆ แล้วที่จีนมีหลายรายการมากเลยครับที่ติดต่อมา แต่ด้วยความที่ตารางงานของผมแน่นมากเลยต้องพยายามคัดเลือกรายการที่เหมาะกับไดเร็กชั่นของเรามากที่สุด ธีมของรายการ Call Me by Fire น่าสนใจ เป็นเรื่องของศิลปินที่เดบิวต์มาแล้ว และมาช่วยกันทำโชว์ โดยช่วยกันสร้างโชว์ที่เจ๋งๆ ขึ้นมา ซึ่งทำให้ผมได้เจอศิลปินที่มีของหลายคน มาทำงานด้วยกัน ตอนที่รับงานนี้ก็คิดว่าน่าสนุกดี” จากผู้ชมกลายเป็นผู้ร่วมรายการ เจฟจึงต้องบินไปมาระหว่างเมืองไทยกับประเทศจีนช่วงที่ถ่ายทำ “จริงๆ ก็หนักเหมือนกันนะครับ (หัวเราะ) ผมบินไปบินกลับแบบนี้เกือบ 10 รอบได้ ตอนนี้เหลือถ่ายอีกประมาณ 3 ครั้งก็จะจบแล้วครับ"

     ในรายการนี้นอกจากจะโชว์ร้องเพลงแล้ว เขายังได้แสดงศักยภาพในการสร้างสรรค์โชว์เองด้วย “เป็นไอเดียที่ผมรู้สึกว่าถ้าเราไปถึงประเทศจีนแล้ว เราอยากจะนำรากของเราไปด้วย รากในที่นี้ก็คือความเป็นไทย อย่างเช่น โชว์ในเพลง Fade (ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง) ถ้าให้ผมขึ้นเวทีไปแล้วดีดกีตาร์ ใครๆ ก็เคยเห็นกันมาแล้ว ผมเลยเอาพิณมาดีดแทนกีตาร์ และมีเปลี่ยนเนื้อร้องจากภาษาไทยเป็นอังกฤษ และมีท่อนภาษาจีนด้วย คือผมไม่ได้แต่งภาษาจีนเองนะครับ แค่บอกภาพรวมความต้องการไป เขาก็จัดการมาให้” นอกจากนี้ ด้วยความที่เป็นคนสนุกและขี้เล่นเลยสร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนๆ ในทีมอยู่เสมอ “เพื่อนๆ ที่ผมสนิทในรายการ Call Me by Fire Season 3 นี้ก็จะมี Victor Ma (หม่าป๋อเซียน) และป๋อหยวนครับ แล้วก็เพื่อนในทีมผมเองคือ E.So. และ Danko ที่เป็น Rappers ในทีม จริงๆ แล้วก็รู้จักทักทายกันหมดทุกคนนะครับ แต่ด้วยความที่เป็นทีมเดียวกัน ต้องคลุกคลีกันมาก เลยเกิดเป็นความสนิทขึ้นมา ทั้งนี้กติกาแต่ละรอบก็จะเปลี่ยนไปด้วย อย่างสมมติ ตอนนี้ผมเป็นหัวหน้าทีม ผมก็จะมีสิทธิ์เลือกลูกทีมของผม และทีมก็มีสิทธิ์ที่จะไม่เลือกผมด้วยนะ (หัวเราะ) ขึ้นอยู่กับว่าเขาอยากอยู่กับเราหรือเปล่า คือถ้าอยากให้คนนี้อยู่กับเราไปเรื่อยๆ ก็ต้องชนะเรื่อยๆ (หัวเราะ) เพราะถ้าชนะเราจะมีสิทธิ์เลือกเขาได้อีก” นอกจากเจฟจะมีแฟนคลับ “คุณวันเสาร์” ที่ประเทศไทยแล้ว ที่ประเทศจีน เจฟก็มีแฟนคลับเช่นกัน “แฟนๆ ชาวจีนให้การตอบรับดีมากๆ เลยครับ ทุกครั้งที่ขึ้นโชว์ เอเนอร์จี้ทุกคนสนุกไปกับโชว์ที่เราทำ มีการแร็ปรถประจำทาง ซื้อโฆษณาบนจอแอลอีดี ทำโปรเจกต์น่ารักๆ ให้ คือไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนรู้จักผม เพราะผมยังไม่มีซิงเกิลที่จีน หรือมีงานเยอะแยะที่จีน แค่มีโอกาสได้ไปทัวร์บ้างนิดหน่อย แต่ยังไม่ได้มีโอกาสทำงานจริงจัง รู้สึกขอบคุณแฟนคลับชาวจีนมากๆ ที่ให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดี” 



WATCH




     สามารถตามไปชมแฟชั่นเซ็ตทั้งหมด และอ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ในคอลัมน์ Vogue Men โว้กประเทศไทย ฉบับพฤศจิกายน 2023 วางแผงแล้วทั่วประเทศ!

WATCH