การบำรุงฟันและเหงือกมีหลายวิธี นอกจากการทำความสะอาดด้วยการแปรงฟัน บ้วนปาก และพบทันตแพทย์ตามกำหนดแล้ว การใช้ชีวิตประจำวันอย่างการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็สามารถช่วยบำรุงฟันและเหงือกได้เช่นกัน เพียงแค่เลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อฟันและเหงือกก็จะช่วยบำรุงและรักษาช่องปากของเราได้อีกทาง โว้กบิวตี้รวม 10 อาหารที่ช่วยให้ฟันแข็งแรง ลดอาการฟันผุ เหงือกอักเสบได้เป็นอย่างดี
1 / 10
แอปเปิ้ล
ในแอปเปิ้ลมีกรดมาลิก (Malic) ที่ช่วยในการผลิตน้ำลาย จึงช่วยในการนำแบคทีเรียออกจากปากและลดคราบที่ติดอยู่บริเวณผิวฟัน เนื้อของแอปเปิ้ลจะช่วยขจัดคราบเหลือง ทำให้ฟันขาวสะอาดและแข็งแรง นอกจากนี้ยังมีเส้นใยที่ช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพเหงือกอีกด้วย
2 / 10
อะโวคาโด
ภายในอะโวคาโดมีวิตามิน C สูงจึงสามารถป้องกันปัญหาเลือดออกตามไรฟันได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยบำรุงเหงือกและฟันให้แข็งแรง ลดอาการอักเสบของเหงือก ทำให้เหงือกและฟันมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น สำหรับใครที่มีปัญหาเลือดออกตามไรฟันบ่อยๆ หรือเหงือกบวมแดงจนทำให้เกิดอาการเจ็บปวด การรับประทานอะโวคาโดก็ย่อมช่วยได้เช่นกัน
3 / 10
ธัญพืช
ธัญพืช เช่น เมล็ดพืชต่างๆ (เมล็ดแตงโม เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง) มะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ลูกเดือย และงาดำ มีวิตามิน B2 (Riboflavin) ช่วยบำรุงและรักษาฟันให้แข็งแรง พร้อมทั้งช่วยรักษาโรคปากนกกระจอก ลดอาการเจ็บแสบในปาก ริมฝีปาก และลิ้นได้เป็นอย่างดี
4 / 10
กล้วย
รู้หรือไม่ว่าเปลือกกล้วยมีโพแทสเซียม แมกนีเซียม และแมงกานีส ที่สามารถทำความสะอาดฟัน เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและคราบเหลืองที่ติดฟันได้ แถมยังช่วยขจัดกลิ่นปากของกล้วย แนะนำให้รับประทานกล้วยก่อนแปรงฟันและหลังตื่นนอนเป็นประจำนานประมาณ 1 สัปดาห์
5 / 10
ผลไม้ตระกูลซิตรัส
ในผลไม้ตระกูลซิตรัสมีปริมาณของวิตามิน C สูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมาก มีส่วนช่วยบำรุงรักษาให้เหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนในปากแข็งแรง รวมถึงกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างดี แถมยังสามารถป้องกันการเกิดโรคเหงือกอักเสบในระยะเริ่มต้นได้
6 / 10
ผักใบเขียว
ผักใบเขียวมีวิตามิน K โดยมีส่วนช่วยชะลอการเสื่อมของกระดูก และช่วยให้ร่างกายผลิต Osteocalcin ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูก จึงช่วยบำรุงให้ฟันและกระดูกขากรรไกรแข็งแรงได้ ผักใบเขียวที่แนะนำ ได้แก่ คะน้า กะหล่ำปลี ผักโขม ผักชีฝรั่ง บรอกโคลี หรือกะหล่ำดาว เป็นต้น
7 / 10
นม
เป็นที่รู้จักกันดีว่า นม เป็นแหล่งของแคลเซียมที่สำคัญ มีส่วนช่วยบำรุงให้เคลือบฟันและกระดูกแข็งแรง พร้อมช่วยให้เหงือกแข็งแรง ลดการเกิดปัญหาเหงือกและป้องกันฟันผุได้อีกด้วย การรับประทานแคลเซียมให้เพียงพอต่อวันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก นอกจากนมแล้วยังสามารถหาได้จาก ชีส โยเกิร์ต แครอท ปลาตัวเล็ก ใบชะพลู ใบยอ เป็นต้น
8 / 10
ถั่ว
ถั่วมีแมกนีเซียมจะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ฟันและผิวเคลือบฟันแข็งแรงขึ้น โดยจะสามารถหาได้จากพืชตระกูลถั่วต่างๆ เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วเหลือง ถั่วลิสง วอลนัต ถั่วลิสง ถั่วอัลมอนด์ รำขาว เป็นต้น
9 / 10
มันฝรั่ง
ในมันฝรั่งเต็มไปด้วยสารอาหารต่างๆ เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และสังกะสี ซึ่งช่วยบำรุงกระดูกและฟันของเราให้แข็งแรง ยังช่วยเสริมสร้างการสร้างคอลลาเจนที่เป็นองค์ประกอบสำคัญบริเวณข้อต่อและกระดูกอ่อนอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีแคลอรี่ต่ำและอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด กินแล้วช่วยทำให้อิ่มท้องได้นาน ไม่รู้สึกหิวง่าย
10 / 10
อาหารทะเล
อาหารทะเลเต็มไปด้วยแร่ธาุตที่สำคัญอย่างฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีอยู่ในกระดูก ฟัน หรือแม้แต่ดีเอ็นเอของเรา โดยจะทำงานร่วมกับแคลเซียมเพื่อสร้างไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Hydroxyapatite) ซึ่งเป็นองค์ประกอบโครงสร้างหลักของกระดูกและเคลือบฟัน ทำให้เคลือบฟันแข็งแรงขึ้น โดยสามารถหาได้จากอาหารทะเลต่าง ๆ เช่น กุ้ง ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และหอยเชลล์
นอกจากการทำความสะอาดฟันและช่องปากอย่างถูกวิธีแล้ว การรับประทานอาหารบำรุงฟันและเหงือกนับเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยดูแลสุขภาพช่องปากให้แข็งแรงขึ้น วิธีง่ายๆ คือเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่ถูกต้องก็จะช่วยให้ฟันและเหงือกของเราแข็งแรงมากขึ้น
WELLNESSเพิ่มโปรตีนให้แก่ร่างกายด้วย 11 สารอาหารเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ร่างกายเผาผลาญง่ายขึ้น




