SKINCARE

8 วิธีรักษารอยดำจากสิวให้แลดูจางลงได้อย่างเห็นผล

แชร์วิธีจัดการรอยดำจากสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการเลือกใช้สกินแคร์ ไปจนถึงพึ่งเทคนิคทางการแพทย์

     รอยดำจากสิว ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน สีผิวดูไม่สม่ำเสมอ เป็นจุดด่างดำประเภทหนึ่งที่รักษาให้หายได้ค่อนข้างยาก ปัจจุบันมีครีมและเซรั่มมากมายอ้างว่าช่วยลดเลือนจุดด่างดำ แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นใช้ได้ผลจริง หลายครั้งที่ต้องลองผิดลองถูก แต่ร่องรอยจุดด่างดำก็ยังไม่หายสักที วันนี้โว้กบิวตี้จึงมาพร้อมกับวิธีที่จะช่วยลดรอยดำจากสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเราจะแนะนำตั้งแต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการใช้เทคนิคทางการแพทย์

 

1. บอกลารอยดำด้วยเซรั่มลดสิวและรอยสิว

     รอยสิวสามารถจางลงได้เองตามธรรมชาติประมาณ 3 เดือน แต่ถ้าอยากให้รอยสิวจางลงเร็วขึ้นแนะนำให้ใช้ เซรั่มลดสิวและรอยสิว ที่มีส่วนผสมในการช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนให้รอยสิวจางลง เช่น AHA, BHA, PHA  หากมีครบทั้ง 3 ตัวจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการลดเลือนรอยสิวได้ดียิ่งขึ้น เพราะสารทั้ง 3 ตัวนี้สามารถละลายได้ดีในน้ำและไขมัน จึงทำให้ผลัดเซลล์ผิวชั้นบนได้อย่างอ่อนโยน และซึมลึกสู่ชั้นผิวเพื่อขจัดสิ่งอุดตันสาเหตุของการเกิดสิวได้อีกด้วย นอกจากนั้นอีกหนึ่งส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพที่ดีในการลดรอยสิวที่ควรมีในเซรั่มคือ Licochalcone A สารสกัดธรรมชาติจากชะเอมเทศ ช่วยลดการอักเสบที่เป็นสาเหตุของการเกิดรอยสิว และยังเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ ที่ช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีผิวจึงช่วยลดการเกิดรอยสิวได้ นอกจากนั้นยังช่วยปลอบประโลมผิวเป็นสิวและลดการระคายเคือง อีกส่วนผสมสำคัญอย่าง Decanediol ที่ช่วยจัดการเชื้อแบคทีเรียก่อสิว C.acnes ได้ถึงต้นตอ และถ้ามีทั้ง Licochalcone A และ Decanediol จะสามารถช่วยจัดการเชื้อแบคทีเรียก่อสิว C.acnes รวมถึงชนิดที่ดื้อยาได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นควรเลือกเซรั่มที่ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบน ก็จะช่วยลดการเกิดสิวและรอยสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ   

Try this: Pro ACNE SOLUTION SOS SERUM จาก Eucerin (ปริมาณ 40 ml ราคา 990 บาท)



WATCH



 

2. คลีนหน้าให้สะอาดหมดจด และผลัดเซลล์ผิวด้วยเจลหรือโฟมล้างหน้า  

     สิ่งที่ขาดไม่ได้ในเรื่องของการดูแลผิวให้ผิวสะอาดหมดจดคือ เจลหรือโฟมล้างหน้า ที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้า และที่สำคัญควรเลือกเจลหรือโฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของ AHA BHA หรือ PHA ที่สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไปได้อย่างอ่อนโยน ทำให้รอยดำหรือรอยแดงของสิวแลดูจางลง และถ้ามี AHA BHA และ PHA ครบทั้งสามตัว จะทำให้ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการดูแลสิวและรอยสิวได้ดียิ่งขึ้น เพราะสารทั้งสามตัวสามารถทำงานร่วมกันเพื่อผลัดเซลล์ผิวชั้นบน และทำความสะอาดผิวเพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันได้อย่างล้ำลึก รวมถึงความมันบนใบหน้าอันเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวด้วย และที่สำคัญควรเลือกเจลโฟมที่มี Salicylic Acid ในปริมาณที่รักษาสิวได้อย่างเห็นผล เช่น 2% ก็จะทำให้สามารถลดสิว ลดการเกิดสิว และลดรอยสิวได้ตั้งแต่ต้นตอ นอกจากนั้นเจลหรือโฟมล้างหน้าควรเป็นสูตรที่อ่อนโยนต่อผิวเป็นสิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน การระคายเคือง และไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังล้าง เพื่อเผยผิวใสไร้สิวที่สดชื่นและมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

