SKINCARE
เปิด 6 ทิปส์ทาครีมให้ซึมซาบไว ไม่กองอยู่บนผิว พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวขั้นสุดคงไม่มีใครชอบให้ครีมกองเหนียวเหนอะหนะอยู่บนผิว ลองทำตาม 5 เทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้ครีมบำรุงผิวหรือมอยส์เจอไรเซอร์ซึมซาบลงสู่ผิวได้ง่ายยิ่งขึ้น |
เคยเป็นไหมทาครีมเท่าไหร่ก็ซึมซาบไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งยังเกิดปัญหาผิวอุดตันกวนใจ ปัญหานี้อาจเกิดการทาครีมผิดวิธีและละเลยการเลือกครีมที่เหมาะกับผิวของตัวเองนั่นเอง โว้กบิวตี้แนะนำ 6 เทคนิคการทามอยส์เจอไรเซอร์ให้ถูกวิธี เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการทาครีมให้ซึมซาบได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างเต็มที่
เรียงลำดับสกินแคร์ให้ถูกต้อง
เรามักย้ำกันเสมอว่าการเรียงลำดับลงสกินแคร์บนผิวเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสกินแคร์แต่ละชิ้นมีเนื้อสัมผัสและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นลิควิด เจล ออยล์ หรือครีมก็ให้การซึมซาบที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งการทาครีมเป็นลำดับที่ควรทำหลังจากทำความสะอาดหน้าและลงผลิตภัณฑ์เนื้อที่เหลวกว่าให้เสร็จเสียก่อน เพราะมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างหนากว่าโทนเนอร์และเซรั่ม ฉะนั้นเราควรลงครีมเป็นอันดับสุดท้ายเพื่อเป็นเกราะป้องกันผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย
ผลัดเซลล์ผิวบ้างเป็นบางครั้ง
การผลัดเซลล์ผิวจะช่วยให้การทาครีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออก รูขุมขนกระชับและเล็กลง ผิวกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำไปในตัว จึงทำให้ผิวหน้าของเราเปิดรับสกินแคร์ได้ดีและง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาการอุดตันของรูขุมขนที่อาจเกิดจากการใช้สกินแคร์มากจนเกินไป พร้อมลดปัญหาสิวอุดตันที่อาจตามมาทีหลังได้
WATCH
Microdelivery Resurfacing Solution จาก Philosophy ขนาด 150 ml (ราคา 1,890 บาท)
ทาครีมให้ถูกทิศทาง
การทาครีมผิดทิศทางอาจเป็นบ่อเกิดของริ้วรอยและความเหี่ยวย่นของใบหน้าก่อนวัยอันควร ฉะนั้นการทาครีมที่ถูกต้องควรทาตามแนวรูขุมขนหรือทาครีมในทางดิ่งลง เพราะจะช่วยเสริมประสิทธิภาพของครีมให้ซึมซาบได้ดียิ่งขึ้น โดยใช้ปลายนิ้วค่อยๆ ถูครีมจากบริเวณจมูกออกไปถึงแก้ม จากนั้นตามมาที่คางและหน้าผาก ใช้สันมือกดเบาๆ บริเวณใต้ตาไล่ลงมาจนถึงคาง หากมีเวลาแนะนำให้ใช้อุปกรณ์เสริมอย่างลูกกลิ้งหินหยกหรืออุปกรณ์นวดหน้าใช้ช่วยในการนวดครีมให้ซึมเข้าผิวได้มากกว่าเดิม
เลือกเนื้อสัมผัสให้เข้ากับสภาพผิว
มอยส์เจอไรเซอร์เป็นไอเท็มที่ควรเลือกเนื้อสัมผัสให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง เช่น ผิวผสมและผิวมัน ควรเลือกครีมบำรุงผิวที่มีเนื้อสัมผัสบางเบาอย่างเนื้อเจลหรือเจลครีม เพราะเป็นวอเตอร์เบสและสามารถซึมซาบได้ง่ายกว่าเนื้อครีมหนักๆ ส่วนผิวแห้งหรือผิวขาดน้ำ ควรเลือกครีมบำรุงผิวที่มีเนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้น เพราะจะช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น ฉะนั้นการการเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวของตนเองก็ย่อมช่วยทำให้ผิวแข็งแรง ดูสุขภาพดีขึ้นอย่างแน่นอน
Water Drench Hyaluronic Cloud Rich Barrier Moisturizer จาก Peter Thomas Roth ขนาด 50 ml (ราคา 2,200 บาท)
ใช้ครีมบำรุงผิวในปริมาณที่พอเหมาะ
มอยส์เจอไรเซอร์เป็นไอเท็มที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น แต่การใช้ในปริมาณเยอะจนเกินไปก็ไม่ได้แปลว่าจะช่วยเติมความชุ่มชื้นได้ดีเสมอไป เพราะจะทำให้ครีมกองอยู่บนผิวและซึมซาบได้ยาก แถมอาจทำให้เกิดปัญหาการอุดตันตามมาทีหลังได้อีกด้วย ฉะนั้นการใช้ครีมบำรุงผิวที่ถูกต้องคือแค่ปริมาณ 1 ข้อนิ้วต่อทั้งใบหน้า แนะนำให้วอร์มครีมบนหลังมือและใช้นิ้วแตะเป็นจุดทั่วใบหน้า จากนั้นนวดตามแนวรูขุมขนให้ครีมซึมลงสู่ผิว
ทาครีมขณะที่ผิวยังชุ่มชื้นอยู่
เวลาที่ดีในการทาครีมบำรุงผิวให้มีประสิทธิภาพคือทาหลังจากการล้างหน้าเสร็จ โดยใช้ผ้าขนหนูซับผิวหน้าให้แห้งเล็กน้อยแต่ยังมีความชุ่มชื้นอยู่ จากนั้นลงสกินแคร์บำรุงผิวตามปกติโดยอย่าปล่อยให้ผิวหน้าแห้งจนเกินไป เพราะเป็นช่วงที่รูขุมขนเปิดรับครีมได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะช่วยให้ครีมซึมเข้าผิวได้มากกว่าผิวตอนที่แห้งสนิทแล้วถึง 10 เท่า
The Porefessional Smooth Sip Lightweight Smoothing Moisturizer For Pores จาก Benefit Cosmetics 50 ml (ราคา 1,790 บาท)
การทามอยส์เจอไรเซอร์ให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่เป็นสิ่งที่ไม่ยากและไกลเกินตัว เพียงแค่เราทาครีมอย่างถูกวิธีและถูกเวลา เลือกเนื้อสัมผัสและส่วนผสมให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง พร้อมบำรุงผิวด้วยสกินแคร์อื่นๆ ที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการบำรุงผิวให้ดียิ่งขึ้น
ภาพ : Courtesy of brands , @christinanadin, @sasha.mei
WATCH