นี่คือสารอาหารที่ช่วยลดอาการตาแห้งจากการมองจอนานๆ

“อาการตาแห้ง” เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อดวงตาผลิตน้ำตาได้เพียงพอ หรือน้ำตาที่มีอยู่นั้นระเหยรวดเร็วเกินไป และอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตา ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในยุคดิจิทัลที่ทุกคนต้องใช้สายตาไปกับการมองหน้าจอเป็นเวลานานๆ ไม่ว่าจะจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ โดยวิธีแก้อาการตาแห้งนอกจากทำได้ด้วยการพักสายตาและหยดน้ำตาเทียมแล้ว การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็เป็นอีกทางที่ช่วยลดอาการตาแห้งได้เช่นกัน และต่อไปนี้คืออาหารที่สามารถช่วยให้การมองเห็นคมชัดและป้องกันอาการตาแห้งได้อีกด้วย

อาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3

กรดไขมันโอเมก้า 3 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง DHA มีบทบาทสำคัญในการผลิตน้ำตาชั้นไขมัน ซึ่งเป็นชั้นนอกสุดของฟิล์มน้ำตา ชั้นไขมันนี้ช่วยลดการระเหยของน้ำตา ทำให้ดวงตาชุ่มชื้นได้นานขึ้น นอกจากนี้กรดไขมันโอเมก้า 3 ยังจำเป็นต่อการสร้างและบำรุงเยื่อบุตา ซึ่งเป็นชั้นที่ปกคลุมดวงตาและผลิตสารเมือกเพื่อหล่อลื่นดวงตา โดยอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ได้แก่ ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, ปลาแมคเคอเรล, เมล็ดแฟลกซ์ และเมล็ดเชีย เป็นต้น

อาหารที่มีวิตามิน A สูง

วิตามิน A มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอในดวงตา ทั้งในเยื่อบุตาและกระจกตา การรับประทานอาหารที่มีวิตามิน A เป็นประจำ จะช่วยให้ดวงตามีการผลิตสารเมือกที่เพียงพอ ปกป้องดวงตาจากอาการระคายเคือง และบรรเทาอาการตาแห้งให้ดีขึ้นได้ โดยอาหารที่มีวิตามิน A สูงมีหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า, ปวยเล้ง และบร็อกโคลี รวมถึงผักสีส้มและสีเหลือง เช่น แคร์รอท, มันเทศ และฟักทอง

อาหารที่อุดมไปด้วยลูทีนและซีแซนทีน

เนื่องจากอนุมูลอิสระสามารถทำลายเซลล์ในดวงตาและนำไปสู่ภาวะตาแห้งได้ แต่ลูทีนและซีแซนทีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้าที่เป็นอันตราย ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม และช่วยลดโอกาสการเกิดโรคต้อกระจก โดยลูทีนและซีแซนทีนพบได้มากในผักใบเขียว เช่น ผักคะน้า, เคล, ผักโขม, ปวยเล้ง รวมถึงผลไม้บางชนิด เช่น กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม และส้มเขียวหวาน เป็นต้น

อาหารที่อุดมด้วยวิตามิน C

อาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี อาทิ ส้ม, มะนาว, กีวี่, สตรอว์เบอร์รี, บร็อกโคลี และพริกหวาน อาหารเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีอาการตาแห้ง เนื่องจากวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีบทบาทสำคัญในการปกป้องไม่ให้อนุมูลอิสระไปทำลายเซลล์ในร่างกายรวมถึงดวงตาซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะตาแห้งได้ นอกจากนี้วิตามินซียังจำเป็นสำหรับการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ดวงตามีความชุ่มชื้นและแข็งแรง

อาหารที่มีสังกะสี

สังกะสี หรือ ซิงก์ เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นในการผลิตน้ำตา ซึ่งน้ำตาประกอบด้วยสารต่างๆ มากมาย รวมถึงน้ำ สารเมือก และน้ำมัน ซึ่งช่วยหล่อลื่นและปกป้องดวงตาจากการระคายเคืองและการติดเชื้อ โดยสังกะสีมีบทบาทสำคัญในการผลิตสารเมือกในน้ำตา ซึ่งช่วยให้ดวงตาชุ่มชื้นและป้องกันการระเหยของน้ำตาเร็วเกินไป หากร่างกายขาดสังกะสีอาจทำให้ผลิตน้ำตาได้น้อยลง ซึ่งส่งผลทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ โดยสังกะสีพบพบได้มากในหอยนางรม, เนื้อแดง, ถั่ว, เมล็ดฟักทอง และธัญพืชต่างๆ

Editor’s Tips: นอกจากการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่ช่วยป้องกันและลดอาการตาแห้งเหล่านี้แล้ว เมื่อต้องใช้สายตาหนักควรมีเวลาเว้นว่างในการพักสายตาบ้าง และใช้กฎ 20-20-20 (มองวัตถุที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที ทุกๆ 20 นาที) ก็สามารถช่วยลดอาการตาแห้งจากการมองจอเป็นเวลานานๆ ได้เช่นกัน