Try this: Pro Acne Solution 3X Treatment Gel to Foam Cleanser จาก EUCERIN (ปริมาณ 150 ml ราคา 700 บาท)

 

3. ใช้สกินแคร์วิตามินซี

     วิตามินซี (Vitamin C) มีประสิทธิภาพสูงในการลดเลือนจุดด่างดำ จึงกลายมาเป็นส่วนผสมยอดนิยมอย่างหนึ่งในสกินแคร์ ขึ้นชื่อเรื่องช่วยลดผิวคล้ำเสียสะสม การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินซีสูง ทาทุกวันหลังทำความสะอาดผิว จะช่วยให้รอยดำแลดูจางลงและผิวก็จะดูสว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

 

Try this: Kiehl’s Powerful Strength Line Reducing Concentrate 50 ml (ราคา 3,250 บาท)

 

4. มองหาส่วนผสมของเรตินอล

     เรตินอลเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ดีที่สุดในการลดเลือนจุดด่างดำ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสามารถช่วยฟื้นฟูความเสียหายของผิว โดยเรตินอลจะแทรกซึมลึกเข้าไปในชั้นผิวเพื่อรักษาจุดด่างดำที่ยังไม่ปรากฏให้เห็น รูขุมขนจะดูเรียบเนียน และอาการสิวจะดีขึ้นหลังจากใช้ครีมหรือเซรั่มที่มีเรตินอล

 

Try this: La Roche-Posay Retinol B3 Serum 30 ml (ราคา 1,275 บาท)

 

5. น้ำมะนาวช่วยขจัดจุดด่างดำ

     มะนาวเป็นผลไม้รสเปรี้ยวที่มีวิตามินซีสูง ซึ่งวิตามินเป็นส่วนผสมที่ขึ้นชื่อเรื่องช่วยลดความหมองคล้ำ และยังอุดมไปด้วยกรด AHA ที่จะไปช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว การนำน้ำมะนาวมาใช้บำรุงผิวให้ประโยชน์ทั้งแง่ลดเลือนรอยดำจากสิว เพิ่มความกระจ่างใส และช่วยขับให้สิวอุดตันออกมาได้เร็วขึ้น

Editor’s tips: นำน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมามาส์กหน้า ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออก

 

6. กรดซาลิไซลิกต้านสิว

     Salicylic Acid (ซาลิไซลิก แอซิด) เป็นหนึ่งในส่วนผสมรักษาสิวที่รู้จักกันดี มีสรรพคุณในการรักษาสิวอุดตันและรอยแผลสิว หรือจุดด่างดำจากสิวได้ดี โดยกรดซาลิไซลิกจะสามารถผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป และเมื่อใช้ในระยะยาวไปอย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยให้รูขุมขนเล็กลงด้วย

 

Try this: ORIGINS Spot Remover™ Anti-Blemish Treatment Gel 10 ml (ราคา 900 บาท)

 

7. ผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี

     การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical Peel) เป็นการนำสารเคมีชนิดต่างๆ มาช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป โดยผิวที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จะมีลักษณะเรียบเนียน และมีสุขภาพดีกว่าเดิม มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหารอยดำจากสิวได้เห็นผลทันที ทั้งนี้เป็นเทคนิคที่ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

 

 

8. เลเซอร์รักษารอยดำและรอยแผลเป็นจากสิว

     เลเซอร์เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่สามารถช่วยลดรอยดำจากสิวได้ สามารถเห็นผลการรักษาได้ในครั้งแรก และถ้าทำต่อเนื่องอย่างน้อย 4 ครั้ง ผลลัพธ์จะดีขึ้นประมาณ 75-90% นอกจากจะช่วยลดรอยแดงดำจากสิวแล้ว ยังมีประสิทธิภาพช่วยทำให้ผิวหน้าอ่อนเยาว์ เรียบเนียน และลดริ้วรอยต่างๆ ด้วย

 

     แต่ก่อนที่จะต้องมารักษารอยดำจากสิวกัน ทางที่ดีควรลดโอกาสการเกิดสิวตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยการใส่ใจดูแลผิว เมื่อเป็นสิวไม่ควรแคะแกะเกา และอย่าปล่อยให้อักเสบระคายเคืองนานจนเกินไป เพราะจะทำให้รอยสิวมีสีเข้มขึ้นจนดูแลได้ยาก

ภาพ : IG: @soleillcro, @isofiagrahn

WATCH