ในช่วงวันนั้นของเดือนมักเป็นช่วงที่ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำ บางคนอาจไม่มีอาการผิดปกติ หรือมีอาการปวดท้องเล็กน้อย รวมไปถึงอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและปวดเมื่อยตัว แต่สำหรับบางคนอาจมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำมาก จึงทำให้เกิดอาการ ‘ไข้ทับระดู’ ซึ่งเป็นอาการที่ผู้หญิงทุกคนสามารถเป็นได้ โดยอาจหายได้เอง แต่ในบางกรณีอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต วันนี้โว้กบิวตี้จะพามารู้จักกับอาการไข้ทับระดูพร้อมวิธีการรักษาและการดูแลอย่างถูกต้อง
ไข้ทับระดูคืออะไร
ไข้ทับระดูเป็นอาการป่วยที่สามารถเกิดได้ทั้งก่อนและระหว่างเป็นประจำเดือน เนื่องจากร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งจะมีอาการปวดหัว เป็นไข้ โดยสามารถแบ่งได้สองประเภทอย่างไข้ทับระดูทั่วไป เป็นอาการมีไข้อ่อนๆ ตัวร้อน ปวดเมื่อยเนื้อตัว สามารถรักษาให้หายได้เองด้วยการรับประทานยาลดไข้ รวมถึงต้องพักผ่อนอย่างเพียงพอ และไข้ทับระดูแฝง ซึ่งมีอาการไข้ขึ้นสูง หนาวสั่น อาเจียน ปวดท้องน้อย และมีอาการตกขาวร่วมด้วย สาเหตุอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสจึงควรไปพบแพทย์เพื่อดูอาการ
สาเหตุของไข้ทับระดู
นอกจากสาเหตุภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ต่ำลงในช่วงที่มีประจำเดือนจึงทำให้ร่างกายเกิดการติดเชื้อและเจ็บป่วยได้ง่าย ก็ยังมีสาเหตุอื่นๆ อย่างเช่นฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง โดยในช่วงที่มีประจำเดือนระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และ โปรเจสเตอโรนในร่างกายจะแปรปรวนอย่างมาก ส่งผลให้ร่างกายเสียสมดุลและมีอาการป่วยในระหว่างที่เป็นประจำเดือน และการรักษาความสะอาดไม่ดีพอในช่วงที่มีประจำเดือน มีโอกาสในการติดเชื้อที่มดลูกและปีกมดลูกได้มากกว่าช่วงปกติ ดังนั้นหากปล่อยให้ผ้าอนามัยอับชื้น หรือมีเพศสัมพันธ์จะส่งผลให้เกิด ‘ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ’ (Pelvic Inflammatory Disease หรือ PID) ซึ่งเป็นภาวะติดเชื้อที่ระบบสืบพันธุ์ส่วนบนของเพศหญิง หรืออาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อน เช่น ‘โรคปีกมดลูกอักเสบ’ ที่มีการติดเชื้อบริเวณมดลูก ปีกมดลูก และท่อนำไข่ ก็ได้เช่นกัน
การดูแลรักษาช่วงเป็นไข้ทับระดู
- ใช้ยาแก้ปวดเพื่อลดไข้ เช่น ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ยาแอสไพริน (Aspirin)
- ใช้ยาแผนโบราณ อย่างยาจันทร์ลีลาเพื่อลดอาการปวดและลดไข้ในอาการไข้ทับระดู
- นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
- เปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ 4 ชั่วโมงหรือเมื่อเริ่มรู้สึกว่าผ้าอนามัยเริ่มอับชื้นในกรณีที่ประจำเดือนมามาก
- รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศอย่างดี เช็ดให้แห้ง ไม่ควรปล่อยให้อับชื้นและไม่ควรสวนล้างช่องคลอด
- ดื่มน้ำอุ่นและใช้ถุงประคบร้อน เพื่อปรับอุณหภูมิของร่างกายให้สมดุล
- เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ โดยเน้นที่ธาตุเหล็ก เช่น โยเกิร์ต ผักใบเขียว ธัญพืชเต็มเมล็ด ทั้งโฮลวีต ข้าวกล้อง เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
เมื่อไรที่ควรพบหมอ
- รักษาด้วยตัวเองแต่อาการไม่ดีขึ้น
อาการไข้ทับระดูสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งก่อนและระหว่างมีประจำเดือน หากเริ่มรู้สึกว่ามีอาการไข้ ปวดหัว ในระยะเริ่มต้นแนะนำให้รับประทานยาลดไข้ก่อน หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วันควรพบแพทย์โดยด่วน
- ปวดประจำเดือนมากกว่าปกติ
หากมีอาการปวดท้องน้อยในช่วงที่มีประจำเดือน โดยเป็นอาการที่ปวดอย่างรุนแรง รู้สึกหน้ามืด รับประทานยาแล้วไม่ดีขึ้น มีอาการปวดร้าวไปทั้งตัว ควรพบแพทย์เพราะอาจเป็นอาการที่แฝงมากับไข้ทับระดู
- มีไข้สูง
อาการไข้เป็นอาการปกติของไข้ทับระดู แต่ถ้าหากมีไข้สูงมากกว่า 39 องศา มีอาการหนาวสั่น วิงเวียนศีรษะอย่างหนักพร้อมทั้งมีอาการตกขาวร่วมด้วย ควรเข้ารับการรักษา เพราะเป็นสัญญาณของอาการแทรกซ้อนในไข้ทับระดู
ในช่วงที่มีประจำเดือนเป็นช่วงที่ร่างกายอ่อนแอและพร้อมที่จะติดเชื้อได้ง่ายกว่าช่วงอื่นๆ ดังนั้นจึงควรดูแลตัวเองและตรวจเช็กอาการอย่างสม่ำเสมอ หากรู้สึกว่าไม่ดีขึ้นแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ตรงจุด ไม่ควรละเลยอาการเหล่านั้นเพราะอาจทำให้อันตรายถึงชีวิตได้
.jpg)